วิจารณ์หนัง Extraterrestrial แผ่นดินของเรา?
บทความนี้อาจจะเปิดเผยความลับของหนังในช่วงย่อหน้าสุดท้ายหากไม่ต้องการโดนสปอยล์กรุณางดอ่านย่อหน้าสุดท้าย
แม้ว่าในยุคสมัยปัจจุบันบรรดา “มนุษย์ต่างดาว” ในภาพยนตร์กระแสหลักนั้นมักจะมาในรูปแบบ “ศัตรู” มากกว่า “มิตร” อันที่จริงแล้วบรรดามนุษย์ต่างดาวที่มาในรูปแบบผู้มาเยือนที่น่ารักน่าเอ็นดู เราคงจะอดพูดถึงหนังครอบครัวอย่าง E.T. ของสตีเวน สปีลเบิร์กไปไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกันบรรดามนุษย์ต่างดาวที่มีเป้าหมายไม่แน่ชัดกับมนุษย์โลกนั้นหนังในยุคภายหลังปี 1990 ที่น่าสนใจได้แก่ The Fourth Kind (2009), Night Skies (2007), ALIEN ABDUCTION (2014) แม้ว่าคุณภาพของหนังบางเรื่องจะไม่ได้สู้ดีนัก แต่สภาวะความหวาดกลัวต่อมนุษย์ต่างดาวนั้น สะท้อนความกลัวของมนุษย์ในการระแวงภัยต่อสิ่งที่พวกเขาไม่รู้นั่นเอง
สำหรับ Extraterrestrial เล่าเรื่องราววันหยุดสุดหรรษาของ เอพริล (บริททานี่ อัลเลน) ที่ชวนกลุ่มเพื่อนไปปาร์ตี้ ณ กระท่อมกลางป่า แต่แล้วเกิดเหตุกาณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นมื่อพวกเขาพบแสงจากฟ้าฟาดใส่ดงป่าแถวนั้น จนแฟนหนุ่มของเอพริล ไคล (เฟรดดี้ สโตรม่า) นำทีมออกสำรวจ จนพบกับพบกับไปยานบิน UFO และรอยเท้าของเอเลี่ยน ก่อนที่พวกเขาจะไหวตัวทันก็ตกอยู่ในเหตุการณ์สุดสยองและน่าหวาดกลัวมากกว่าสิ่งที่เขาจะสามารถจินตนาการได้อีกต่อไป แล้วเขาจะเอาตัวรอดได้อย่างไรในสถานการณ์ที่น่ากลัวและไร้ทางรอดถึงเพียงนี้
หนังถูกเล่าเรื่องราวทั้งหมดผ่านสายตาของกลุ่มเพื่อนทั้งห้าที่เดินทางไปพักผ่อนกันในกระท่อมกลางป่า แต่แล้วเมื่อกลางดึกคืนหนึ่งพวกเขาค้นพบว่ามีผู้บุกรุกเข้ามาในกระท่อม การตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวของเอพริลในการ “ยิงปืน” เพื่อปกป้องตัวเอง ทำให้เอเลี่ยนตายคาสระว่ายน้ำ เมื่อพวกเขาตัดสินใจจะเดินทางกลับ พวกเขากลับพบว่าต้นไม้ต้นใหญ่หักโค่นและปิดถนนเส้นเดียวที่จะพาพวกเขาออกไปจากเขตป่านี้ และเมื่อเพื่อนในกลุ่มถูกยานบินดูดตัวเธอขึ้นไปบนฟ้า ทำให้พวกเขาต้องหนีกันอย่างไม่คิดชีวิต
แน่นอนว่าจากจุดนี้หนังจะเดินเรื่องตามสูตรหนังสยองขวัญที่ต้องมีตัวละครถูกเอเลี่ยนฆ่าตาย หรือไม่ก็จับตัวพวกเขาไปทีละคน ทีละคน ปัญหาก็คือบรรดาตัวละครในหนังเรื่องนี้ถูกออกแบบมาได้จัดว่าน่ารำคาญ ชอบโวยวาย ทะเลาะกันเสียงดังจนน่าหนวกหูไม่แพ้กับดนตรีประกอบของเรื่องที่ทุกครั้งยานอวกาศของเอเลี่ยนโผล่มาทีไรก็จะหวูดดังจนหูจะแตก
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือตัวละครคุณลุงเจ้าของสวนกัญชา ที่ล่วงรู้แผนการบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาวและเขาก็เชื่อว่ามันเป็นทฤษฎีสมคบคิดของรัฐบาล มีอยู่ฉากหนึ่งที่เขาตัดสินใจต่อสู้กับบรรดาเอเลี่ยนที่บุกมาในบ้านของเขา ตัวละครนี้ก็ลั่นคำพูดที่ว่า “นี่มันแผ่นดินของข้า ใครก็ไม่มีสิทธิมายุ่งย่าม”
จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นเอพริลหรือลุงจอมเก๋า ต่างก็เลือกจะปกป้องตัวเองจาก “ผู้รุกราน” เพราะไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม การที่ผู้มาเยือนไม่ยอมเจรจา แต่ใช้วิธีการลักพาตัวด้วยลำแสงประหลาด หรือการออกล่ามนุษย์ล้วนแล้วแต่เป็นพฤติกรรมที่ไม่สามารถยินยอมได้เลย ดังนั้นไม่แปลกใจที่ตัวละครในเรื่องจะใช้ “ความรุนแรง” ตอบสนองต่อมนุษย์ต่างดาว
ขณะเดียวกันฉากในช่วงท้ายของหนังก็ทำให้ผู้ชมเห็นว่าจุดประสงค์ของมนุษย์ต่างดาวนั้นจับผู้คนไปทำอะไร อันนำไปสู่คำถามที่ว่าพวกเขามีสิทธิอะไรในการจับคนบนโลกไปทดลอง จนกระทั่งฉากเฉลยของหนังที่ทำให้ผู้ชมได้เข้าใจว่าพวกเขาได้รับ “สิทธิ” นั้นจากใครสักคนบนโลกนี่แหละ
@พริตตี้ปลาสลิด
ให้ 2 คะแนนจาก 5 คะแนน