นางอาย เรื่องย่อ ละคร ช่อง 3
นางอาย
เรื่องย่อ นางอาย
รั้วกั้นที่เรียกว่า กำแพงของโรงเรียน ซึ่งทำให้เธอตัดขาดจากสิ่งรอบตัว แต่สิ่งนั้นก็ทำให้เธอก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่ นั้นคือโลกแห่งมิตรภาพ เมื่อความรักของเพื่อนก่อกำเนิดขึ้น ขอบรั้วที่เคยกั้นบีบหัวใจเธอนั้นก็ค่อยๆ ทลายลง กลายมาเป้นสถานที่ปห่งความรักความผูกพัน ที่จะไม่มีมีวันเลือนหายไปจากหัวใจของเธอ
เด่นชาติและเอมอร มีลูกสาววัย 17 ปี ลูกสาวคนเดียว ชื่อ อภิรดี อโณทัย ซึ่งเริ่มจะโตเป็นสาวเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ หลายคน เพื่อนร่วมรุ่นในชั้นเรียน เด่นชาติ และเอมอรตัดสินใจที่จะส่งลูกสาวให้ไปเรียนโรงเรียนคอนแวนต์หญิงล้วนที่ปีนัง เพราะไม่อยากให้ลูกสาว ริมีรักในโรงเรียน ซึ่งนักเรียนหลายๆคนนั้นก็มักจะมองว่าโรงเรียนคอนแวนต์แห่งนั้นคือโรงเรียนดัดสันดารของเหล่าสาวแสบนั้นเอง
นางอาย
วันแรกที่ นาง ได้ก้าวเท้าเข้ามาเรียนในโรงเรียน ซิสเตอร์ออเดรย์ หัวหน้าแม่ชีที่ดูแลนักเรียนประจำชั้น ม.ปลาย รักและเอ็นดูนางมาตั้งแต่แรกเห็น แต่ก็ไม่ปฏิเสธที่จะตรวจค้นกระเป๋าของนางเพื่อดูของที่ไม่จำเป็นต่อการเรียน โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือที่นางแทบ กรี๊ด...ลั่นเมื่อเธอโพสสเตตัสล่าสุดก่อนจะจำยอมส่งมือถือให้กับซิสเตอร์คือ ..”ลาก่อนอิสรภาพของฉัน วันหนึ่งเราคงได้พบกันใหม่” และเธอได้ครีเอทเช็คอินใหม่ว่า เรือนจำคอนแวนต์
คุณแม่อธิการบดี หรือ เรเวอร์เร้นท์มาเธอร์ซิสเตอร์หลุยส์ ผู้เข้มงวดหมายซึ่งหวังจะให้เด่ยชัยพบกับซิสเตอร์เทเรซ่า เธอเป็นแม่ชีไทยคนเดียวที่อกหักจากรักแรกจนต้องตัดสินใจเดินหน้าเข้าหาพระเจ้า และสาบานตนต่อหน้าพระเจ้าว่าชาตินี้จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางโลกอีก ซึ่งอดีตคนรักของเธอนั้นคือท่านรัฐมนตรีเด่นชาติ คุณแม่อธิการต้องการให้ทั้งสองได้พบกัน ก็เพื่อให้ซิสเตอร์เทเรซ่าตัดใจอย่างถาวร แต่เมื่อเด่นชาติพานางเข้ามาในโรงเรียนนั้น ก็ยิ่งทำให้แผลใจของซิสเตอร์ถูกเหยียบซ้ำมากขึ้น นางได้พบรุ่นพี่ชื่อจรรยา เป็นหัวหน้านักเรียนที่อยู่ชั้น ม. 6 จรรยาแนะนำให้นางรู้จักกับกลุ่มนักเรียนในชั้น และฝากให้ สินีนาฏ สาวไทย มีนิสัยเรียบร้อยคอยดูแลนาง
ซึ่งสินินาฏ ถูกส่งมาเรียนประจำตั้งแต่ ม.1 เพราะพ่อและแม่ของเธอนั้นอย่ากัน มีแต่สายนมที่ต้องทำงานคนเดียวและเลี้ยงดูลูก สินีนาฏและนาง ถูกชะตากันตั้งแต่แรกเห็น สินีนาฏแนะนำทุกๆอย่างให้นาง ตั้งแต่สถานที่ต่างๆ ในโรงเรียน กิจวัตรประจำวัน อธิบายเรื่องความสามารถ ในการอาบน้ำแบบ ฟาสสปีด 5 นาทีเสร็จ เพราะมีแม่ชีสุดเฮี้ยบอย่าง ซิสเตอร์ฟรานซิส เป็นผู้ดูแลในการเปิดปิดวาล์วน้ำระหว่างการอาบ เมื่อนางได้ฟังเธอแทบจะร้องให้ที่ต้องมาใช้ชีวิตลำบากอย่างนี้
นางอาย
นอกจากสินีนาฏที่เป็นเด็กไทยแล้ว ก็ยังมีเด็กไทยอีก 2 คนและก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับนางด้วย นั่นก็คือ สายสุดา และมีนา ทั้งสองเป็นเพื่อนที่สนิทกัน ซึ่งสายสุดามองว่ามีนาเป็นลูกน้องของเธอ ส่วนมีนาเองก็อาศัยบารมีของสายสุดาเพื่ออวดเก่งกับคนอื่น เพราะสายสุดานั้นเป็นถึงลูกสาวคนเดียวของท่านกงสุลไทยประจำปีนัง แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าว่าสายสุดานั้นชอบทำตัวเป็นที่สนใจ และเธอต้องเป็นที่หนึ่งเสมอ เพราะปมส่วนตัวที่แท้จริงแล้วนั้นเธอคือ ลูกนอกสมรส
