สงครามสะเทือนดวงดาว JUPITER ASCENDING
สงครามสะเทือนดวงดาว JUPITER ASCENDING
นานปีดีดักกว่าเราจะมีโอกาสได้ชมภาพยนตร์แนวไซไฟ-ตะลุยอวกาศเรื่องใหม่ๆ ที่คิดพล็อตเรื่องขึ้นมาใหม่ไม่ได้รีเมคหรือรีบูต ถ้าลองสังเกตดูดีๆ จะพบว่าหนังที่ต้นทุนสูงเหล่านี้ค่อนข้างประสบความล้มเหลวเสียส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Oblivion ที่นำแสดงโดยทอม ครูซ, After Earth ที่นำแสดงโดยพ่อลูกวิล สมิธและ Elysium ที่นำแสดงโดยแมทท์ เดมอนและโจดี้ ฟอสเตอร์ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้สตูดิโอค่อนข้างเลือกหลีกเลี่ยงหนังในแนวทางนี้พอสมควร
ทว่า เจฟฟ์ โรบินอฟ อดีตประธานของค่ายวอร์เนอร์ บราเธอร์ต้องการความสดใหม่ของเรื่องราวบ้าง เขาเลยไหว้วานให้สองผู้กำกับอย่างแอนดี้และลาน่า วาคาวกี้สองผู้กำกับที่โด่งดังมาจากหนังแอ็คชั่นไซไฟแห่งยุคอย่าง The Matrix ที่ทำเงินไปมากมายและคิดค้นปีเจ็คมหากาพย์ดวงดาวเรื่องนี้เมื่อสามปีก่อน
JUPITER ASCENDING นั้นสองพี่น้องผู้กำกับกล่าวว่าพวกเขาใช้เวลาในการพัฒนาบทอยู่นานพอสมควรกว่าจะได้เรื่องราวของจูปิเตอร์ โจนส์ หญิงสาวที่ทำงานเป็นพนักงานขัดห้องน้ำก่อนจะค้นพบว่าในดีเอ็นเอของเธอนั้นมีเชื้อสายของราชินีแห่งกาแล็กซี่ ซึ่งเป็นปรปักษ์กับราชวงศ์เก่าอย่างอะบราเซกซ์ ซึ่งพวกเขาก็ไม่ต้องการที่จะสูญเสียบัลลังก์ของตัวเองไปง่ายๆ พวกเขาจึงทำทุกวิถีทางในการลอบสังหารจูปิเตอร์ ทำให้นายทหารฝีมือดีได้รับภารกิจในการปกป้องราชินีแห่งกาแล็กซี่คนใหม่ให้ปลอดภัย
นอกจากความโดดเด่นทางพล็อตเรื่องที่บอกได้ว่าเป็นเรื่องราวการผจญภัยในโลกจินตนาการและมีฉากต่อสู้กันบนอวกาศ แต่ความโดดเด่นของหนังคือการได้ชมงานวิชวลสุดอลังการและสเปเชียลเอฟเฟคที่ตระการตา นอกเหนือไปจากนี้หนังยังใส่ความโรแมนติกและอารมณ์ขันเข้ามาในเรื่องราวอีกด้วย
ความโดดเด่นอันเป็นสไตล์การทำหนังของพี่น้องแอนดี้และลาน่า วาคาวกี้ก็คือพวกเขาจะไม่ก้าวย่ำความสำเร็จแบบเดิมเป็นอันขาด เป้าหมายหลักในการทำหนังของทั้งคู่จึงเน้นหนักในการนำเสนอเรื่องความสดใหม่ ดีไซน์อวกาศให้แตกต่างไปจากหนังที่คนทั่วไปเคยดูมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนแต่แก่นของเรื่องราวยังคงพูดถึงการเติบโตของตัวละครอยู่ดี
ตัวอย่าง JUPITER ASCENDING