เรือนพะยอม ย้อนหลังและเรื่องย่อ ละคร ช่อง 7
เรือนพะยอม
เรือนพะยอมย้อนหลัง วันอังคารที่ 18 กรกฎาคม 2560 ตอนที่ 14
เรื่องย่อ เรือนพะยอม
รสิกาได้ตัดสินใจลาขาดจากสลิน ผู้เป็นแม่เพื่อยุติปัญหาที่ชัย (พ่อเลี้ยง) ที่พยายามเข้าหาเธอ แม้ผู้เป็นแม่นั้นจะขอร้องอย่างไรก็ไม่เป็นผล รสิกาเดินทางมาจากเชียงใหม่ เพื่อไปทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กวัยห้าขวบ กมลรัจน์ เพื่อนสนิทของเธอได้เตือนไว้ว่าเรือนพะยอมนั้นเป็นสถานที่ที่ที่รสิกานั้นต้องไปทำงานที่นั้นมีแต่ความกลัว ทุกคนที่อยู่ที่นั่นล้วนมีจิตใจที่โหดเหี้ยม ใครที่มาเป็นพี่เลี้ยงที่นี่ทุกคนจะอยู่ไม่ถึงเดือน ก็ต้องลาออกไป แต่คำเตือนเหล่านั้นก็ไม่อาจเปลี่ยนใจของรสิกาได้
เรื่องที่เพื่อนรักเล่าให้รสิกาฟังนั้นก็คือ คนในเรือนพะยอมนั้นเป็นศัตรูกับตระกูลโชติรสของกมลรัตน์สาเหตุนั้นก็มาจากการที่วิยะดาถูกนำตัวเข้าโรงพยาบาลหลังจากที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยดรลเป็นคนรักของเธอเป็นคนขับรถ ต่อมาไม่นานนักวิยะดาก็ได้เสียชีวิตลง เมื่อแพทย์ชันสูตรศพแล้วลงความเห็นว่าวิยาดาป่วยเป็นโรคหัวใจ แต่ทุกคนในบ้านโชติรสยืนยันว่าวิยะดานั้นไม่มีประวัติการป่วยเป็นโรคหัวใจมาก่อน เงื่อนงำที่เป็นที่น่าสงสัยคือมีคนเห็นจารุวรรณ อดีตพยาบาลที่มีศักดิ์เป็นน้าของเด็กหญิงที่รสิกาจะต้องไปสอนหนังสือ และเข้าออกห้องพักของวิยะดาในโรงพยาบาลก่อนที่วิยะดานั้นจะเสียชีวิต การตายอย่างมีเงื่อนงำนั้นทำให้ทั้งสองงตระกูลไม่ถูกกันอย่างรุนแรง เหตุนี้รสิกาจึงไม่อยากเปิดเผยว่าเธอนั้นมีเพื่อนรักอยู่เชียงใหม่ แถมยังเป็นคนที่อยู่ในตระกูลโชติรสด้วย เช่นเดีนวกันกับกมลรัตน์ที่ไม่สามารถบอกคนในบ้านของเธอว่า รสิกานั้นไปทำงานที่เรือนพะยอมแม้กระทั้งภานุวัต ญาติผู้พี่ของเธอที่ได้ตกหลุมรักรสิกาตั้งแต่แรกพบ
ณ เรือนพะยอม รสิกาพบกับวฤกษ์ หนุ่มหน้าเย็นชา ท่าทางที่เด็ดเดี่ยว ที่ใครๆในเรือนพะยอมนั้นก็กลัวกันหมด ทุกคนมองว่าสิ่งที่เขาเป็นนั้นเพราะว่าเคร่งเครียดจากงานในไร่ แต่ไม่มีใครทราบสาเหตุที่แท้จริง วฤกษ์ต้อนรับอย่างรสิกาอย่างเย็นชา แต่ในใจแล้วนั้นกลับดีใจที่ได้เห็นหน้าหญิงสาว ราวกับเขาได้พบหญิงสาวที่เขารอคอยมาแสนนาน รสิกาก็รู้สึกอย่างนั้นเช่นกัน การมาของจารุวรรณในครั้งนี้มำให้น้าของภคมนหรือเด็กหญิงมิวไม่พอใจ แต่เธอก็มั่นใจว่ารสิกานั้นคงอยู่ได้ไม่นานก็ต้องจากไป เพราะทนฤทธิ์ของเดชของเด็กมิวไม่ได้ จารุวรรณได้เป่าหูมิวทุกครั้งว่าครูทุกคนนั้นจะแย่งความรักจากลุงวฤกษ์ไปจากมิว ทำมิวนั้นไม่ยอมเปิดรับครูพี่เลี้ยงที่เข้ามาสอนในเรือนพะยอม แต่ครั้งนี้ผิดคาด เพราะรสิกาผู้ซึ่งจบการศึกษาด้านภาษาศาสตร์มา ได้ปราบมิวได้สำเร็จและทำให้มิวนั้นติดครูรสิกาแจ ทำให้วฤกษ์นั้นดีใจมากถึงกับพาเข้าไปพบคุณย่า ทันทีที่คุณย่าได้เจอหน้ารสิกานั้นก็ได้เผลอทักออกมาว่ารสิกานั้นคือคุณพะยอม ถึงกับเอารูปมาเปรียบเทียบก็ได้เห็นว่ามีความระม้ายคล้ายกันมาก
