เลื่อมสลับลาย เรื่องย่อ ละคร ช่อง7
เลื่อมสลับลาย
เลื่อมสลับลาย เรื่องย่อละคร ช่อง7
เรื่องย่อละคร เลื่อมสลับลาย
เรื่องราวของ “หญิงสาวสองคน” ผู้มีชีวิตแตกต่างกันดั่งลวดลายของเลื่อมบนผืนผ้า….ลายหนึ่งงดงามราวสวรรค์สรรสร้าง…อีกลายสวยงามหากไร้ราคาแต่แล้วโชคชะตาก็ส่งบททดสอบครั้งยิ่งใหญ่มาให้ทั้งสองเรียนรู้ความหมาย ที่แท้จริงของคำว่า “ชีวิต” ทำให้หญิงสาวต่างชั้นต่างสังคมอย่าง พาไล และ ปิ่นปัก กลับกลายมีชีวิตสลับกันอย่างคาดไม่ถึง
พาไล หรือ ฉายาในวงการพริตตี้เรียกเธอว่า “น้องเซอร์ไพรส์” หญิงสาววัย 25 ผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างโลดโผน ทำทุกอย่างตามใจตัวเอง เปลี่ยนผู้ชายไม่ซ้ำหน้า ทุกคนจึงให้คำนิยามพาไลว่า “สวยแต่ไร้สติ” ทว่าความจริงแล้วพาไลเป็นผู้หญิงสวยที่มีสติ หากความผิดเดียวของพาไลคือความพลาดพลั้งจากอารมณ์ชั่ววูบในช่วงวัยรุ่นจึงทำให้เธอมีชีวิต “เน่าเฟะ” อย่างทุกวันนี้แตกต่างจาก ปิ่นปัก สาวสวยผู้เพียบพร้อมวัย 25 ปี เป็นผู้หญิงเพียบพร้อมทั้งการศึกษา ฐานะและรูปร่างหน้าตาเรียกว่าเป็นเพชรเม็ดงามสำหรับสังคม ปิ่นปักไม่เคยใช้ชีวิตนอกกรอบ เพราะการอยู่ในกรอบระเบียบทำให้เธออุ่นใจว่าชีวิตของเธอจะต้องพบเจอแต่สิ่งดีๆ ปิ่นปักจึงทุ่มเทชีวิตไปกับการศึกษา เธอตั้งใจนำพาให้ตัวเองไปอยู่ในผู้หญิงจำพวก “สวยมีสติ” ซึ่งมีอยู่จำนวนน้อยในสังคม แล้วปิ่นปักก็ทำได้อย่างง่ายดาย…..เธอจบด็อกเตอร์ด้านสังคมวิทยาจากอเมริกาด้วยทุนของรัฐบาล
ปิ่นปักเพิ่งเดินทางกลับมาจากอเมริกา โดยมี ศก คู่หมั้นหนุ่มหล่อรวยระดับมหาเศรษฐี เป็นที่หมายปองของสาวๆ มารับถึงสนามบินพร้อมกับดอกไม้ช่อโต ศกโผเข้ากอดจูบปิ่นปักด้วยความคิดถึง แต่ปิ่นปักกลับขืนตัวออกจากอ้อมกอดของศก ไม่ยอมให้เขาแสดงความรักต่อเธอกลางที่สาธารณะ เพราะจะทำให้เธอเสียหายแล้ว คำนินทาก็จะลุกลามไปถึงบุพการีของเธออีกด้วย จึงไม่แปลกที่ปิ่นปักจะไม่เคยมีอะไรกับศกเลยซักครั้ง
เมื่อมาถึงหน้าบ้านหลังโตของตัวเอง ที่ตอนนี้มีคอนโดแบบ Low rise ที่ผุดขึ้นตรงหน้าบ้านของเธอช่วงที่ปิ่นปักไปเรียนต่อเมืองนอก ปิ่นปักก็ได้ชมละครน้ำเน่าฉากใหญ่เป็นการต้อนรับกลับบ้าน เพราะตอนนั้นพาไลซึ่งอาศัยอยู่ในคอนโดกำลังยืนด่ากับอีเจ๊เมียหลวงของเสี่ยที่เคยมาติดพันพาไล พาไลยืนยันว่าเธอเลิกกับเสี่ยไปตั้งแต่วันที่รู้ว่าเขาโกหกว่าเมียเป็นมะเร็งมดลูกตาย เมียน้อยที่เสี่ยติดเก้งอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ตน ! พาไลได้พบปิ่นปักก็ดีใจ เพราะพาไลกับปิ่นปักเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนสมัยเรียนมัธยม พาไลไม่เคยรู้ว่าบ้านหลังโตที่เธอมองมาจากระเบียงห้องทุกวันเป็นของปิ่นปัก พาไลปราดเข้าไปทักทายปิ่นปัก แต่ปิ่นปักทำเหมือนไม่เคยรู้จักพาไลมาก่อน ทั้งที่ความจริงแล้วปิ่นปักจำพาไลได้..ความทรงจำครั้งสุดท้ายของเพื่อนคนนี้ก็คือ..พาไลหนีออกจากบ้านไปอยู่กินกับผู้ชายจนพ่อแม่ตัดขาด แล้ววันนี้สิ่งที่ปิ่นปักประจักษ์แก่สายตาก็ทำให้ปิ่นปักเชื่อแล้วว่าพาไลใฝ่ต่ำ !