สายสุดานั้นไม่ค่อยชอบหน้านาง เพราะตั้งแต่นางเข้ามาในโรงเรียนนั้นหลายคนก็ให้ความสนใจเกินหน้าเกินตา สายสุดาหาวิธีที่จะแกล้งนางอยู่เสมอแต่กลับโดนนางเอาคืนตลอด อย่างในงานเลี้ยงต้อนรับนักเรียนใหม่ประจำปีนั้น นางโดนสายสุดาแกล้งจนตกลงไปในบ่อบัว สินินาฏพานางไปเปลี่ยนเสื้อผ้า นางได้ทีจึงเอาชุดนักเรียนที่เปียกนั้น เอาไปยัดในตู้เสื้อผ้าของสายสุดา ทำให้สายสุดาโกรธมาก ฝั่งใจไว้ว่างานนี้เธอกับนางจะไม่มีวันที่จะได้อยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขแน่ๆ
และในทุกวันพฤหัสบดีถือเป็นวัน English Day วันที่นักเรียน และซิสเตอร์ทุกคนต้องสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นวันที่สายสุดาและมีนา คอยฟ้องซิสเตอร์ว่า นางนั้นแอบพูดภาษาไทย คุ่อรินอกจากจะเป็นสายสุดาและมีนาแล้ว นางยังมีศัตรูอย่าง จอยคาม สาวน้อยผู้คุ่มถิ่นในปีนัง ที่ได้มีเรื่องปะทะกับนางตั้งแต่แรกเข้ามาเรียนในโรงเรียนนี้ จอยคามเห็นสายสุดาไม่ชอบขี้หน้านางจึงรวมตัวช่วยกันแกล้งนางอีกแรง
เพื่อนสนิทที่คอยช่วยเหลือนางแล้ว ก็ยังมีเพื่อนร่วมลุ่นอีก 2 คนที่สนิทกันคือ ฮองลัน สาวอวบที่รักในการกินเป็นที่สุด ฮองลันเป็นนักเรียนไปกลับที่สนิทกับนาง เพราะทั้งคู่คอยช่วยเหลือกัน และแอบเอาของกินเข้ามากินในรั้วโรงเรียนอยู่บ่อยๆ ฮองลันรักนางมากเพราะนางคือเพื่อนที่เวลาโดนซิสเตอร์นั้นจับได้ว่าเอาอาหารเข้ามากินในโรงเรียน นางก็พร้อมที่จะโดนทำโทษเป็นเพื่อนด้วย เพื่อนที่สนิทกับนางอีกคนก็คือคนที่นางชื่นชมในการใช้ชีวิตบนรถเข็นของเธอนั้น ก็คือ มาเรีย เธอพิการมาตั้งแต่เด็ก และหลายคนนั้นมักจะชอบพูดจาดูถูกนาง และรังเกียจมาเรีย แต่เธอก็ไม่เก็บเอามาใส่ใจ นางคอยช่วยซ่อมรถเข็นให้มาเรียอยู่บ่อยๆ
นางอาย
ในทุกๆวันศุกร์ นักเรียนทุกคนต้องเข้าโบสถ์ เพื่อทำพิธีขอพรพระเจ้า นางไม่เคยรุ้มาก่อนเลยว่า มาเรียจะร้องเพลงได้เพราะขนาดนี้ นางจึงเสนอให้มาเรียนั้นขึ้นร้องนำในกิจกรรมต่างๆ อย่างเช่นงานวันครู นางพยายามที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้มาเรียนั้นได้แสดงความสามารถของตัวเองออกมา จนในที่สุดมาเรีย ก็ได้เป็นผู้ร้องนำ แถมนางนั้นได้รับเลือกจากเพื่อนๆ ทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องให้เป็นตัวแทนนักเรียนไทยเป็นผู้ถือพานไหว้ครู สายสุดาและมีนาโกรธนางมาก ทั้งเสียน้าและเสียตำแหน่งให้นาง คิดวิธีหาทางแก้แค้น แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จอยู่ดี
สายสุดาได้แอบรู้มาว่า นางชอบแอบใช้มือถือของ คัมพล เพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทกับนาง เรียนอยู่โรงเรียนชายล้วนโรงเรียนข้างๆ เพื่อโทรติดต่อพ่อแม่ของเธอ คัมพลเป็นลูกชายคนเล็กของ พิทักษ์ เศรษฐีเหมืองแร่ในภูเก็ต ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเด่นชาติ คัมพลไม่เคยที่จะขัดใจนางเลย เพราะในใจเขานั้นแอบชอบนางอยู่ เรื่องนางติดต่อกับเพื่อนชายต่างโรงเรียน ดังไปทั่ว คุรแม่อธิการได้เรียกตัวท่านธนาธิป กงสุลไทย ที่ได้รับหน้าที่ดูแลเด็กนักเรียนที่ปีนังทั้งหมด และยังเป็นพี่ชายต่างมารดาของสายสุดาอีกด้วย นางจึงไม่ถูกชะตากับธนาธิป ตั้งแต่ยังไม่เจอตัว
