วิจารณ์หนัง SPOTLIGHT – จรรยาบรรณคนข่าว

วิจารณ์หนัง SPOTLIGHT – จรรยาบรรณคนข่าว

วิจารณ์หนัง SPOTLIGHT – จรรยาบรรณคนข่าว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังเรื่อง Spotlight นั้นจะผ่านเวลามากว่า 10 ปีแล้ว แต่ประเด็นในหนังกลับไม่ใช่เรื่องล้าสมัยแต่อย่างใด มันกลับสะท้อนให้ผู้ชมได้มองเห็นว่า “หน่วยงานสื่อสารมวลชน” นั้นมีบทบาทที่สำคัญอย่างไรต่อสังคม และเป็นตัวขับเคลื่อนวิถีชีวิตได้เช่นไร 

จุดเริ่มต้นของหนังเกิดขึ้นเมื่อมาร์ตี้ บารอน (เลียฟ ชไรเบอร์) ย้ายจากไมอามี่มารับตำแหน่งบรรณาธิการคนใหม่ของ นสพ. บอสตัน โกล้บ ตอนฤดูร้อนปี 2001 เขาสั่งให้ทีมข่าวคอลัมน์สปอตไลท์ คอยตามข่าวเล็กๆ ข่าวหนึ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นในตอนนั้นแทบจะทันที ข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องของบาทหลวงท้องถิ่นรูปหนึ่ง ที่โดนกล่าวหาว่าได้ทำการล่วงละเมิดทางเพศลูกศิษย์ประจำโบสถ์ที่อายุยังไม่บรรลุนิติภาวะกว่า 10 คน ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา

แม้จะทราบดีกว่า การเข้าไปหาเรื่องสำนักบาทหลวงคาทอลิกบอสตันนั้นไม่ต่างอะไรกับการไปแหย่รังแตน แต่ทีมนักข่าวสปอตไลท์ทั้ง 4 คน - อันได้แก่ วอลเตอร์ “ร็อบบี้” โรบินสัน (ไมเคิล คีตัน) หัวหน้าทีม, ซาช่า ไฟเฟอร์ (เรเชล แม็คอดัมส์) กับ ไมเคิล เรเซนเดส (มาร์ค รัฟฟาโล) สองนักข่าวหัวเห็ด และ แม็ตต์ คาร์โรลล์ (ไบรอัน ดาร์ซี่ เจมส์) คนหาข้อมูล เมื่อเขายิ่งสืบยิ่งขุดลึกลงไป พวกเขาก็ยิ่งพบกับความน่าตกใจ

หลังจากที่พวกเขาได้พูดคุยกับ มิทเชลล์ การาเบเดี้ยน (สแตนลี่ย์ ทุชชี่) ทนายความของเหยื่อ, ได้สัมภาษณ์เหยื่อล่วงละเมิดทางเพศหลายรายที่ตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว, รวมถึงได้อ่านบันทึกการไต่สวนที่ถูกปิดผนึกมาช้านาน พวกเขาก็ได้พบว่า การกลบเกลื่อนและปกปิดข่าวฉาวของสำนักบาทหลวงคาทอลิกบอสตันนั้น ได้รับการวางแผนอย่างเป็นระบบและทรงประสิทธิภาพจนน่าตกใจ 

พวกเขาถูกสำนักบาทหลวงขัดแข้งขัดขาทุกวิธีทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก พระคาดินัล เบอร์นาร์ด ลอว์ (เลน คาริอู) ผู้ทรงอำนาจในท้องถิ่น แต่บอสตัน โกล้บ ก็ตัดสินใจตีพิมพ์บทความข่าวชิ้นนี้ในเดือนมกราคมปี 2002 และมันก็ได้กลายเป็นข่าวใหญ่สั่นสะเทือนวงการสงฆ์ทั้งประเทศ นำไปสู่การเปิดโปงกรณีล่วงละเมิดทางเพศที่เกี่ยวข้องกับผู้นำทางศาสนาอีกกว่า 200 เมืองทั่วโลก และข่าวชิ้นดังกล่าวชนะรางวัลข่าวสืบสวนยอดเยี่ยมพูลิตเซอร์ไพรซ์ไปครอง

สิ่งสำคัญที่เราได้มองเห็นในหนังเรื่องนี้คือมันได้สะท้อนภาพแวดวงสื่อสารมวลชนคนทำข่าว ที่ทำให้เรามองเห็นกระบวนการทำงานกว่าจะผลิตงานข่าวได้สัก 1 ชิ้น พวกเขาต้องออกไปเสาะแสวงหาข้อมูลกันอย่างยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นการออกไปพูดคุยกับเหยื่อ, การเสาะหาข้อมูลเพิ่มเติมจากห้องสมุด เอกสารทางราชการ หรือกระทั่งคำตัดสินของศาล และยังไม่รวมไปถึงการพูดคุยกับแหล่งข่าวที่สามารถให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ผิดกับยุคปัจจุบันที่เหมือนกับการทำข่าวแค่การเข้าโซเชียลมีเดียแล้วเอาภาพวิดีโอจากแหล่งข้อมูลเดียวกันมานำเสนอจนเกลื่อนและปราศจากแง่มุมของความหลากหลายมุมมอง 

ประโยคที่คมคายของหนังก็คือประโยคที่ว่า “เมื่อมีใครสักคนจุดไฟขึ้นมาท่ามกลางความมืด ทุกคนก็จะมัวแต่ให้ความสนใจแสงสว่างนั้นจนมันมอบดับไปเลยไม่ได้สนใจบริบทอื่นเลย” ราวกับว่าก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่ามีบาทหลวงล่วงละเมิดทางเพศเด็ก แต่เหมือนกับว่าข่าวจะได้รับความสนใจช่วงสั้นๆ และทุกอย่างก็กลับมาเหมือนเดิมและการล่วงละเมิดทางเพศเด็กก็ยังเกิดขึ้นต่อไป ดังนั้นการทำงานของทีมข่าวสปอตไลท์ในครั้งนี้คือการที่พวกเขาต้องเล่นไปให้ถึงตัว “สถาบัน” ว่าเหตุใดกันข่าวเช่นนี้ถึงเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกและกินเวลามาอย่างยาวนานกว่านับสิบปี 

แม้ว่าเรื่องราวจะมีตอนจบที่ผู้ชม “รู้อยู่แล้ว” แต่ระหว่างทางของหนังเรื่องนี้ ผู้ชมก็ยัง “สนุก” ไปกับการทำงานข่าว การสืบความจริงของทีมข่าว ราวกับเรากำลังนั่งดูหนังทริลเลอร์ระทึกขวัญเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ไม่น่าแปลกใจเลยที่ตัวหนังจะได้รับความสนใจจากบรรดาสถาบันประกาศผลรางวัลบนเวทีต่างๆกันอย่างคับคั่ง 

4.8 คะแนนจาก 5 คะแนน 

@พริตตี้ปลาสลิด 

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ วิจารณ์หนัง SPOTLIGHT – จรรยาบรรณคนข่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook