5 เรื่องน่ารู้ก่อนดู TERMINATOR GENISYS
1.อนาคตครั้งใหม่
เมื่อ จอห์น คอนเนอร์ (เจสัน คลาร์ก) ผู้นำกองกำลังต่อต้านฝ่ายมนุษย์ ได้ส่งสิบเอกไคล รีส (ไจ คอร์ตนี่ย์) ย้อนเวลากลับไปในปี 1984 เพื่อคุ้มครอง ซาร่าห์ คอนเนอร์ (เอมิเลีย คลาร์ก) และป้องกันอนาคต เหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงซึ่งเกิดขึ้นได้ทำให้ลำดับเวลาแตกสลายไป บัดนี้ จ่ารีสพบว่าตัวเขาเองติดอยู่ในอดีตรูปแบบใหม่ที่ไม่คุ้นเคย ที่ซึ่งเขาได้เผชิญทั้งพันธมิตรที่ไม่น่าเป็นไปได้ ซึ่งรวมถึงหุ่นเทอร์มิเนเตอร์รุ่น T-800 ตัวใหม่, ผู้พิทักษ์ (อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์) ศัตรูตัวใหม่ที่มีอันตราย และภารกิจใหม่ที่คาดไม่ถึง นั่นก็คือการกำหนดอนาคตขึ้นใหม่
2.จักรวาลทางเลือก
การเดินทางข้ามกาลเวลาฝังตัวอยู่ในดีเอ็นเอของหนังเรื่องนี้ ซึ่งเพิ่มความเป็นไปได้ของจักรวาลทางเลือกและลำดับเวลาที่แตกต่างกัน การสร้างหนังภาคใหม่ในแต่ละครั้งจะไม่ส่งผลกระทบต่อต้นเรื่อง เรื่องราวเหล่านี้มีตัวตนอยู่และยังคงสืบเนื่องต่อมา มันยังคงเกิดขึ้น แต่ผู้สร้างสามารถบอกเล่าเรื่องที่แตกต่างออกไปได้ ซึ่งเป็นการแตกกิ่งออกไปในทิศทางที่แตกต่างกันได้
3.ครอบครัวที่ผิดปกติ
ทางทีมงานของหนัง TERMINATOR GENISYS มองว่าตลอดระยะเวลาของหนังคนเหล็กที่มีการสร้างกันมานั้นมันเป็นเรื่องราวของ “ครอบครัวที่ผิดปกติ” และเป็นเรื่องราวความรักที่ผู้กำกับในอดีตอย่างเจมส์ คาเมรอน (กำกับภาค 1-2) วางเอาไว้ ณ หัวใจของเรื่อง ท่ามกลางเหล่าเทอร์มิเนเตอร์ แผนกำจัดเผ่าพันธุ์มนุษย์
4.ฉากอดีตแบบแว้บๆจากหนังภาคก่อน
ผู้กำกับอลัน เทย์เลอร์อธิบายว่า หนังภาคนี้เป็นการเริ่มต้นโครงสร้างเวลาที่พวกเรารู้ดีจากเรื่องราวเก่าก่อน และนำมันไปสู่ทิศทางใหม่ และทำมันในแบบที่สมเหตุผล ดังนั้นเราจึงเห็นอนาคตที่เราเคยเห็นในภาพยนตร์ภาคก่อนๆ จากนั้น เราก็ดำดิ่งสู่อดีตที่เราเคยเห็นมาแล้วในภาพยนตร์ภาคก่อนๆ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้พยายามที่จะนำเราไปสู่เขตแดนใหม่ ขณะที่ไม่สร้างความขัดแย้งกับสิ่งใดๆ ที่เรารู้เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว
5.ไม่ต้องดู 1 - 4 มาก็ดูรู้เรื่อง
Terminator Genisys ไม่ใช่งานรีเมค มันไม่ใช่การรีบูต และไม่ใช่ภาคต่อด้วย มันคือการจินตนาการใหม่ที่อิงกับเรื่องราวต้นเรื่องของเจมส์ คาเมรอน คนดูไม่จำเป็นต้องคุ้นเคยกับภาพยนตร์ภาคก่อนๆ เลย นี่คือผลงานที่ยืนด้วยตัวมันเอง แต่สำหรับแฟนๆ ที่เคยดูภาพยนตร์สองภาคแรกมาแล้ว จะมีทีเด็ดอยู่ในนั้น การนำเสนอธรรมชาติของการเดินทางข้ามกาลเวลา เราเดินหน้าสู่เส้นกาลเวลาที่เดินไปคนละทางเพื่อนำพาตัวละครเหล่านี้ที่ทั้งคนดูและผมเติบโตมากับการได้ดูพวกเขา เดินไปในทิศทางใหม่