ธนาธิปได้ตามตัวผู้ปกครองของนางมาและคัมพลมาพบ ทันทีที่ธนาธิปเจอนางครั้งแรกก็รุ้ว่าพิทักษ์หมายจะให้นางนั้นแต่งงานกับคัมพลหลังเรียนจบจากคอนแวนต์ เมื่อรู้ว่ามีชายหนุ่มเนื้อหอม ฐานะดีมาหมายปองนางนั้น ธนาธิปก็ยิ่งแปลกใจอยู่ไม่น้อยว่าอะไรที่ทำให้คัมพลมาชอบนางได้ขนาดนี้ ธนาธิปยิ่งสงสัยมากขึ้นทุกวันจน .. ยิ่งสงสัยยิ่งเข้าใกล้นางมากขึ้นโดยไม่รู้ตัวอยู่หลายครั้ง การที่ได้เห็นนางแสดงความคิดเห็นต่างๆออกมา ก็ยิ่งทำให้ธนาธิปทึ่งในความเฉลียวฉลาดของนางอยู่เสมอๆ
นางอาย
เมื่อนางและสายสุดาความไม่ลงรอยเริ่มทวีคูณมากขึ้น เมื่อกีฬาสีมาถึง เหล่าซิสเตอร์ทั้งหลายก็ตั้งใจทำกิจกรรมนี้เป็นการสมานแผลให้ระหว่า นางกับสายสุดา โดยจัดให้ทั้งคู่นั้นอยู่สีเดียวกัน แต่แล้วแผนที่เตรียมไว้ก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิด เมื่อสายสุดานั้นแอบร่วมมือกับจอยคามที่อยู่คนละสี โดยแอบโกงในการแข่งขันว่ายน้ำ จนนางเกือบจะจมน้ำเพราะเจ็บขา จอยคามไม่ช่วยนางเลยสักนิด กลายเป็นสินีนาฏ และจรรยาที่ต้องเป็นคนเอานางขึ้นมาจากสระ เหตุการณ์ในครั้งนี้คุณแม่อธิการทราบเรื่องจึงโกรธมาก ทำโทษกลุ่มนางและสายสุดา พร้อมตามตัวธนาธิปให้มาทราบเรื่องนี้ ว่านักเรียนไทยสองกลุ่มนี้มีเรื่องกัน ธนาธิปจึงได้รับหน้าที่ต้องดูแลควบคุมพฤติกรรมของนักเรียนสองกลุ่มนี้เพิ่มอีกตำแหน่ง
บทลงโทษของธนาธิป คือการให้ทุกคนทำความสะอาดบ้านทูต ร้อยมาลัยทำกับข้าวเพื่อต้อนรับจากต่างบ้านต่างเมือง ที่เข้ามาพักที่สถานทูตไทย ซึ่งช่วงแรกๆ นั้นทุกคนพากันอิดโรยมาก แต่หลังๆ กลับเสนอตัวเข้ามาช่วย เพราะได้ออกมานอกรั้วคอนแวนต์ นางแอบชอบไปปีนต้นมะม่วงที่อยุ่ข้างห้องที่ทำงานของธนาธิป ซึ่งแรกๆ ธนาธิปตกใจมาก และได้เรียกนางมาสอนเรื่องความไม่เหมาะสมในความเป็นกุลสตรี แต่พอนานๆ เข้า ธนาธิปก็ปล่อยให้ปีนขึ้นปีนลงอยุ่เรื่อยๆ จนเป็นความคุ้นเคย บางวัน นางก็แอบเข้ามาห้องทำงานของธนาธิป โดยแอบเข้าไปซ่อมหลอดไฟในห้องที่ติดๆดับๆ ด้วย
นอกจากท่ะนาธิปต้องคอยดูแลนักเรียนไทยในปีนังแล้ว ยังมีชัยพงษ์ อีกคนที่เป็นกงสุล ไทยที่ดูแลในเรื่องของกิจกรรมประเพณี และเกี่ยวกับวัฒนธรรม ชัยพงษ์มีโออกาสได้เจอกับกลุ่มของนักเรียนอยู่บ่อยครั้ง ชัยพงษ์เป็นพี่ชายคนกลางของคัมพล จึงได้มีความรู้จักนางส่วนตัวอยู่เหมือนกัน ชัยพงษ์นั้นมีนิสัยต่างกับธนาธิปอย่างมาก เพราะชัยพงษ์คือหนุ่มที่ชอบ Biker มีมอเตอร์ไซค์ Big Bike คันโปรดเป็นคู่หู ธนาธิปไม่ค่อยพอใจที่ชัยพงษ์นั้นสนิทสนมกับนางมากเกินไป แต่ที่จริงแล้วชัยพงษ์นั้นแอบชอบสินีนาฏอยู่ และนางเองก็รู้เรื่องนี้ แถมทำตัวเป็นแม่สื่อให้กับชัยพงษ์ด้วยแต่ สินีนาฏไม่มีใจให้เพราะเธอนั้นมีคนที่แอบชอบตั้งแต่แรกเจออยู่แล้วนั่นก็คือ ธนาธิป
นางอาย
เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี นางเริ่มปรับตัวได้ดีขึ้นกับการใช้ชีวิตอยู่ในรั้วโรงเรียน แต่ก็ยังไม่ทิ้งรอยที่จะแหกกฎระเบียบของโรงเรียนอยู่บ่อย วีรกรรมที่นางโด่งดังสุดๆ ตอนนี้ก็เป็นการนำเอาอาหารคาวหวานซุกในเสื้อผ้าทุกครั้งที่กลับเข้ามาโรงเรียนในวันจันทร์ อาทิตย์นี้เป้นวันเกิดของฮองลัน นางได้แอบวางแผนกะเซอร์ไพร์สวันเกิดของฮองลัน โดยแอบเอาเค้กปอน์ดใส่มาในกล่องรองเท้าพละ ซึ่งให้จรรยาช่วยปล่อยผ่านตอนเข้าเวรตรวจกระเป๋า แต่เมื่อถึงเวลาที่จะเป่าเค้กวันเกิด เมื่อนางเปิดกล่องรองเท้าพละออกมา กลับเจอแต่เค้กปอน์ด ที่น่าจะแสนอร่อยกลับกลายมาเป็นรองเท้าเน่าๆ เก่าๆ คู่เดี่ยวเท่านั้น
