วิจารณ์หนัง THE WAVE การมาถึงของคลื่นยักษ์
เชื่ออย่างหนึ่งว่าคอหนังบ้านเราจะให้การตอบรับกับหนังในตระกูลภัยพิบัติกันเป็นอย่างดี ทว่าข้อจำกัดประมาณหนึ่งของคนหนังชาวไทยก็คือมักจะกลัวหนังที่ไม่ได้พูด “ภาษาอังกฤษ” ดังนั้นรอบฉายของ The Wave ในประเทศไทยกว่า 70% นั้นจึงเข้าฉายในเวอร์ชั่นพากย์ไทย ส่วนเวอร์ชั่นเสียงในฟิล์มนั้นก็เข้าฉายเฉพาะย่านใจกลางเมืองเท่านั้น แต่ก็ดูเหมือนว่าการมาถึงของหนังอย่าง Captain America Civil War จะกำหนดชะตากรรมรอบฉายของหนังเรื่องอื่น The Wave ก็เช่นเดียวกันที่รอบฉายลดฮวบเกือบเกลี้ยงโรงหนัง
The Wave นั้นดัดแปลงมาจากเหตุการณ์จริงที่เคยเกิดขึ้นในประเทศนอร์เวย์ ในชนบทเล็กๆการที่ภูเขาเกิดสไลด์และถล่มในที่สุดนำมาซึ่งภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่ โดยตัวหนังเลือกจะเปิดตัวด้วยการเอาภาพเหตุการณ์จริง รวมไปถึงภาพข่าวในอดีตมาเล่าสรุปให้ผู้ชมได้เห็นในช่วงต้นเรื่อง
ตัวหนังเดินเรื่องราวตามสไตล์หนังภัยพิบัติอย่างชัดเจน เมื่อบรรดาทีมนักธรณีวิทยาที่มีคริสเตียน เอคโฟร์ด (รับบทโดย คริสโตฟเฟอร์ โยเนอร์) เป็นหัวหน้าตรวจสอบและค้นพบการเปลี่ยนแปลงของภูเขา ลางร้ายบางอย่างก็เริ่มส่อเค้าขึ้น ในฐานะทั้งหัวหน้างานและพ่อคน เขาจึงต้องรับผิดชอบชีวิตของผู้คนในเมืองและพาลูกๆเอาชีวิตรอด
ความระทึกของหนังเริ่มต้นเมื่อหนังผ่านไปแล้วราว 50 นาทีหลังจากสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นเหล่าชาวเมืองมีเวลาแค่เพียง 10 นาทีก่อนที่คลื่นยักษ์จัดซัดถล่มตัวเมือง การหนีตายของบรรดาตัวละครหลักจัดได้ว่าตื่นเต้นระทึกใจ ไม่แพ้กับเทคนิคพิเศษของเรื่องที่เรียกได้ว่าดูสมจริงและไม่กิ๊กก๊อกตามประสาหนังเกรดบีแต่อย่างใด
เหตุการณ์ต่อเนื่องหลังจากที่คลื่นยักษ์ได้ถล่มตัวเมืองแล้วบรรดาผู้ที่เหลือรอดก็ต้องพยายามเอาชีวิตให้รอดจากสถานการณ์จมน้ำ การหนีออกจากที่ปิดตาม รวมไปถึงการที่ตัวเอกอย่างคริสเตียนต้องพยายามตามหาบุคคลในครอบครัวที่เขารัก
แม้ว่าจะเป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากเหตุการณ์จริงก็ตาม แต่การเดินเรื่องตามสูตรสำเร็จของเรื่องก็ไม่ได้น่าเบื่อหน่าย หรือขาดความตื่นเต้นสักเท่าไหร่นัก (อันที่จริงมันให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับหนังอย่าง San Andres ที่เดอะร็อคนำแสดงในปีก่อนเลยทีเดียว) โดยฉากใหญ่ๆระทึกใจนั้นอาจจะมีอยู่แค่ 3 ฉากนั่นก็คือช่วงที่ภูเขาเกิดแผ่นดินถล่มและเหล่านักธรณีวิทยาที่ติดอยู่ในช่องแคบของหุบเขา, ฉากคลื่นยักษ์ถล่มเมือง (แต่หนังโฟกัสที่ขอบภูเขาที่ตัวเอกหนีตายและโรงแรมที่นางเอกของเรื่องทำงาน), ฉากช่วงที่โรมแรมโดนน้ำท่วมและคริสเตียน เอคโฟร์ดต้องเข้าไปช่วยเหลือภรรยาของเขา เป็นหนังฟอร์มกลางที่ดูได้เพลินๆ เผื่อใครอยากจะหาหนังทางเลือกที่ไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่ The Wave ก็พอให้ความบันเทิงได้ครับ
@พริตตี้ปลาสลิด
3.5 คะแนนจาก 5 คะแนน