อาการเชิดหน้าใส่ของปิ่นปักสร้างความหมั่นไส้ให้กับ มิ้ม และ ฝน เพื่อนสนิทของพาไล มิ้มแทบอยากจะไปตบปิ่นปักตามประสาคนเลือดร้อน โผงผาง ตรงไปตรงมา ขณะที่ฝน..หน้าหวานซ่อนร้าย เธอเอาเครื่องในเน่าๆ จากร้านขายหมูไปเทราดเต็มหน้าบ้านปิ่นปักเพื่อความสะใจ ปิ่นปักพอจะรู้ว่าเป็นฝีมือของใคร แต่เธอเลือกใช้วิธีนิ่งสงบเพราะไม่มีประโยชน์ที่จะไปต่อกรกับพวกผู้หญิง “สวยแต่ไร้สติ” คุณยอด กับ คุณโปรย พ่อแม่ของปิ่นปัก ชื่นชมกับการใช้สติปัญญาตัดสินปัญหา ปิ่นปักทะนงตัวว่าวิชาการที่เธออ่านมาทั้งชีวิตทำให้เธอฉลาด สามารถจัดการกับปัญหาได้ทุกอย่าง รวมทั้งเรื่องความรักด้วย
ปิ่นปักยังไม่ยอมแต่งงานกับศกง่ายๆ เพราะเธอยังไม่เกิดความรู้สึกว่า..ศกจะยอมหยุดชีวิตไว้ที่เธอ คนอย่างปิ่นปักจะทำอะไรต้องคิดให้รอบคอบ แต่ศกกลับคิดว่าปิ่นปักกำลัง “เลือก” เพราะตอนนั้นมี เพรียว เพื่อนร่วมงานของปิ่นปักและเป็นเพื่อนของพี่ชายปิ่นปักเข้ามาในชีวิตของปิ่นปัก ศกไม่ยอมเสียปิ่นปักให้ใครไป เขาจึงยอมลดศักดิ์ศรีที่เขาแบกมาทั้งชีวิตคุกเข่าลงตรงหน้าปิ่นปัก ปิ่นปักจึงยอมใจอ่อนแต่งงานกับเขาสักที
ข่าวการแต่งงานของปิ่นปักและศกกลายเป็นข่าวดังในหน้าหนังสือพิมพ์ มีแต่คนเยินยอสรรเสริญว่าคู่นี้เหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก..ชีวิตที่สวยงามของปิ่นปักทำให้พาไลเริ่มละอายใจในชีวิตเหลวแหลกของตัวเอง…เมื่อก่อนพาไลเรียนเก่งกว่าปิ่นปัก เด่นกว่า ดังกว่าด้วยซ้ำเพราะพาไลเป็นเด็กกล้าแสดงออกไม่เหมือนปิ่นปักที่ขี้อาย แต่ดูชีวิตของเธอตอนนี้ช่างต่างลิบลับกับปิ่นปักราวนรกกับสวรรค์
พาไลนึกโทษความโง่เขลาและใจร้อนของตัวเองที่ทำให้ชีวิตของเธอพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ…ในวัย สิบห้าพาไลกำลังมีโลกสดใส คุณเชื่อม กับ คุณพิศมัย ผู้เป็นพ่อแม่เป็นผู้บริหารบริษัทด้านการเงิน ชีวิตของพาไลเพียบพร้อมไม่ต่างจากปิ่นปัก แต่แล้ววันหนึ่งพาไลเกิดทะเลาะกับ บัวทอง ลูกพี่ลูกน้องที่อยู่ในวัยเดียวกันด้วยเรื่องผู้ชาย บัวทองเอาชนะพาไลไม่ได้จึงพูดเรื่องที่เพิ่งรู้มาว่า..พาไลไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของคุณเชื่อมและคุณพิศมัย ทั้งสองเก็บพาไลมาเลี้ยงจากบ้านรับเลี้ยงเด็กกำพร้า พาไลนำเรื่องนี้ไปถามคุณพิศมัย คุณพิศมัยก็ยอมรับความจริง พาไลไม่ได้เสียใจผิดหวังมากเท่ากับความอายต่อสายตาเยาะเย้ยของบัวทอง พาไลจึงประชดด้วยการหนีออกไปอยู่กับเพื่อนผู้ชายที่สนิทกัน ตั้งใจว่าจะเรียกร้องความสนใจด้วยการทำตัวเงียบหายไป แต่คุณเชื่อมสืบรู้ว่าพาไลมาอาศัยอยู่กับเพื่อนผู้ชายที่หอพัก ทำให้คุณเชื่อมคิดไปว่าพาไลใจง่ายใจแตกเหมือนแม่ที่แท้จริงของพาไล พาไลเสียใจที่สุดในชีวิตจึงหนีออกไปจากโลกแสนสวยงามเข้าสู่โลกแห่งคาวโลกีย์ให้สมกับที่พ่อเลี้ยงด่าเธอว่ามีเลือดชั่วอยู่ในตัว…จนวันนี้เวลาล่วงเลยไปสิบปีแล้ว ชีวิตของพาไลผ่านเรื่องราวดีร้ายมามากมายจนเธอรู้สึกเหนื่อยและเบื่อหน่ายกับสิ่งที่เป็นอยู่ ความใฝ่ฝันของพาไลตอนนี้มีแค่อยากเป็น “เมีย” ของใครสักคน ไม่ใช่เป็นแค่คู่นอนแล้วผู้ชายคนนั้นต้องเป็น เนตร แฟนคนล่าสุดของพาไล เพราะเธอกำลังตั้งท้องกับเขา
พาไลทำแผนเซอร์ไพรส์เพื่อบอกข่าวดีนี้กับเนตร แต่ผลปรากฎว่าเนตรไม่รับผิดชอบ ! ซ้ำยังด่าหาว่า ลูกในท้องไม่ใช่ลูกของเขา เขาป้องกันทุกครั้ง ทั้งที่ความจริงแล้วเนตรเคยขอไม่ป้องกันเพราะไม่อยากเสียเวลา แต่อ้างว่าเขาอยากมีลูกกับพาไล เนตรไม่ยอมรับคำพูดของตัวเอง…เขาบอกว่า ผู้หญิงอย่างพาไลไม่ต้องคิดว่าผู้ชายที่ไหนจะเอาเป็นแม่ของลูก แค่จะให้เป็นเมียออกหน้าออกตาก็ยังไม่มีใครเอาเลยด้วยซ้ำ คำพูดของเนตรเสียดแทงเข้าไปในหัวใจของพาไล มิ้มกับฝนแนะนำให้พาไลไปทำแท้งอย่าปล่อยให้เด็กออกมามีปัญหา พาไลไม่ยอม เธอจะไม่มีวันฆ่าลูกตัวเองเหมือนอย่างที่แม่แท้ๆ ของเธอเคยทำไว้กับเธอ