เหล่าซิสเตอร์ทั้งหลายโผล่ออกมาพร้อมกับเทียนวันเกิด แท่งหนึ่ง เซ็นส์ฟรานซิสจัดการปักเทียนลงบนรองเท้าคู่นั้น ซึ่งเทียนที่เตรียมมานั้นเป็นเทียนที่ดับยากซะด้วย ฮองลันทั้งโกรธทั้ง อายเพื่อนที่ถูกทำโทษประจานที่ลานกิจกรรม ฮองลัน นาง และเพื่อนๆ โดนทำโทษร่วมกัน ซึ่งถึงจะอดกินเค้กแสนอร่อยแต่ทุกคนต่างรักกันแน่นแฟ้นมากขึ้น
หลายครั้งที่นางมักจะมีปัญหากับ ซิสเตอร์ปอนลีน แม่ชีประจำวิชาดนตรีที่ขึ้นชื่อเรื่องความลำเอียงรักนักเรียนไม่เท่ากัน ซึ่งคนไหนที่ลงเรียนพิเศษเปียโนกับเธอ เธอจะรักและเอ็นดู เด็กพวกนั้นมาก วนนักเรียนคนอื่นมักจะโดนไม่ให้ซ้อม้ปียโนในห้องดนตรีของเธอ นางเห็นว่าสิ่งที่ซิสเตอร์ปอนลีนทำนั้น ไม่มีความยุติธรรม เพราะสินีนาฏมักจะโดนไล่ออกมาจากห้องซ้อมก่อนที่จะหมดเวลา ซึ่งนางพยายามที่จะช่วยเท่าไหร่ก็ยิ่งโดนซิสเตอร์ปอนลีนสั่งทำโทษตลอด
คัมพล อาสามารับนางและเพื่อนๆ ไปเที่ยวกันทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยทุกครั้งที่ชัยพงษ์ก็จะตามมาเจอด้วยเพราะต้องการที่จะพบกับสินีนาฏ สายสุดาเมื่อรูว่านางและพวกเพื่อนๆ ได้เที่ยวในวันหยุดก็หาเรื่องจิกกัด คัมพลอยุ่เสมอ เพราะลึกๆ นั้นก็ไม่พอใจที่คัมพลสนใจพวกนางมากกว่าเธอ ในช่วงสอบปลายภาคเรียนที่ 1 สินีนาฏได้รู้ความจริงเรื่องแม่ของเธอนั้นถูกเพื่อนร่วมธุรกิจนั้นโกงจนหมดตัว และได้ส่งข่าวมาบอกว่าไม่สามารถที่จะส่งเธอเรียนต่อได้แล้ว
นางอาย
สินีนาฏทั้งโกรธและเสียใจมาก ที่ต้องหมดอนาคตลงพียงเท่านี้ ซิสเตอร์ออเดรย์รู้เรื่องจึงขอให้แม่อธการนั้นช่วยเหลือสินีนาฏ ให้ได้เรียนต่อจนจบชั้น ม.6 แม่สินีนาฏต้องย้ายจากนักเรียนประจำชั้นหนึ่งไปเป็นนักเรียนประจำชั้นสองที่ต้อยต่ำกว่า สินีนาฏคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย แต่ซิสเตอร์เทเรซ่านั้นเข้ามาห้ามไว้ได้ทัน ซิสเตอร์เทเรซ่าและซิสเตอร์ออเดรย์ได้เกลี้ยกล่อมจนสินีนาฏยอมเรียนจนจบเพื่ออนาคตของเธอ สินีนาฏห้ามทุกคนไปบอกเรื่องนี้ให้นางรู้ เพราะไม่อยากให้นางช่วยเหลือ และตัดขาดเพื่อนชั้นหนึ่งทุกคน
วันเปิดภาคเรียน ทุกคนแปลกใจมากที่อยู่ สินีนาฏก็ถูกย้ายไปอยู่กลุ่มนักเรียนชั้นสอง พวกสายสุดาเห็นก็เยาะเย้ยถากถาง และสมน้ำหน้า นางได้เข้าไปหาสินีนาฏเพื่อถามหาความจริงทั้งหมด แต่กลับถูกหลบหน้า นางยิ่งทุกข์ใจมากเพราะไม่รู่อะไรเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนรักของเธอ ในที่สุดนางก็ได้รู้เรื่องความจริงทั้งหมดของสินีนาฏ นางได้เข้าไปพบกับคุณแม่อธิการเพื่อส่งตัวสินีนาฏกลับมาเรียนชั้นหนึ่งเหมือนเดิม และจะให้พ่อแม่ของสินีนาฏนั้นส่งเสียสินีนาฏเอง แต่คุณแม่อธิการก็ยังไม่ยอม จนกว่าจะได้ลายลักษณ์อักษรจากเด่นชัย และเอมอร ซึ่งตอนนี้ก็ไม่สามารถติดต่อได้เพราะทั้งสองนั้นไปต่างประเทศ ที่พึ่งสุดท้ายของนางจึงเป็นธนาธิป กลางดึกคืนนั้นนางตัดสินใจที่จะแอบออกจากตึกนอนปีนรั้วเพื่อไปหาธนาธิปที่ห้องทำงาน แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ธนาธิปก็ไล่กลับมาก่อน เพราะธนาธิปเห็นว่าไม่เหมาะไม่ควรที่จะพบกันกลางดึกอย่างนี้ นางได้ขอให้ธนาธิปมาพบเธอที่โรงเรียนในวันพรุ่งนี้
แต่ธนาธิปกลับมาในอีก 2 วันถัดมา นางโกรธมากที่ธนาธิปไม่มาตามที่เธอนัด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะตัวเธอนั้นไม่เหลือใครช่วยเหลืออีกแล้ว นางได้ขอยืมเงินของธนาธิปก่อนจนกว่าพ่อแม่ของเธอจะกลับมา แต่ธนาธิปนั้นจะขออุปการะสินีนาฏเอง ธนาธิปได้อธบายเหตุผลสารพัดจนนางต้องยอมให้ธนาธิปนั้นอุปการสินีนาฏ นางได้ขอร้องไม่ให้ธนาธิปนั้นบอกเรื่องนี้กับสายสุดา เพราะกลัวว่าสายสุดาจะเอาเรื่องนี้ไปข่มสินีนาฏ สินีนาฏรู้เรื่องกับการอุปการะของธนาธิป ก็ยิ่งซาบซึ้งธนาธิป มากขึ้นไปอีก
ชัยพงษ์รู้เรื่องที่ธนาธิปนั้นอุปการะสินีนาฏ ก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเพราะเขานั้นอยากจะรับผิดชอบช่วยเหลือสินีนาฏเองมากกว่าแต่ก็ได้แค่นั้นเพราะตัวเขาไม่มีสิทธิ์ ธนาธิปงานยุ่งมาก จนไม่มีเวลาที่จะมาเยี่ยมสินีนาฏเท่าที่ควร ชัยพงษ์จึงเสนอตัวเองคอยหมั่นไปเยี่ยมสินีนาฏอยู่บ่อยๆ คอยซื้อข้าวของต่างๆ ให้โดยอ้างว่าธนาธิปสั่ง เมื่อชัยพงษ์รุกหน้าที่แทนธนาธิป คัมพลก็ไม่ยอมแพ้พยายามที่จะทำคะแนนกับนาง ธนาธิปไม่พอใจมากที่นางนั้น สนิทสนมกับผู้ชายคนอื่น จึงเริ่มเข้ามาเยี่ยมสินีนาฏมากขึ้น เพื่อจะหาโอกาสที่จะได้เจอกับนางมากขึ้นเช่นกัน
นางอาย
นางบอกให้ธนาธิปพาเธอและสินีนาฏออกไปดูหนัง ยิ่งได้ออกไปเที่ยวด้วยกันก็ยิ่งทำให้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ธนาธิปนั้นชอบในความสดใสร่าเริงของนาง ส่วนสินีนาฏนั้นเขามองเธอเป็นเพียงน้องสาวเพียงเท่านั้น จอยคามที่แอบชอบชอบธนาธิปมานาน เมื่อเห็นธนาธิปมาส่งนางกับสินีนาฏ เธอจึงรีบไปบอกสายสุดา สายสุดาหาเรื่องโดยแกล้งเทขยะใส่สินีนาฏ นางเห็นจึงรีบเข้ามาช่วย ทั้งสองกลุ่มจึงตะลุมบอนกัน ซิสเตอร์ฟรานซิสลงโทษเด็กทุกคนโดยให้เก็บขยะ และทำความสะอาดตึกเรียนทั้งหมด แต่ศึกสรามนั้นก็ยังไม่จบ เมื่อนางและสายสุดานั้นก็ยังทะเลาะกันอีกจนเหล่าซิสเตอร์ต้องเข้ามาแยกทั้งสองกลุ่มออก และหาวิธีที่จะลงโทษทั้งสองกลุ่มนี้ขั้นเด็ดขาด
เมื่อสายสุดารู้เรื่องว่าธนาธิปส่งค่าเทอมให้สินีนาฏ จึงประกาศไปทั่วว่าสินีนาฏให้ท่าพี่ชายเธอ เพื่อให้ส่งเสียเลี้ยงดูหวังจะมาเป็นเมีย สินีนาฏถูกเพื่อนนักเรียนคนอื่นนั้นดูถูกสินีนาฏ โดยเฉพาะจอยคาม จอยคามได้พูดจาดูถูกสินีนาฏสารพัด พร้อมกองหลังสายสุดาที่พูดเหน็บด้านฐานะให้สินีนาฏได้เจียมตัว สินีนาฏร้องไห้เสียใจ นางรู้เรื่องก็แค้นแทนเพื่อนาก วางแผนแก้เผ็ดสายสุดา โดยการเอาหน้ากากผีมาใส่หลอกสายสุดาตอนกลางคืน ข่าวเรื่องสายสุดาโดนผีหลอกนั้น แพร่สะพัดในโรงเรียน แถมสายสุดาถูกทำโทษที่รบกวนเพื่อนๆกลางดึกอีกด้วย
ขณะที่เลิกเรียนตอนเย็นนั้น กลุ่มนักเรียนจะได้ทำกิจกรรมที่ลานกว้างใกล้รั้วระหว่างโรงเรียนหญิงล้วนกับโรงเรียนชายล้วน นางสินีนาฏ และเพื่อนๆได้แบ่งทัมเล่นคิงส์แคมป์กัน นางเผลอตบลูกบอลแรงจนกระเด็นเข้าไปในรั้วโรงเรียนชายล้วน และนางยืนยันในการที่จะปีนรั้วไปเก็บบอลเอง
ขณะที่นางนั้นปีนรั้วไปเก็บบอลที่สนามของนักเรียนชายล้วน ได้เจอ เดวิด กับ ปีเตอร์ นักเรียนชั้นเดียวกันกับ คัมพลแย่งลูกบอลไป และหวังจะลวนลามนาง คริส เพื่อนตัวอ้วนของคัมพลเข้ามาเจอ จึงพยายามที่จะช่วย แต่กลับโดนเดวิด กับปีเตอร์จนต้องหนีไป นางพยายามที่จะหนี แต่ก็ถูกปีเตอร์ละเดวิดจับตัวไว้ คัมพลวิ่งงเข้ามาช่วยและจัดการกับเดวิดและปีเตอร์จนหราบ ทำให้ทั้งสองคนนั้นแค้นคัมพลมาก
