วิจารณ์หนัง Night at the Museum Secret of the Tomb คุณค่าของการจากลา
วิจารณ์ Night at the Museum Secret of the Tomb คุณค่าของการจากลา
ถ้าเราลองมองย้อนกลับไปตั้งแต่ภาคแรก เราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวหนังที่บอกเล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกชาย, ในภาคที่สองเราจะได้เห็นความทะเยอทะยานอยากโบยบินไปสู่โลกกว้างของอมีเลีย เอียฮาร์ท และในภาคล่าสุดเราจะได้เห็นว่าสรรพสิ่งในโลกมีเกิดก็ต้องมีการลาจาก ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบใดก็ตาม
เหตุการณ์ในภาคล่าสุดนั้นบอกเล่าเรื่องราวของมนต์วิเศษจากแผ่นหินของอัคเมนราห์กำลังจะเสื่อมลงเป็นผลให้บรรดาหุ่นในพิพิธภัณฑ์จะไม่สามารถกลับมามีชีวิตได้ทำให้ แลร์รี่ (เบน สติลเลอร์) ยามประจำพิพิธภัณฑ์ต้องหาทางแก้ไขเป็นการด่วน เป็นผลทำให้เขาต้องเดินทางไปยังลอนดอนเพื่อค้นหาวิธีการต่อชีวิตให้กับเพื่อนๆของเขา
ตลอดการเดินทางของแลร์รี่และผองเพื่อนนั้นจะต้องเจอกับความอลม่านมากมายตลอดทาง และแน่นอนว่าตลอดแฟรนชายส์ทั้งสามภาคเหตุการณ์ตลกเหล่านี้ก็ไม่ได้โปกฮาชนิดลั่นโรงภาพยนตร์ มันเป็นมุกตลกที่ชวนอมยิ้มเสียมากกว่าจะปล่อยก๊ากออกมาให้ขากรรไกรต้องปวดร้าว
ความใหญ่โตของโปรดักชั่นงานสร้างในแต่ละภาคนั้นก็ยิ่งใหญ่ขึ้นตามลำดับขั้น เหตุการณ์ในภาคนี้เมื่อย้ายไปเกิดที่ British Museum หรือพิพิธภัณฑ์อังกฤษซึ่งจัดได้ว่าเป็นสถานที่จัดแสดงที่เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นพิพิธภัณฑ์ด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของมนุษย์ รวบรวมวัตถุต่างๆจากทั่วโลกกว่า 8 ล้านชิ้นจึงทำให้หนังสามารถหยิบจับสิ่งต่างๆเอามาเล่นยามที่พวกมันต้องมนต์จากแผ่นหินของอัคเมนราห์ได้มากขึ้น
ฉากที่น่าจดจำมากในหนังภาคนี้ก็คือฉากในห้องที่พวกของแลร์รี่จะต้องผ่านก่อนจะเดินทางถึงห้องประเทศอียิปต์ที่มีบรรดางูยักษ์เฝ้าทางอยู่ มันเป็นฉากต่อสู้ที่ตื่นเต้นเร้าอารมณ์ไม่น้อย ส่วนเจ้าครุฑที่เฝ้าประตูก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวละครขโมยซีนได้อย่างน่ารักน่าชัง และสิ่งที่เหนือความคาดหมายก็คือการปรากศตัวของดารารับเชิญอย่างฮิวจ์ แจ็คแมน ที่เรียกได้ว่าถ้าใครก็ตามที่เป็นแฟนหนังของเขา การจิกกัดตัวเองของฮิวจ์ในหนังเรื่องนี้เรียกได้ว่าขำจนแทบตกเก้าอี้
อย่างที่ได้เกริ่นเอาไว้ตั้งแต่แรกว่าสารัตถะของหนังภาคนี้อยู่ที่ตัวละครอย่างแลร์รี่จะต้องช่วยเหลือชีวิตเพื่อนๆ แต่เมื่อบทสรุปของหนังมาถึงการจากลาและการเปลี่ยนผ่านก็มาถึง ไม่ใช่แค่แลร์รี่จะไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับบรรดาหุ่นโชว์ในพิพิธภัณฑ์อีก แต่การเติบใหญ่ของลูกชายเขาก็เป็นนิมิตหมายที่ชัดเจนว่า เมื่อกาลเวลาผ่านพ้นไปทุกคนก็ต้องเดินไปตามเส้นทางชีวิตของตนเอง ไม่มีใครเหนี่ยวรั้งเอาไว้ได้ และการผจญภัยที่เคยเกิดขึ้นระหว่างผองเพื่อนนั้นมันก็กลายเป็น “ความทรงจำ” ที่ดีไปตลอดกาล
@พริตตี้ปลาสลิด
ให้ 3 คะแนนจาก 5 คะแนน
อัลบั้มภาพ 7 ภาพ