พาไลตัดสินใจไปเรียกเงินจากเนตรก้อนนึงไว้เป็นค่าใช้จ่ายในยามที่พาไลทำงานไม่ได้ เนตรไม่ยอมให้ ทั้งสองทะเลาะตบตีกัน เนตรตั้งใจผลักพาไลตกบันไดเพื่อหวังกำจัด “มารหัวขน” ในท้องพาไล พาไลกลิ้งตกลงอย่างรุนแรงส่งผลให้มีเลือดสดๆ ไหลออกระหว่างขา เนตรเดินหนีไปอย่างไม่ไยดี พาไลเจ็บปวดไปทั้งตัว เธอกัดฟันพาตัวเองออกมานอกตึกในขณะที่ฝนตกกระหน่ำแล้วเดินโซซัดโซเซขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครยอมช่วยหญิงสาวที่เดินตากฝนและร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนบ้า พาไลตัดสินใจเดินไปยืนกลางถนน จนกระทั่งมีรถยนต์คันหนึ่งขับมาอย่างเร็ว พาไลไม่ยอมหลบถ้าจะตายเธอก็ขอตายไปพร้อมกับลูกน้อยในท้อง แต่ก่อนที่รถยนต์จะพุ่งชนร่างของพาไล “ใครบางคน” ก็วิ่งเข้ามาดึงตัวพาไลหลบรถได้ทันอย่างเฉียดฉิวแล้วพาเธอส่งโรงพยาบาล พลเมืองดีผู้นั้นนครินทร์ พี่ชายของปิ่นปักที่เพิ่งจะกลับมาจากเมืองนอกเหมือนกัน
นครินทร์เคยพบพาไลมาก่อนหน้านี้ที่งานโชว์ผลิตภัณฑ์ล้างรถ พาไลโชว์เต้นล้างรถได้อย่างเซ็กซี่ นครินทร์ไม่ได้สนใจแต่กลับถูกพาไลเรียกขึ้นไปร่วมสนุกบนเวที แถมยังแกล้งเขาให้ขายหน้า นครินทร์ไม่คาดคิดว่าผู้หญิง รักสนุกอย่างพาไลเมื่อตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองแท้งลูกจะทำให้เธอคลุ้มคลั่งแทบขาดสติจนน่าสงสาร นครินทร์คอยอยู่ดูแลพาไลตลอดเวลาที่เธอรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ทำให้นครินทร์ได้เห็นมุมอ่อนโยนของผู้หญิงร้ายกาจผู้นี้
ระหว่างพักรักษาตัว…พาไลได้พบกับคุณพิศมัยผู้เป็นแม่เลี้ยงและญาติๆโดยบังเอิญที่โรงพยาบาล พาไลสืบรู้ว่า ตอนนี้คุณเชื่อมเป็นโรคหัวใจนอนโคม่าอยู่ในห้องไอ.ซี.ยู พาไลไม่กล้าเข้าไปสู่หน้ากับอดีตครอบครัว เธอรอให้ทุกคนกลับไปแล้ว พาไลก็แอบเข้าไปหาคุณเชื่อมที่นอนสลบ พาไลยืนมองคุณเชื่อมที่แก่โทรมไปมาก อยู่นาน..เธออยากจะเข้าไปกอดเขาแต่ไม่กล้า จนกระทั่งคุณเชื่อมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพบพาไล คุณเชื่อมยื่นมือไปหาพาไลด้วยคิดถึงและห่วงใย ก่อนที่คุณเชื่อมจะบอกกับพาไลในช่วงลมหายใจเฮือกสุดท้ายว่า…”กลับเนื้อกลับตัวใหม่ซะนะลูกรักของพ่อ” พาไลแอบร้องไห้ด้วยความเสียใจที่สุดในชีวิต…ที่ผ่านมาเธอทำตัวได้ไม่สมกับเป็นลูกของผู้ชายที่รักเธอที่สุดคนนี้เลย
พาไลไปยืนบนสะพานข้ามแม่น้ำ เธอยืนหลับตานึกถึงชีวิตอันเลวแหลก พร้อมกับคำพูดของพ่อแม่บุญธรรม แล้วจู่ๆ พาไลก็ตัดสินใจกระโดดลงไปในแม่น้ำ นครินทร์ตามมาเห็นเข้าก็กระโดดลงไปช่วยพาไลและพูดเตือนสติไม่ให้พาไลคิดสั้น พาไลปฎิเสธว่าไม่ได้จะฆ่าตัวตายที่เธอกระโดดน้ำเพื่อหวังให้แม่น้ำชำระสิ่งสกปรกในตัวและจิตใจของเธอ แล้วเมื่อเธอโผล่ขึ้นน้ำมาอีกครั้ง…เธอจะกลับเนื้อกลับตัว “เริ่มต้นใหม่” เป็นพาไลคนใหม่ที่ยืนในสังคมได้อย่างไม่อายใคร
ขณะเดียวกันปิ่นปักก็กำลังจะ”เริ่มต้นชีวิตใหม่” ในฐานะภรรยาของศก ปิ่นปักกับคุณโปรยวาดฝันเอาไว้ว่าชีวิตหลังแต่งงานจะเป็นชีวิตที่เพียบพร้อม เธอกับศกทั้งความรักและเงินทองมากพอที่จะไม่ต้องมาเป็นปัญหาเรื่องปากท้องเหมือนอย่างครอบครัวอื่น แม้ว่าในงานแต่งศกจะทำตัวไม่น่ารักด้วยการไม่พอใจแขกผู้ใหญ่ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้มาพูดพร่ำสอนเขาเรื่องการครองเรือนบนเวที เพราะศกไม่ชอบให้ใครหน้าไหนมาสอนคนอย่างเขา ปิ่นปักต้องปลอบเขาชุดใหญ่ เขาถึงจะยอมใจเย็น แต่ปิ่นปักเชื่อว่าปัญหานิสัยเอาแต่ใจของศกเป็นเรื่องเล็ก เดี๋ยวค่อยๆ ปรับตัวกันไปก็ได้ แต่นครินทร์ไม่คิดอย่างปิ่นปัก เพราะเขาได้พบเจอผู้คนมามากกว่าปิ่นปัก นครินทร์รู้ว่าคนที่ถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจตั้งแต่เด็กจนโตก็เหมือนไม้แก่ที่จะดัดให้ตรงยากเสียแล้ว นครินทร์หวั่นใจกับชีวิตคู่ของน้องสาวมาตลอด
