วิจารณ์หนัง SPY เพื่อนสาวสำคัญกว่าผู้ชาย
อันที่จริงถึงหน้าหนังจะเป็นการเอาบรรดานักแสดงนำชายอย่างจู๊ด ลอว์ และเจสัน สเตแธมมาเป็นจุดขายที่ดึงบรรดาผู้ชมกลุ่มใหญ่ (ซึ่งต้องยอมรับว่าคนดูหนังส่วนมากเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง) ดังนั้นมันย่อมตามมาด้วยความคาดหวังประมาณหนึ่งที่ว่าหนังสายลับส่วนใหญ่มักจะเป็น “เพศชาย” มากกว่าเพศหญิง แต่อันที่จริงแล้วตัวหนัง SPY นั้นเป็นเรื่องราวของ “ผู้หญิง” และสายลับคนนี้ก็รับบทโดยเมลิซ่า แมคคาร์ทนีย์ นักแสดงหญิงตลกดาวรุ่ง
เรื่องราวใน SPY เล่าเรื่องของ ซูซาน คูเปอร์ (เมลิสซา แม็คคาร์ธีย์) เป็นนักวิเคราะห์ CIA ผู้ถ่อมเนื้อถ่อมตนและได้แต่นั่งอยู่กับโต๊ะ เธอเป็นวีรสตรีที่ไม่มีใครกล่าวขวัญถึงเบื้องหลังภารกิจสุดอันตรายขององค์กรสายลับแห่งนี้ แต่เมื่อเพื่อนร่วมงานของเธอ (จู๊ด ลอว์) หายสาบสูญไปและสายลับระดับสูงอีกคนหนึ่ง (เจสัน สเตแธม) ก็ถูกเปิดเผยตัว เธอจึงอาสาปลอมตัวเข้าไปแทรกซึมในวงการนักค้าอาวุธซึ่งเต็มไปด้วยอันตรายและป้องกันไม่ให้หายนะระดับโลกเกิดขึ้น
อันที่จริงต้องเล่าถึงตัวผู้กำกับอย่าง พอล ฟีก นั้นจะว่าไปแล้วเขาเป็นอีกหนึ่งผู้กำกับที่เรียกได้ว่าทำหนังที่มีความเกี่ยวข้องกับ “ตัวละครหญิง” ได้อย่างเข้าอกเข้าใจเพศแม่มากๆ ถ้าย้อนกลับไปดูผลงานอย่าง Bridesmaids ที่เล่าเรื่องราวความวุ่นวายของเพื่อนเจ้าสาว เขาก็ทำให้เราทั้งตลกขบขับและเข้าใจวิถีของเพื่อนผู้หญิงในช่วงวัยของการต้องมีคู่ชีวิต ในขณะที่หนังเรื่องถัดมาอย่าง The Heat ที่เล่าเรื่องของสองตำรวจสาวที่ทำงานต่างกันสุดขั้ว เมื่อมาทำงานร่วมกันหลายๆอย่างเลยแปลเปลี่ยนเป็นความฮา แต่เหนืออื่นใดคือมันพิสูจน์ให้เห็นว่าคนที่เข้าใจการทำงานร่วมกันได้ดีที่สุดก็คือผู้หญิง เช่นเดียวกันกับ SPY ที่หยิบ “โลกของผู้ชาย” เป็นใหญ่ เอามาเล่าเรื่องในมุมของผู้หญิง สายลับเป็นผู้หญิง ตัวร้ายเป็นผู้หญิง (แม้ว่าตัวร้ายบิ้กเบิ้มจริงๆของเรื่องจะเป็นมหาเศรษฐีเพศชายก็ตาม) เรื่องราวแม้ว่ามันจะเริ่มต้นจากการที่ซูซานตกหลุมรักแบรดลีย์ก็ตามที แต่สิ่งที่ผลักดันให้เธอออกไปปฏิบัติภารกิจนั้นก็เพราะหน้าที่และความรับผิดชอบต่องานของเธอ สะท้อนความเป็น “เวิร์คกิ้งวูแมน” อย่างชัดเจน
การทำงานของเธอจะไม่ราบรื่นเลยถ้าหากเธอไม่มีเพื่อนสาวอย่างแนนซี (มิแรนด้า เฮิร์ท) ที่ทำงานอยู่ในซีไอเอเช่นกัน คอยช่วยเหลือในยามคับขัน (แม้จะช่วยไม่ได้มากเท่าไหร่นัก) เช่นเดียวกับตัวร้ายอย่างเรน่า (โรส ไบรน์) ที่บังเอิญว่าซูซานจะต้องตามสืบและตีเนียนทำเป็นพวกเดียวกับเธอก็ตามที แต่วิธีการแทรกซึมของซูซานก็เหมือนจะต้องคบกับคนที่เธอเกลียด แต่ก็ไม่สามารถเกลียดเธอได้ลง เพราะความจำเป็นที่ทั้งสองต้องจูนกันให้ติดเพื่อ “ผลประโยชน์” บางอย่างร่วมกัน
SPY ไม่ได้เป็นหนังล้อเลียนหนังแนวสายลับ แต่มันหยิบแนวหนังสายลับมามองใหม่ในมุมมองของตัวละครหญิง (อ้วน) ซะมากกว่า ซึ่งหนังก็ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์สร้างความตลกโปกฮาให้คนดูสนุก อยากเอาใจช่วยตัวละครให้ภารกิจของเธอสำเร็จไปได้ด้วยดี และเหนืออื่นใดคือหนังมาพร้อมความน่าประทับใจที่ว่า “มิตรภาพเพื่อนสาวอยู่ยั้งยืนยง ส่วนผู้ชายนั้นรอได้”
4 คะแนนจาก 5 คะแนน
@พริตตี้ปลาสลิด