ธนาธิป มาหานางด้วยเรื่องที่นางแอบปีนเข้าไปในโรงเรียนชายล้วน จนเกิดเรื่องราวใหญ่โต เพราะนอกจากคัมพลถูกทำโทษโดยสั่งพักการเรียนแล้ว เดวิส และปีเตอร์ยังโดนไล่ออก เพราะก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องชกต่อย แถมยังมีพวกนักเรียนได้ยินมาว่าเดวิดและปีเตอร์นั้นวางแผนที่จะทำร้ายคัมพล นางรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุที่หาเรื่องให้คัมพล จึงขอร้องให้ธนาธิปช่วย ธนาธิปถึงจะเจ็บปวกที่นางนั้นเป็นห่วงชายอื่น แต่ธนาธิปก็รับปากที่จะช่วย และขอให้นางนั้นรับปากว่าจะไม่ก่อเรื่องให้ใครอีก
เดวิดและปีเตอร์พาเพื่อนมาดักรอคัมพลและคริสที่หน้าโรงเรียนตรงถนนเรียบชายทะเล คัมพลได้เอาตัวเข้าปกป้องคริสจนตัวเองบาดเจ็บสาหัส ธนาธิปเข้ามาช่วยเหลือคัมพลได้ทันพร้อมแจ้งตำรวจชาวมาเลย์ให้จับกุมพวกเดวิดและปีเตอร์
ธนาธิปได้สั่งห้ามไม่ให้นางออกไปเที่ยวข้างนอกกับคัมพลอีก เพราะกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย และในเวลาว่างจากชั่วโมงเรียน นั้นธนาธิปก็บังคับนางให้มาอยู่ที่บ้านทูต โดยอ้างนางว่ามาทำงาน เล็กๆ น้อยๆ จะได้ไม่ไปเกเรที่ไหนอีก แต่ลึกๆ แล้วนั้น ธนาธิป อยากที่จะอยู่ใกล้ๆ นางมากขึ้น เพราะเขารู้ตัวเองแล้วว่าตัวเองมีใจให้กับนางแต่ธนาธิป ก็ปิดบังทุกอย่างด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม เจ้าระเบียบ
นางอาย
จอยคามและสายสุดา ได้หาเรื่องแกล้งสินีนาฏ ให้ซิสเตอร์ฟรานซิสเข้าใจผิดว่า สินีนาฏนั้นแอบเอานิยายรักโรแมนติกเข้ามาอ่าน แต่นางกลับรับแทนว่าหนังสือนั้นเป็นหนังสือของเธอเอง นางเลยโดนลงโทษโดยการอดอาหารเย็น ซึ่งคืนนั้นซิสเตอร์ก็ได้แอบเอาขนมปังมาให้ นางซาบซึ้งในความเมตตาของ ซิสเตอร์เทเรซา นางได้พูดว่าขอให้หนูเรียกซิสเตอร์ว่าแม่อีกคนได้มั้ย ซิสเตอร์เทเรซ่าอึ้งมากเพราะถ้าเด่นชาติไม่ทิ้งเธอไป นางก็คงเป็นลูกสาวของเธอจริงๆ
ช่วงเปิดเทอมใหม่ เด็กที่ไม่ได้กลับบ้านจะได้ไปพักที่บังกะโลตันหยงบุหงา นางและเพื่อน นักเรียนประจำพร้อมเหล่าซิสเตอร์ ทุกคนเห็นว่าซิสเตอร์เทเรซ่าเศร้ามากเมื่อมาถึงที่นี่ เพราะแห่งนี้ เป็นสถานที่ที่เธอได้พบรักกับเด่นชาติ ซึ่งเป็นวันที่เด่นชาติขอความรักจากเธอและขอให้ซิสเตอร์เทเรซ่า รอเขาเรียนจบกลับมาจากอเมริกาแล้วแต่งงานด้วย
นางและจอยท้ากันแข่งว่ายน้ำ ออกไปยังไกลฝั่ง เพราะตอนนั้นนางยังฝังใจที่ว่ายน้ำแพ้จอยคาม ในงานกีฬาสีครั้งก่อน จอยคามรับคำท้า สินีนาฏพยายามที่จะห้ามเพื่อนทั้งสองแต่ก็ไม่มีใครยอมฟังเธอเลย ขณะแข่งกัน จอยคามเป็นตะคริวกำลังจะจมน้ำ จอยเห็นก็พยยามที่จะว่ายวนกลับไปช่วย จนช่วยพาจอยคามเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย จอยคามซาบซึ้งในน้ำใจที่นางช่วย เมื่อเรื่องรู้เข้าไปถึงหูซิสเตอร์ ทั้งสองคนได้ถูกลงโทษ ทั้งคู่ได้เปิดใจกัน และเคลียร์เรื่องที่ผิดหมางใจกันต่างๆ พร้อมทั้งจับมือสัญญาว่าต่อไปนี้จะเป็นเพื่อนรักกันอีกด้วย