ส่วนพาไลเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงตัวเองจากการเลิกใช้ชีวิตกลางคืน เลิกใช้ชีวิตฟุ่มเฟื่อย เลิกพึ่งผู้ชายแล้วหาทางยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง แต่เป็นไปด้วยความยากลำบากเหลือเกิน เพราะที่ผ่านมาพาไลประมาทกับชีวิตมากเกินไปไม่เหมือนมิ้มกับฝนที่มีคติในการดำเนินชีวิตว่า “ชีวิตไม่ต้องมีแผนผังแต่ต้องมีแผนที่” ถึงมิ้มจะเป็นลูกคนมีเงิน แต่มิ้มก็ยังรู้จักเก็บเงินทำธุรกิจต่อยอดเงินของตัวเองเพื่อจะได้ไม่ต้องพึ่งผู้ชาย ส่วนฝนก็มีงานประจำทำ แต่พาไลไม่เคยมีอะไรเลย…เคยทำแต่งานพริตตี้ โคโยตี้ เอ็มซี ตอนนี้พาไลก็ทำไม่ได้แล้ว เพราะถูกบรรดานายจ้างแบล็คลิสต์ไปตั้งแต่ครั้งที่เนตรมีเรื่องกับลูกค้า ประกอบกับพาไลอายุมากแล้วด้วย ครั้นพาไลจะไปหางานทำก็มีความรู้แค่ระดับมัธยมเท่านั้น ความหวังที่จะได้งานสุจริตสบายๆ เงินเยอะๆ ดูจะเป็นไปไม่ได้ พาไลตัดสินใจขายรถมินิคูเปอร์ของตัวเองแล้วนำเงินก้อนใหญ่มาลงทุนขายครีมหน้าเด้งในชื่อ “เซอร์ไพรส์” ลงขายในอินเตอร์เน็ตอย่างที่คนสมัยนี้นิยมทำกัน นครินทร์ที่ตอนนี้ทำงานเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังก็อุดหนุนครีมของพาไลไปแจกเพื่อนอาจารย์ หนึ่งในนั้นคือ บัวทอง อดีตญาติลูกพี่ลูกน้องตัวแสบของพาไล !
ตอนนี้บัวทองเป็นอาจารย์สอนวิชาวรรณคดีไทย ภายนอกจึงมีบุคลิกเรียบร้อยงามสง่า แต่ภายในนั้น ขี้อิจฉาเป็นที่สุด บัวทองหมายปองผู้ชายหล่อ ฉลาด จริงใจอย่างนครินทร์ตั้งแต่แรกเห็นและบัวทองก็คิดไปเองว่านครินทร์น่าจะมีใจให้เธอ บัวทองตามตื้อนครินทร์เรื่อยมา แต่พอบัวทองรู้ว่านครินทร์ได้ครีมมาจากเพื่อนผู้หญิง แต่ไม่ยอมบอกว่าเพื่อนที่ไหน ชื่ออะไร บัวทองก็เลยสืบหาตัวเจ้าของครีมด้วยตัวเองจนรู้ว่าเป็นพาไล ! บัวทองแกล้งเอาสารเคมีเป็นพิษใส่ลงไปในครีมของพาไลแล้วเอาไปให้เพื่อนอาจารย์ทาจนหน้าแหก พาไลถูกฟ้องจน หมดตัวภายในชั่วข้ามคืน
ปิ่นปักย้ายไปอยู่ที่เรือนหอราคาหลายสิบล้าน มี แม่มาย คนใช้วัยห้าสิบปี หลังจากคืนเข้าหอคืนแรกผ่านพ้นไป ศกไม่ได้มีท่าทางหวานฉ่ำหรือเอาใจเธออย่างพิเศษเหมือนเมื่อก่อน ซ้ำยังเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ นั้นเป็นเพราะศกได้ครอบครองปิ่นปักสมใจแล้ว และปิ่นปักก็รู้จักนิสัยศกดีว่าเป็นคนขี้เบื่อ ปิ่นปักหวั่นใจกลัวว่าเขาจะเบื่อเธอ
ปิ่นปักนำเรื่องนี้ไปปรึกษา พัชริน เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ปิ่นปักเอาแต่พูดเรื่องของตัวเองกับศกทั้งเรื่องปัญหาและเผลอพูดไปถึงเรื่องการใช้ชีวิตอันแสนสุขสบายตามประสาเมียเศรษฐี โดยไม่ทันได้สังเกตว่า พัชรินอิจฉาปิ่นปัก ตั้งแต่เด็กจนโตพัชรินมักจะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับปิ่นปัก ซึ่งปิ่นปักดีกว่า พัชรินในทุกๆ เรื่อง ขนาดว่าพัชรินอุตส่าห์เลือกสามีเป็นถึงนักการทูตอย่าง คุณยุทธ ที่น่าจะเชิดหน้าชูตาได้ แต่เงินเดือนราชการของสามีพัชรินก็ไม่สามารถบันดาลความสุขให้พัชรินได้สมใจเหมือนที่ศกทำกับปิ่นปัก พัชรินอยากให้ปิ่นปักรู้จักกับคำว่าผิดหวังบ้าง พัชรินจึงพูดยุยงปิ่นปักว่าขึ้นชื่อว่าเมียไม่ว่าจะเป็นเลิศเลอเฟอร์เฟ็คมาจากไหน แต่อีกไม่นานเมียอย่างเราก็จะเป็นแค่น้ำพริกถ้วยเก่าไม่มีสู้น้ำพริกถ้วยใหม่พริกสดๆ หอมอร่อยได้หรอก เมียอย่างเราทำได้อย่างเดียวคือทำใจ
