Alice Through the Looking Glass หนังเรื่องแรกของปีจากค่ายดิสนีย์ที่ส่อแววเจ๊ง
หลังจากที่ภาคต่อของ Alice in Wonderland ในชื่อภาคต่อที่ว่า Alice Through the Looking Glass เปิดตัวทำรายได้จากการเข้าฉายในอเมริกาเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมาด้วยรายได้ต่ำเตี้ยจากวันดังกล่าวจนถึงวันนี้ ตัวหนังสามารถทำรายได้ในอเมริกาเหนือไปเพียง 43 ล้านเหรียญเท่านั้น และรายได้อีกว่า 61% นั้นมาจากตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นจำนวนเงิน 69 ล้านเหรียญ ทำให้ตอนนี้หนังทำเงินไปทั้งสิ้นรวมทั่วโลก 112 ล้านเหรียญ แต่เมื่อพิจารณาจากทุนสร้างที่สูงถึง 170 ล้านเหรียญแล้ว หนังส่อแววขาดทุนอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
Alice Through the Looking Glass ได้รับคำวิจารณ์ในแง่ลบไม่เพียงแต่ฝั่งนักวิจารณ์เท่านั้น แต่เหมือนคนดูก็ไม่ชอบหนังภาคนี้สักเท่าไหร่เช่นกัน เดิมทีค่ายหนังอย่างดิสนีย์คาดหวังไว้ว่าหนังน่าจะเปิดตัวด้วยรายได้ 60 ล้านเหรียญ แต่ความมั่นใจแบบผิดๆของดิสนีย์ที่เลือกจะเอาหนังเรื่องนี้เข้าฉายในอเมริกาพร้อมชนกับหนังซูเปอร์ฮีโร่อย่าง X-Men: Apocalypse ทำให้หนังทั้งสองเรื่องตัดรายได้กันเองด้วย
อย่างไรก็ตามสำหรับ Alice in Wonderland ภาคแรกของหนัง เปิดตัว 116.1 ล้านเหรียญจากการฉายสัปดาห์แรกในสหรัฐ เมื่อมีนาคม 2010 ก่อนจะปิดรายได้ในอเมริกาด้วยเงิน 334 ล้านเหรียญและถ้านับรายได้รวมจากทั่วโลกแล้วหนังภาคแรกกลับทำเงินไปทั้งสิ้น 1,025 ล้านเหรียญจากทุนสร้างที่สูงถึง 200 ล้านเหรียญ
โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภาคใหม่ของ Alice Through the Looking Glass นั้นบอกเล่าเหตุการณ์หลังจากที่อลิซเดินทางจากดินแดนแห่งวันเดอร์แลนด์ไปเป็นเวลานานเหตุการณ์ต่างๆก็เปลี่ยนแปลงไปจนกระทั่งเจ้าแห่งเวลายึดครองดินแดนวันเดอร์แลนด์จนอลิซถูกเรียกตัวกลับมายันดินแดนวิเศษเพื่อช่วยเพื่อนๆของเธอ นอกจากนี้บรรดาตัวละครจากภาคแรกอาทิ ช่างทำหมวกสุดเพี้ยน แมด แฮทเทอร์, ราชินีโพแดง, ราชินีขาว ก็เรียกว่ากลับมากันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
ตัวหนังถูกวางกำหนดเข้าฉายในบ้านเราวันที่ 11 สิงหาคมต้อนรับวันแม่ แต่ก็ไม่แน่ถ้าหากหนังเจ๊งหนักมากในอเมริกา อะไรก็เกิดขึ้นได้......
@พริตตี้ปลาสลิด
ตัวอย่างภาพยนตร์ Alice Through the Looking Glass