ดูแล้วบอกต่อ วิจารณ์หนัง Now You See Me 2 กล "โกง" คนดู

ความสำเร็จของหนัง Now You See Me ภาคแรกนั้นมาจากพล็อตเรื่องที่หยิบเอาศาสตร์ของมายากลเอาเข้ามาผสมผสานกับสไตล์ของหนังแอ็คชั่นจารกรรม และแม้ว่าหนังภาคแรกจะไม่ได้ดิบดีนัก เพราะบรรดานักวิจารณ์ก็สวดยับถึงความไม่สมเหตุสมผลในหลายๆอย่างรวมไปถึงหนังยัง “โกง” คนดูด้วยการเปิดเผยบทสรุปที่เรียกได้ว่า “เงิบ” เอาไปตามๆกัน แต่อย่างไรก็ตามทางฝั่งคนดูค่อนข้างจะชื่นชอบหนังพอสมควรจะทำให้หนังสามารถทำเงินทั่วโลกไปถึง 351 ล้านเหรียญ ซึ่งเรียกว่าทำกำไรสูงมากจากต้นทุน 75 ล้านเหรียญเท่านั้น 

สำหรับเรื่องราวในภาคที่ 2 นั้นบอกเล่าเรื่องราวของชีวิตหนึ่งปีให้หลังที่‘สี่อาชญากล'ทั้งเจ แดเนียล แอทลาส (เจสซี่ ไอเซนเบิร์ก) เจ้าของฉายาอาชญากลลวงตา เมอร์ริต แม็คคินนีย์ (วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน) – อาชญากลสะกดจิต แจ็ค ไวล์เดอร์ (เดฟ ฟรังโก) – อาชญากลมือไพ่ กลับมาอีกครั้งพร้อมสมาชิกใหม่อย่างลูล่า (ลิซซี่ แคปแลน) ต้องกลับมาอีกครั้งเมื่อพวกเขาวางแผนจะเปิดโปงบริษัททางเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง ทว่าพวกเขาก็โดนแทรกแซงจากบุคคลลึกลับจนทำให้ทั้งสี่ต้องหนีออกมาจากดาดฟ้าตึกที่จัดงานในนิวยอร์ก ทว่าหลังจากที่พวกเขาหนีลงปล่องเพื่อจะลงมายังรถพวกเขากลับรู้สึกตัวอีกครั้งว่ามาโผล่ที่ประเทศจีนอย่างไม่มีสาเหตุ

ที่ประเทศจีนทั้งสี่ได้พบกับกับ วอลเตอร์ มาบรี้ (แดเนียล แรดคลิฟฟ์) อัจฉริยะทางเทคโนโลยี ผู้อยู่เบื้องหลังการแทรกแซงกล บังคับข่มขู่ให้ทั้งสี่ ปฏิบัติภารกิจที่แทบเป็นไปไม่ได้ นั่นคือการขโมยชิพอัจฉริยะที่สามารถเจาะระบบคอมพิวเตอร์ได้ทุกเครื่องบนโลก จากเซฟเฮาส์แห่งหนึ่งที่มีระบบความปลอดภัยแน่นหนาที่สุด ชิพคอมพิวเตอร์ชิ้นนี้เคยเป็นของวอลเตอร์ แต่กลับถูกขโมยไปโดยอดีตหุ้นส่วนทางธุรกิจอย่าง โอเว่น เคส (เบ็น แลมบ์) ทั้งสี่จะทำสำเร็จหรือไม่แล้วอะไรที่รอคอยพวกเขาอยู่ข้างหน้า 

จะว่าไปแล้วหนังอย่าง Now You See Me 2 ซึ่งคนดูรู้จักแนวทางและตัวละครกันดีอยู่แล้ว คงจะพอเข้าใจในความสามารถของเหล่าตัวละครกันดี ปัญหาสำคัญของหนังเรื่องนี้(และภาคก่อน) ก็คือวีรกรรมที่เหล่าสี่อาชญากลทำนั้น เรียกได้ว่าเริ่มจะมีความสามารถพิเศษใกล้เคียงกับพลังพิเศษของเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ใน X-Men เข้าไปทุกที ถึงแม้ว่าหนังจะพยายามหาเหตุผล (ที่พอจะฟังขึ้น) มาอธิบายก็ตาม แต่เหตุผลเหล่านั้นก็ไม่ได้น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะฉากในช่วงท้ายเรื่องที่ลอนดอนนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเบาโหวงและเต็มไปด้วยช่องโหว่ที่น่าตกใจ หรือถ้าหากพวกเขาทำได้แบบนั้นจริงๆ บริษัทจัดอีเวนท์ทั่วโลกควรจะไปขอคำปรึกษาและเรียนรู้วิธีการจัดงานใหญ่ๆในช่วงเวลาอันสั้นและได้ประสิทธิผลสูงสุดเป็นการด่วน (ประชด) 

อย่างไรก็ตามผลงานการกำกับของ จอน เอ็ม ชู ซึ่งเคยกำกับ STEP UP ภาค 2 และ 3 นั้นเขายังทำบรรดาฉากไฮไลท์ของเรื่องทั้งสามช่วงนั่นคือช่วงเปิดเรื่อง ช่วงกลางเรื่อง และไคลแมกซ์ออกมาได้ตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจ ราวกับว่าเรากำลังดู “โชว์” จริงๆ หรือพูดง่ายๆว่ามันเปลี่ยนจากฉากเต้นที่น่าตื่นตา มาเป็นโชว์มายากลที่ชวนตื่นใจแทน ทว่าระหว่างทางของฉากเหล่านี้ เนื้อเรื่องและบทของหนังก็ค่อนข้างเนิบนิ่งและออกจะเนือยเกินไปหน่อยจนชวนหาวหลายรอบ

ในเชิงภาพรวมแล้ว Now You See Me 2 ก็ยังคงพอดูผ่านๆได้อย่างเพลินๆ ไม่ได้แย่และก็ไม่ได้ดีจนกระทั่งน่าจดจำ เป็นหนังอีกเรื่องที่เฉยๆและส่อแววมีภาคต่ออย่างชัดเจน (อันที่จริงสตูดิโอประกาศสร้างภาคต่อตั้งแต่หนังภาคนี้ยังไม่ได้เข้าฉายด้วยซ้ำไป) 

@พริตตี้ปลาสลิด

2.5 คะแนนจาก 5 คะแนน