แต่ปิ่นปักไม่ยอมแพ้…เธอเคยทำวิจัยเรื่องปัญหาครอบครัว เธอรู้ว่าถ้าอยากให้ครอบครัวไปได้ตลอดรอดฝั่งต้องใช้หลักการยืดหยุ่น ปิ่นปักเริ่มยืดหยุ่นด้วยการหัดเป็นแม่ศรีเรือน ทั้งๆ ที่เธอชอบทำงานนอกบ้านมากกว่าทำงานบ้าน และติดตามศกไปเข้าสมาคมเพื่อนฝูงที่ล้วนแต่เป็นพวกนักธุรกิจที่คุยกันแต่เรื่องเงินๆ ทองๆ หาแก่นสารไม่เจอ ทั้งชีวิตของปิ่นปักไม่เคยทำเรื่องไร้สาระ ปิ่นปักต้องพร่ำสั่งตัวเองว่าให้อดทนทำเพื่อชายที่รัก แต่เรื่องการยืดหยุ่นนี้เป็นเรื่องที่ตบมือข้างเดียวไม่ดัง ไม่ว่าปิ่นปักจะยอมปรับตัวยังไง หากศกก็ไม่เคยคิดจะปรับตัวเพื่อใครเลย ปิ่นปักต้องทำตามความต้องการของเขาเท่านั้น และปิ่นปักก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไม่ได้มีความอดทนมากนัก เธอจะพูดทุกอย่างที่อยูในใจและพยายามอธิบายเหตุผลในสิ่งที่ไม่ถูกต้องให้ศกฟัง ทำให้ศกเริ่มเบื่อหน่ายผู้หญิงเก่งวิชาการแต่จืดชืดเรื่องบนเตียงอย่างปิ่นปักขึ้นมาแล้ว หนำซ้ำตอนนี้ปิ่นปักตั้งท้อง แล้วอ้วกโอกอากตลอดเวลา ศกรังเกียจจึงไม่ค่อยจะได้กลับบ้าน
ทางด้านพาไลยังหางานทำใหม่ไม่ได้ เงินทองที่มีอยู่ก็ร่อยหรอ ฝนสงสารพาไลจึงฝากงานให้พาไลที่บริษัทเดียวกับเธอ เพราะตอนนั้นฝนกำลังกิ๊กอยู่กับ คุณจำรูญ หัวหน้าแผนกต้อนรับของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของศก ทำให้ชีวิตของพาไลและปิ่นปักต้องวนเวียนมาใกล้กันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ศกได้พบกับพาไล ความสวยของพาไลสะดุดตาศกตั้งแต่แรกพบ แต่สิ่งที่ดึงความสนใจของศกก็คือ พาไลไม่มีทีท่าจะสนใจเขาเหมือนผู้หญิงทุกคนบนโลกเลยแม้แต่นิดเดียว แถมยังแสดงท่าทางจองหองใส่ศกเพราะพาไลเกลียดผู้ชายหลงตัวเองอย่างศกมาก ถ้าไม่ติดว่าศกเป็นเจ้าของบริษัที่เธอทำงานอยู่ เขาคงเจอฤทธิ์พาไลไปแล้ว ประกอบกับศกเห็นนครินทร์มารับพาไล ศกไม่ชอบขี้หน้านครินทร์ที่ชอบมาพูดสั่งสอนเขาเวลาที่เขามีทะเลาะกับปิ่นปัก เขาจะสั่งสอนนครินทร์ว่านครินทร์ยังเป็นแค่เด็กอมมือ ด้วยการทำให้พาไลยอมแพ้อำนาจเงินแล้วยอมเป็นของศก
พฤติกรรมกลับบ้านไม่ตรงเวลา ไม่เอาใจของศกเริ่มทำให้ปิ่นปักกระวนกระวายใจ ยิ่งตอนนี้ปิ่นปักหยุดงานรอคลอด ปิ่นปักไม่ได้ทำงาน..วันๆ อยู่แต่ในบ้าน ทำให้เธอคิดฟุ้งซ่าน ปิ่นปักนำเรื่องนี้ไปปรึกษาคุณโปรย แต่คุณโปรยกลับบอกให้ “ปิ่นปักอดทน ไม่ว่าศกจะเป็นยังไง เขาก็ยังมีเงินทองให้เรา” แต่สำหรับปิ่นปัก ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเงินทองหรือว่าคฤหาสน์หรูหลายสิบล้าน ไม่ช่วยทำให้เธอมีความสุขได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว แต่ปิ่นปักก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากก้มหน้าอดทนต่อไป
ศกสืบจากฝนว่าพาไลกำลังอัตคัดเรื่องเงิน ดังนั้นศกจึงทำตัวเป็นพ่อบุญทุ่มกับพาไลเพื่อหวังให้พาไลใจอ่อนยอมนอนกับเขา นครินทร์รู้เรื่องเข้าแต่ก็ไม่ไปเตือนศกเพราะรู้ดีว่าคนอย่างศกยิ่งพูดก็เหมือนเอาน้ำมันไปราดไฟ เขาไม่มีวันเชื่อคำเตือนของใคร และอีกอย่างเขาอยากจะพิสูจน์ใจพาไลด้วยว่าจะกลับตัวได้จริงหรือเปล่า ศกลงทุนเขียนเช็คเงินสดให้เธอห้าแสนบาท พาไลต้องใช้ความอดทนอดกลั้นปฎิเสธเขาไป แต่ศกก็ยังไม่ยอมแพ้ เขาทำถึงขนาดวางแผนแกล้งไล่พาไลออกจากงาน ถ้าพาไลอยากได้งานทำต่อพร้อมกับเงินเดือนที่สูงขึ้นกว่าเดิมอีกสองเท่า พาไลต้องไป “ง้อ” เขาที่โรงแรมกันสองต่อสอง แต่พาไลก็ยอมถูกไล่ออกจากงาน สำหรับพาไล..การไปนอนกับผู้ชายเพื่อเงินไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอ แต่พาไลไม่มีวันทำร้ายครอบครัวของน้องสาวเพื่อนที่แสนดีอย่างนครินทร์
เมื่อไม่มีงานทำแล้ว พาไลก็ไม่มีเงินมากพอที่จะเช่าคอนโดราคาสูงอยู่ มิ้มกับฝนแนะนำให้พาไลจับนครินทร์ไปเลย แต่พาไลไม่มีวันทำร้ายนครินทร์ นครินทร์เป็นผู้ชายคนเดียวบนโลกที่ไม่เคยชวนเธอขึ้นเตียง “คุณค่าแห่งมิตรภาพย่อมเพิ่มพูนขึ้น เมื่อชายหญิงไม่ได้ผูกสัมพันธ์เพียงเพื่อจะสิ้นสุดลงบนเตียง” พาไลจะไม่มีวันให้เรื่องคาวโลกีย์มาทำให้เธอต้องสูญเสียผู้ชายดีๆ อย่างนครินทร์ไปจากชีวิต