ธนาธิปคิดถึงนาง จนทนไม่ได้ ได้ขอติดตามเด่นชาติและเอมอรเพื่อมาเยี่ยมสินีนาฏแม่อธิการให้ซสเตอร์เทเรซ่าไปต้อนรับเด่นชาติและเอมอร เมื่อเด่นชาติเจอซิสเตอร์เทเรซ่าก็ตกใจมาก ไม่นึกว่าเธอจะเป็นแม่ชีโรงเรียนคอนแวนด์แห่งนี้ เมื่อโอกาสที่เด่นชาติจะอธิบายเรื่องต่างๆมาถึง เพราะอยู่ด้วยกันสองต่อสอง เด่นชาติพยายามที่จะพูดคุยกับซิสเตอร์เทเรซ่า แต่เธอกลับไม่ยอมคุยด้วย บังเอิญนางเดินเข้ามาพอดี และได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็เริ่มแปลกใจในความสัมพันธ์ของพ่อและซิสเตอร์เทเรซ่า
ธนาธิปได้เปิดบ้านพังกงสุลไทย และจัดงานสต้อนรับเด่นชัยและเอมอรมาพักที่ปีนัง และได้เชิญพิทักษ์กับคัมพล ชัยพงษ์ ลูกชายมาด้วย ขณะงานเลี้ยงเริ่ม ธนาธิปตกตะลึงในการแต่งตัวของนาง ที่น่ารักสดใส ต่างจากสินีนาฏที่สวยในสไตล์หวานๆ ในคืนงานเลี้ยงนั้นคัมพลได้ขอนางเต้นรำ นางก็ไม่ขัดเพราะด้วยไม่ได้คิดอะไรจึงออกมาเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน ธนาธิปได้หาจังหวะที่จะอยู่ตามลำพังกับนาง เพื่อเตือนนางว่าให้รักงวนสงวนตัวบ้าง อย่าปล่อยให้ใครมาจับมือถือแขนง่ายๆ ธนาธิปหวงนางอย่างไม่รู้ตัว แต่นางกลับรู้สึกว่าธนาธิปไม่ชอบเธอ จึงหาเรื่องที่จะมาติเธอทุกอย่าง เธอจะทำอำรก็ผิดไปหมดในสายตาของธนาธิป นางเลยประชดธนาธิปโดยการที่อยู่กับคัมพลยตลอดเวลา ยิ่งทำให้ธนาธิปร้อนรุ่ม และอึดอัดใจมาก
นางอาย
พิทักษ์ได้พูดขอนางให้ทัศนัย ลูกชายคนโต ที่ตอนนี้กำลังเรียนหมออยู่ที่อเมริกา เพราะจากเรื่องที่ชกต่อยกับคัมพล ทำให้เด่นชาติเคยปฏิเสธที่จะให้นางหมั้นกับคัมพล ส่วนชัยพงษ์นั้นก็แอบหลงรักสินีนาฏ ดังนั้นก็มีแค่ทัศนัย คัมพลและชัยพงษ์ได้พานางและสินีนาฏมาเที่ยวงานที่ปีนัง ธนาธิปก็ได้พาสายสุดามาด้วย จึงได้มีโอกาสที่จะไปเที่ยวด้วยกันทั้งหมด และในคืนนั้นธนาธิปได้มีโอกาสอยู่ด้วยกันสองต่อสองอีกครั้ง ธนาธิปได้พานางไปทีจุดชมวิวพนะอาทิตย์ตก ทั้งสองได้เก็บเวลาดีๆร่วมกัน
เมื่อสายสุดารู้ว่าจอยคามเป็นมิตรกับนาง เธอก็โกรธมาก เข้ามาหาเรื่องนางที่บังอาจมาแย่งเพื่อนของเธอไป ทำให้นางและสายสุดาทะเลาะกัน นางเห็นว่าสายสุดานั้นพูดไม่รู้เรื่อง เธอจึงเลิกคุย แต่สายสุดาก็ไม่ยอม ทำให้ทั้งสองตะลุมบอน ยื้อกันไปกันมาจนสายสุดาพลาดท่าล้มหัวแตก นวลใย แม่ของสายสุดารู้เรื่องจึงมาเอาเรื่องถึงโรงเรียน บังคับให้คุณแม่อธิการไล่นางออก แต่งานนี้กลับพลิกล็อก เมื่อเพื่อนทุกคนเป็นพยานว่านางไม่ได้เป็นคนเริ่มเรื่องก่อน และสายสุดานั้นซุ่มซ่ามหกล้มไปเอง แถมธนาธิปนั้นก็ยังเข้าข้างนางอีกด้วย นวลใย เลยทะเลาะกับธนาธิปไปอีกคน
งานนี้นวลใยหลุดปากออกมาว่า เพราะสายสุดาเป็นลูกคนใช้อย่างป้าใช่มั้ย ธนาธิปจึงไม่คิดที่จะนับเธอเป็นญาติ สายสุดานั้นทั้งโกรธทั้งอายเพื่อนๆ ที่รู้ความจริงแล้วเธอนั้นเป็นลูกคนใช้
สินีนาฏเศร้าเรื่องแม่ป่วย จึงไปซ้อมเปียโนเพื่อทำให้จิตใจสบาย โดยเธอไม่รู่เลยว่าห้องข้างๆนั้นมีสอบเปียโนวัดผลกันอยู่ ซิสเตอร์ปอนลีนนั้นโมโหจนขาดสติ เข้ามาอาละวาดในห้องซ้อมเปียโน พร้อมทั้งได้ตบหน้าสินีนาฏต่อหน้าเพื่อนๆ สินีนาฏเสียใจและเจ็บปวดกับการกระทำของซิสเตอร์มาก แต่ก็ไม่มีซิสเตอร์คนไหนที่จะกล้ามายุ่งกับซิสเตอร์ปอนลีน นางทนไม่ได้จึงไปกดดันให้คุณแม่อธิกการพาซิสเตอร์ปอนลีนมาขอโทษสินีนาฏต่อหน้านักเรียนทุกคน งานนี้สายสุดาร่วมพูดช่วยด้วย นางขอบคุณสายสุดาที่ร่วมมือช่วยสินีนาฏ แต่สายสุดาก็ทำตัวเก๊ก ไม่อยากทำดีกับนางมาก