มิ้มจะให้พาไลไปอยู่ด้วยกันเพราะมิ้มต้องเดินทางไป “เรียนภาษา” กับสามีตามประเทศต่างๆ อยู่ตลอด คอนโดนี้ก็มีไว้สำหรับผัวคนไทย แต่พาไลเกรงใจมิ้มเพราะที่ผ่านมามิ้มให้พาไลหยิบยืมเงินมามากพอแล้ว ดังนั้นนครินทร์จึงยื่นมือเข้ามาช่วยพาไล เพราะเขาเป็นสาเหตุที่ทำให้พาไลถูกไล่ออกจากงาน นครินทร์ชวนพาไลไปอาศัยที่เรือนหลังเล็กหลังบ้านเขาแม้รู้ว่าคุณยอดกับคุณโปรยจะไม่ค่อยชอบพาไล แต่ก็ไม่อาจต้านเหตุผลของนครินทร์ได้
พาไลนำเสื้อผ้าที่มีอยู่ไปขายที่ตลาดนัด ด้วยความที่เธอเป็นคนไม่รู้จักคำว่าอาย พาไลจึงมีวิธีเรียกลูกค้าได้อย่างแซ่บและน่าสนใจ เสื้อผ้าของพาไลขายดีมาก พาไลเริ่มมีเงินทุนที่จะหาเสื้อผ้ามาขายเอง ควบคู่ไปกับการเรียน กศน. ชีวิตของพาไลกำลังจะเข้ารูปเข้ารอบ จนกระทั่งวันหนึ่งบัวทองมาที่บ้านนครินทร์แล้วได้พบพาไลอยู่ที่บ้านด้วย บัวทองรีบไปเล่าให้คุณโปรยกับคุณยอดฟังถึงอดีตอันฉาวโฉ่ของพาไลหวังจะให้พาไลถูกไล่ตะเพิดออกจากบ้าน แต่คุณโปรยกลับมีความคิดว่าต้องให้พาไลอยู่ที่บ้านต่อไปดีแล้ว พาไลกับนครินทร์จะได้อยู่ในสายตาตลอดเวลา
หลังจากหงุดหงิดที่ต้องผิดหวังจากพาไล ศกก็บังเอิญได้เสียกับฝน ฝนติดใจในลีลารักของศก ประกอบกับฝนเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์ถูกเมียของจำรูญบุกตบที่หน้าบริษัท ถึงฝนจะแข็งแกร่งแค่ไหนแต่เธอก็รู้สึกอับอาย ฝนเริ่มเบื่อหน่ายกับชีวิตเมียน้อยเหมือนที่พาไลเบื่อหน่าย ฝนจึงเลือกใช้ศกมาหยุดชีวิตเหลวแหลกของตัวเอง ฝนอยากเป็นเมียออกหน้าออกตาของศก พาไลกับมิ้มรู้เรื่องนี้เข้าก็รีบห้ามฝน แต่ฝนไม่ฟัง ฝนทะเลาะกับเพื่อนทั้งสองจนถึงขั้นเลิกคบกัน แล้วฝนก็เริ่มปฎิบัติการกำจัดปิ่นปักออกไปจากชีวิต โดยการพยายามประกาศตัวว่า ศกมีเธออยู่อีกคน แต่ผู้ที่รู้เรื่องก่อนปิ่นปักก็คือ พัชริน
พัชรินรีบทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีคาบข่าวเรื่องศกควงสาวไปเข้าโรงแรมมาบอกปิ่นปัก ปิ่นปักรู้สึกอับอายมากกว่าหึงหวง ผู้หญิงเพียบพร้อมอย่างเธอไม่ควรจะมาเจอเรื่องแบบนี้ ปิ่นปักอยู่นิ่งเฉยไม่ได้จึงนำเรื่องที่พัชรินบอกมาคุยกับศกเพื่อหวังจะให้ศกทำอะไรก็ให้รักษาหน้าของตนบ้าง แต่การที่ศกถูกคาดคั้นถามประหนึ่งว่าตัวเขาเป็นนักโทษทำให้ศกไม่พอใจมาก ทั้งสองมีปากเสียงกัน ปิ่นปักเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าศกเห็นแก่ตัวมากแค่ไหนแต่ในเมื่อเธอเลือกเขามาเป็นคู่ชีวิตแล้ว ปิ่นปักก็ต้องก้มหน้าอดทนต่อไป
ความอดทนก็ต้องถูกทำลายลงในวันที่ปิ่นปักตั้งท้องเก้าเดือนเมื่อฝนมาตามราวีปิ่นปักถึงที่บ้าน ฝนอธิบายฉากรักของตัวเองกับ “ผัวเราสองคน” ได้อย่างละเอียดยิบแค่ไหน ปิ่นปักร้องไห้จนหัวใจแทบแตกสลาย เพรียวรู้เรื่องเข้าก็สงสารปิ่นปักจับใจจึงคอยอยู่ดูแลปิ่นปักระหว่างที่
นครินทร์กำลังเดินทางมาหาปิ่นปัก ศกกลับมาเห็นว่าปิ่นปักกับเพรียวอยู่ในบ้านกันตามลำพัง ศกตรงเข้าไปชกหน้าเพรียวข้อหามาเป็นชู้กับเมียเขา ปิ่นปักโกรธศกที่หาว่าเธอมีชู้ ระหว่างนั้นปิ่นปักก็ปวดท้องคลอดลูก ปิ่นปักให้กำเนิดลูกชายหน้าตาน่ารักชื่อ “หนูหนึ่ง” คุณโปรยกับคุณยอดหวังว่าลูกจะทำให้ศกกลับเนื้อกลับตัว แต่ปิ่นปักไม่ทนอีกต่อไปแล้ว หลังจากออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ปิ่นปักก็เป็นเสมือนนกน้อยที่หลุดออกจากกรง ปิ่นปักฝากลูกไว้กับนครินทร์แล้วโปรยบินหนีไปใช้ชีวิตอิสระที่ไม่ต้องทนกับอะไรอีก
ปิ่นปักกลับมาในสภาพของปิ่นปักคนใหม่ที่แข็งกระด้างกว่าเดิม จากหญิงสาวผู้ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังกลับกลายเป็นหญิงสาวรักอิสระ แต่งตัวใหม่ทำผมใหม่ตามแต่ใจต้องการ และออกเที่ยวกลางคืนแทบทุกคืนและไม่สร้างกำแพงขึ้นมาขวางกั้นผู้ชายที่จะเข้ามาทำความรู้จักกับเธอตามสถานที่บันเทิงแต่ไม่เคยคิดจะนอนกลับใคร ปิ่นปักแค่อยากรู้จัก “มนุษย์” ให้ลึกซึ้งกว่านี้ ทว่าสิ่งที่ปิ่นปักทำกลับกลายเป็นข่าวเม้าท์ว่าปิ่นปักเป็นแม่ม่ายทิ้งลูกอ่อนไปควงผู้ชาย..ทำตัวเหลวแหลกแบบนี้จึงไม่แปลกที่ศกจะขอเลิก ข่าวนี้ทำเอาคุณยอดกับ คุณโปรยอับอายสังคมเสียแทบจะต้องเดินเอาปี๊บคลุมหัว และโยนความอึดอัดลงไปให้ลูกชายผู้เป็นความหวังสุดท้ายของพวกเขา
ขณะที่ปิ่นปักไม่อยากทนกับปฎิกิริยาแคร์สังคมมากกว่าแคร์ลูกตัวเองของพ่อแม่ก็เลยออกจากบ้านไปซื้อคอนโดอยู่ตามลำพัง ซึ่งห้องที่ปิ่นปักซื้อนั้นอยู่ติดกับห้องของมิ้มที่พาไลอาศัยอยู่ แต่ตอนนี้ปิ่นปักไม่มีทีท่ารังเกียจพาไลกับแก๊งค์เพื่อนอีกแล้ว ปิ่นปักเข้าใจแล้วว่า..คนที่ทำในสิ่งที่ไม่ถูกใจเรา ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนเลว ปิ่นปักจึงกลายเป็นแก๊งค์เพื่อนกับพาไลไปด้วย
คุณยอดและคุณโปรยสั่งให้นครินทร์เลิกยุ่งกับพาไลแล้วไปแต่งงานกับผู้หญิงดีๆ อย่าง มินตรา เพื่อนอาจารย์ แต่นครินทร์ปฎิเสธ..เขาไม่มีวันแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รัก สร้างความเครียดให้กับคุณยอดจนเส้นเลือดในสมองแตก นครินทร์รู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุทำให้พ่อป่วยหนักจึงยอมทำตามความต้องการของพ่อแม่ด้วยการลองเปิดใจทำความรู้จักมินตรา ทำให้นครินทร์กับพาไลห่างกันไป พาไลเข้าใจเหตุผลของนครินทร์ดีและคิดว่าตัวเองคงจะไม่เป็นอะไร แต่เปล่าเลย…พาไลเจ็บปวดแทบตาย เช่นเดียวกับนครินทร์ที่ต้องหักห้ามใจไม่ให้คิดถึงพาไล
พาไลก้มหน้าก้มตาทำงานเสื้อผ้าแบรนด์ “พาไล (Pa-rai)” จนกิจการรุ่งเรือง พาไลรู้ว่าคุณพิศมัยแม่เลี้ยงกำลังเดือดร้อนถูกยึดบ้าน เพราะขาดหัวหน้าครอบครัวอย่างคุณเชื่อม พาไลกลับไปที่บ้านเก่าพร้อมกับนำเงินสดไปใช้หนี้แทน ทำให้ทั้งพิศมัยและบัวทองยังมีบ้านซุกหัวนอน บัวทองซึ้งน้ำใจพาไลจึงยอมคืนดีด้วย แต่สิ่งที่พาไลดีใจมากที่สุด ก็คือ การได้กราบเท้าขอขมาพิศมัย
ทางด้านปิ่นปักสงสารพี่ชายและพาไลจึงพยายามพาให้ทั้งสองได้มาพบเจอกันโดยมีเพรียวเป็นผู้ช่วย แต่นครินทร์กับพาไลก็ต้องเจออุปสรรคเป็นบัวทองอยู่เสมอทำให้ความสัมพันธ์ยังไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม ต่างจากปิ่นปักและเพรียวที่ความใกล้ชิดทำให้ทั้งสองได้เสียกันเพราะความเมา แต่ความอบอุ่นที่เพรียวมอบให้ก็ช่วยทำให้ผู้หญิงที่ขาดอย่างปิ่นปักมีความสุข แต่แม่ของเพรียวไม่ยอมรับปิ่นปัก เพราะไม่อยากให้ลูกชายได้กับแม่ม่ายทิ้งลูกอย่างปิ่นปัก ปิ่นปักกลายเป็นที่น่ารังเกียจสำหรับแม่ที่มีลูกชายดีๆ เหมือนพาไลเมื่อก่อนไม่มีผิด ปิ่นปักกับเพรียวจึงแอบคบกันเรื่อยมา โดยที่ปิ่นปักไม่คิดจะเข้าหาแม่ของเพรียวเหมือนอย่างที่พาไลทำกับคุณโปรย หน้าที่ทำให้แม่ใจอ่อนจึงเป็นของเพรียวคนเดียว
แล้วการที่ปิ่นปักกลายเป็นแม่ม่ายทรงเครื่องที่บรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่หมายปอง ทำให้ศกนึกเสียดายอดีตภรรยาขึ้นมาทันที ปิ่นปักรู้ถึง “สันดาน” ของศกแล้วและต้องการจะเอาคืนทั้งศกและ “อีฝน” ปิ่นปักจึงไม่ปฏิเสธศกในทันทีแต่ยั่วยวนให้เขากระหายเธอ แล้วก็เป็นอย่างที่ปิ่นปักคิด ศกตามตื้อปิ่นปักอย่างหนัก ทำให้ทั้งสองตกเป็นข่าวหน้าสังคม เพรียวเข้าใจผิดคิดว่าปิ่นปักจะกลับไปหาศกจริงๆ มิหนำซ้ำแม่ของเพรียวยังตอกย้ำเพรียวว่ารู้หรือยังว่าทำไมแม่ถึงไม่อยากให้เพรียวได้กับปิ่นปัก เพรียวพูดไม่ออกได้แต่ก้มหน้ายอมรับความผิดหวัง ขณะที่ปิ่นปักก็ไม่คิดจะอธิบายความจริงให้เพรียวรู้ เพราะความแค้นที่มีต่อศกมีมากกว่า แล้วต่อมาปิ่นปักก็ทำสำเร็จ ศกขอเลิกกับฝนเพื่อเอาใจปิ่นปักและตอนนี้เขาก็เริ่มเบื่อฝนแล้วด้วย ทำให้ฝนแค้นปิ่นปัก !