นางอาย
เมื่อเทศกาลวันคริสมาสมาถึง ทุกคนก็ตื่นเต้นกับงานแฟร์ที่จะมีจัดขึ้นในปลายอาทิตย์หน้า ทุกคนได้พร้อมใจกันเตรียมงานสุดๆ มีทั้งการแสดง การออกร้านค้าขายของ รวมทั้งซุ้มสอยดาว ในกิจกรรมงานแฟร์นี้นางได้รับผิดชอบซุ้มสอยดาว เพราะเป็นหน้าที่ของนักเรียน ม.4 ธนาธิปได้มาสอยดาวตามคำเชิญของสายสุดา ตอนนั้นเขาได้เห็นนางพูดคุยกับชายคนหนึ่งอย่างมีความสุข นั่นคือ โต๋เต๋ เพื่อนชายที่ชอบนาง และงพยายามที่จะจีบนางเป็นคนรัก และทำให้นางต้องมาอยู่ที่โรงเรียนคอนแวนด์แห่งนี้ ธนาธิป เอมอร รวมถึงเด่นชาติก็ต่อว่านาง คิดว่านางแอบติดต่อกับโต๋เต๋ นางได้ปฏิเสธ และเสียใจมากที่ธนาธิปไม่เชื่อคำที่นางพูด เธอจึงหนีไป
สุดท้ายชัยพงษ์จึงสอบสวนโต๋เต๋ แล้วก็ยืนยันว่านางพูดความงจริง ธนาธิปรู้สึกผิดมากรีบตามไปง้อนาง เรื่องราวของสาวแก่นแก้วคนนี้จะเป็นอย่างไร ธนาธิปจะง้อนางได้หรือไม่ ติดตามชมละครนางอาย ได้ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง3 ละครนางอาย เริ่มตอนแรกวันเสาร์ที่ 24 กันยายน 2559
ตัวอย่างนางอาย
รายชื่อนักแสดงนางอาย
ธนาธิป แสดงโดย วรินทร ปัญหกาญจน์
นาง/อภิรดี แสดงโดย ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์
สินีนาฏ แสดงโดย ชนกสุดา รักษนาเวส
สายสุดา แสดงโดย คาริสา สปริงเก็ตต์
คัมพล แสดงโดย จักริน ภูริพัฒน์
ชัยพงษ์ แสดงโดย จิตรภาณุ กลมแก้ว
เด่นชาติ แสดงโดย ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี
มีนา แสดงโดย ไรวินทร์ ออง
จอยคาม แสดงโดย พรรณปพร ศรีดุรงคธรรมพ์
ฮองลัน แสดงโดย อภัสริญญา แพมเบอร์เกอร์
มาเรีย แสดงโดย อาริศา หอมกรุ่น
จรรยา แสดงโดย บุณฑรีก์ จิตรีงาม
คริส แสดงโดย ณัชพงศ์พล สุดดี
เดวิด แสดงโดย ภูวดล เวชวงศา
ปีเตอร์ แสดงโดย ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์
คุณแม่อธิการ แสดงโดย อัญชลี จงคดีกิจ
มาการิต้า แสดงโดย นนทิยา จิวบางป่า
ฟรานซิส แสดงโดย เพ็ญพักตร์ ศิริกุล
ออเดรย์ แสดงโดย โฉมฉาย ฉัตรวิไล
เทเรซ่า แสดงโดย สโรชา วาทิตตพันธ์
ปอนลีน แสดงโดย พุทธชาด พงศ์สุชาติ
บันลือ แสดงโดย ศรัทธา ศรัทธาทิพย์
พิทักษ์ แสดงโดย กรุณพล เทียนสุวรรณ
สายสนม แสดงโดย สรวงสุดา ลาวัลย์ประเสริฐ
นวลใย แสดงโดย วิชุดา พินดั้ม
เอมอร แสดงโดย ขวัญฤดี กลมกล่อม
มนตรี แสดงโดย กัณฐ์อเนก นัยนาประเสริฐ
มามุ แสดงโดย จิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต
อักขรา แสดงโดย รอน บรรจงสร้าง
พอล แสดงโดย โฆษวิส ปิยะสกุลแก้ว
ทัศนัย แสดงโดย เมธัส ตรีรัตนอารีสิน
รายชื่อนักแสดงรับเชิญ
เจตน์ แสดงโดย ปณิธิ เครือโสภณ
เทเรซ่า (วัยรุ่น) แสดงโดย มิเชล เบอร์แมน
เด่นชาติ (วัยรุ่น) แสดงโดย สมิทธิ ลิขิตมาศกุล
เหวิ่น แสดงโดย ปรินทร์ วิกรานต์
ลี่ แสดงโดย วราพรรณ หงุ่ยตระกูล
ฟรานซิส (วัยรุ่น) แสดงโดย ภรภัทรา ทวีพันธุรัตน์
มีเนาะ แสดงโดย ภาพินี ศรีมี
ริต้า แสดงโดย ดวงหทัย ศรัทธาทิพย์
ศยา แสดงโดย สรัลชนา อภิสมัยมงคล
พิทักษ์ (วัยรุ่น) แสดงโดย ศุภชัย สุวรรณอ่อน
หนัง : นางอาย
ช่อง : ช่อง 3
ออกอากาศทุกวัน : ศุกร์, เสาร์, อาทิตย์
ผู้กำกับ : ปวันรัตน์ นาคสุริยะ
บทประพันธ์ : นราวดี
ผู้เขียนบท : คฑาหัสต์ บุษปะเกษ
นักแสดงนำ : เกรท วรินทร, ณิชา ณัฏฐณิชา, คาริสา สปริงเก็ตต์, แก๊ป จักริน