ฝนจะเอาคืนปิ่นปักด้วยการดักสาดน้ำกรด ปิ่นปักดิ้นรนต่อสู้กับฝนจนปิ่นปักกระเด็นไปถูกรถชนเข้าอย่างจัง ขณะที่พาไลที่ตามมาช่วยปิ่นปักถูกน้ำกรดจากฝนกระเด็นใส่ ฝนถูกจับไปแต่เธอไม่ยอมออกไปจากชีวิตของศก ศกต้องทนรับกรรมใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงร้ายกาจอย่างฝน
ในช่วงเสี้ยววินาทีสุดท้ายของชีวิต…ภาพเดียวที่ปิ่นปักเห็น ก็คือ ลูก ความแค้น..ความโกรธ..ความเกลียด ที่สุมอยู่ในใจไม่เคยทำให้เธอมีความสุขได้เลยสักนิด ดังนั้นเมื่อปิ่นปักรอดปลอดภัย มีโอกาสได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง…ปิ่นปักจึงทุ่มเทชีวิตและจิตใจให้ลูกคนเดียว แต่ปิ่นปักสัญญากับตัวเองว่าจะไม่คาดหวังให้ลูกเป็นอย่างที่เธอต้องการ ลูกต้องเรียนรู้ชีวิตด้วยตัวเองจะได้ไม่เติบโตเป็นคนที่กระทบหนาวก็หนาวกระทบร้อนก็ร้อนเหมือนอย่างที่เธอเคยเป็นส่วนพาไลก็ได้รับการยอมรับจากครอบครัวของนครินทร์หลังจากที่เสียสละชีวิตช่วยปิ่นปักจนตัวเองเดือดร้อน ความดีเหล่านี้ทำให้คุณโปรยและคุณยอดแน่ใจชัดแล้วว่าถึงพาไลจะไม่ใช่คนขาวสะอาดแต่เธอไม่ใช่ คนชั่ว ความอดทนทำดีของอดีตหญิงสาวโสโครกอย่างพาไลจึงส่งผลให้เธอได้นครินทร์ผู้ชายแสนดีมาเป็นรางวัลให้กับชีวิต
สุดท้าย..เส้นทางเดินของพวกเธอจะเป็นเช่นไร?! ติดตามชม..ความเข้มข้น ที่ ค่ายมงคล การละคร ภูมิใจนำเสนอ…ทุกคืนวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ช่อง 7 สี เริ่มตอนแรก!! วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม 2558
รายชื่อนักแสดงเลื่อมสลับลาย
- แซมมี่ เคาวเวลด์ รับบท “พาไล”
- วงศกร ปรมัตถากร รับบท “นครินทร์”
- คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์ รับบท “ปิ่นปัก”
- อาทิตย์ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ รับบท “เพรียว”
- แมทธิว ฉันทวานิช รับบท “ศก”
- แพร เอมเมอรี่ รับบท “มิ้ม”
- กวินตา โพธิจักร รับบท “ฝน”
- พรรัมภา สุขได้พึ่ง รับบท “มิตรา”
- สิริลภัส กองตระการ รับบท “บัวทอง”
- สาวิตรี สามิภักดิ์ รับบท “คุณโปรย”
- วิวัฒน์ ผสมทรัพย์ รับบท “คุณยอด”
- เทพยุดา ศรียาภัย รับบท “คุณขจี”
- มาติกา อรรถกรศิริโพธิ์ รับบท “พัชริน”
- นฤมล เปี่ยมพงษ์สานต์ รับบท “แสง”
- วรรณภา เสือขุนชัย รับบท “จุ้น (จ้าน)”
- เจจินตัย อันติมานนท์ นักแสดงรับเชิญ “เนตร”
- เกรียงไกร อุณหะนันทน์ นักแสดงรับเชิญ “คุณเชื่อม”
- อังศนา บุรานนท์ นักแสดงรับเชิญ “คุณพิศมัย”
- นาถ ภูวนัย นักแสดงรับเชิญ “คุณเศียร”
- ปริเยศ อังกูรกิตติ นักแสดงรับเชิญ “คุณจำรูญ”
ติดตาม ดูทีวี ทีวีออนไลน์ ดูทีวีออนไลน์ ได้ที่: http://tv.sanook.com/
-------
หนัง : เลื่อมสลับลาย
ช่อง : ช่อง 7
ผู้กำกับ : บุญชู พิทักษ์เลิศกุล
บทประพันธ์ : กฤษณา อโศกสิน
ผู้เขียนบท : ชมนาด
นักแสดงนำ : วงศกร ปรมัตถากร, แซมมี่ เคาวเวลล์