รสิกาต้องอยู่ในเรือนพะยอมอย่างลำบากใจ เพราะจารุวรรณคอยกลั่นแกล้งสารพัด แม้จะมีดรลญาติผู้น้องของวฤกษ์คอยช่วยเหลือ จนกระทั่งวฤกษ์นั้นแอบหึงอยู่นิดๆ อย่างที่หนุ่มใหญ่อย่างวฤกษ์นั้นไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ยังมีนเรนทร์อีกคน ซึ่งเป็นลูกผู้ว่าราชการจังหวัดแถมยังเป็นนักธรกิจหนุ่มไฟแรงที่มาเที่ยวหยอดขนมจีบให้รสิกาอยู่เป็นประจำ แต่แรงกดดันของจารุวรรรและความเย็นชาของวฤกษ์ก็ไม่สามารถทำอะไรรสิกาได้ รสิการู้สึกว่าเธอนั้นผูกพันกับต้นพะยอมที่วฤกษ์หวงนักหวงหนาและได้เริ่มรู้สึกว่าเธอนั้นเคยอยู่ที่นี่มาก่อน
เมื่อตกกลางคืน รสิกานั้นจะมักนอนไม่หลับ เธอมักจะได้ยินสียงคนลากวัตถุหนักๆผ่านหน้าห้องของเธอทุกคืน เธอก็พยายามที่จะหาว่าใครทำอะไรอยู่ตรงไหนแต่ก็ไม่พบสาเหตุ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังถูกผีผู้หญิงผมยาวใบหน้าขาวไม่มีปากไม่มีตา คอยหลอกหลอนแต่ด้วยความที่เธอนั้นเป็นจิตแข็ง ผีสาวตนนั้นจึงหลอกรสิกาไม่ได้ อำนาจที่ไม่อาจจะเอาชนะดวงจิตที่แข็งแรงของรสิกาทำให้วิญญาณได้ใช้วิธีเข้าฝันและพาเธอย้อนไปยังอดีตที่ขมขื่นที่เกิดขึ้นภายในเรือนพะยอมแห่งนี้
รสิกาได้เห็นอดีตของตนเองสมัยรัชกาลที่ 5 ที่เกิดขึ้นในเรือนพะยอม ประมุขของบ้านคือท่านพระยาสุนทรพนาเวทกับคุณหญิงมุก ซึ่งมีบุตรชายสองคนคือ คุณพฤกษ์กับคุณภูมิ ล้วนแต่เป็นนักเรียนนนอก คุณพฤกษ์นั้นมีหน้าตาคล้ายคุณวฤกษ์ไม่ผิดเพี้ยน คุณหญิงมุกมองแม่จันทร์ หญิงงามที่มีศักดิ์ตระกูลเสมอกันไว้เป็นคู่หมั่นหมายให้พฤกษ์ บุตรชายคนโต แต่พฤกษ์ก็ไม่ยอมรับเพราะใจเขานั้นนั้นสมัครรักใคร่กับแม่พะยอมญาติห่างๆ ผู้ที่มีศักดิ์สูงกว่าบ่าวไพร่ ค่าที่เป็นญาติห่างๆทำให้พะยอมถูกนับญาติให้ร่สมสำรับเดียวกันกับหลานๆ แต่ความรักของคุรพฤกษ์และพะยอมนั้นมีอุปสรรคยิ่งนักไม่เพียงแต่ฐานะที่เป็นอยู่อย่างต่างกันมากเท่านั้น แต่ก็ยังมีแม่จิต พี่สาวของพะยอมที่แอบรักคุณพฤกษ์เช่นกัน กลายเป็นรักสามเส้าที่ทำพะยอมนั้นลำบากใจ เพราะทั้งคุณพฤกษ์และแม่จิตต่างก็เป็นคนที่พะยอมนั้นเคารพรัก แต่แล้วคุณพฤกษ์ก็ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะแต่งงานกับพะยอมคนเดียวเท่านั้น แม่จิตโกรธและแผนการที่จะทำร้ายพะยอม
รสิกาพยายามที่จะถามคุณย่าปาริชาติ แม่ของดรล เกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตและความเป็นมาของเรือนหลังนี้รวมไปถึงบุคคลในอดีต คุณย่ากับคุณปาริฉัตรก็แปลกใจ แต่ไม่ก็รู้ว่าทำไมนับวันนั้นคุรย่าก็เมตตารสิกาเพิ่มมากขึ้น และอีกอย่างหนูมิวนั้นก็ไม่ได้ทำตามคำสั่งของจารุวรรณเหมือนแต่ก่อน จารุวรรณจึงได้หาทางกระชากหน้ากากของรสิกาออกมาให้ได้ นั่นคือการเปิดเผยเรื่องที่รสิกานั้นสนิทสนมกับบ้านโชติรส เป็นเพราะอย่างนี้เองที่ทำให้วฤกษ์นั้นโกรธรสิกาที่ปิดบัง แต่ก็แพ้หัวใจของตน เมื่อรสิกาพูดว่าเขานั้นไม่อาจจะตัดเพื่อนดีๆอย่างกมลรัตน์ไปได้ และอกอย่าง ดรลก็หลีกทางให้วฤกษ์ได้จีบรสิกา ส่วนเขานั้นก็เริ่มสนิทสนมกับกมลรัตน์ แต่ก็ไม่ค่อยจะได้ผลเท่าไร เพราะติดตรงกมลรัจน์นั้นเป็นน้องสาวของวิยะดา แม้ดรลนั้นจะเปิดเผยว่าวิยะดานั้นไม่ได้รักตน ที่วิยะดายอมแต่งงานด้วยนั้นก็เพราะต้องการที่จะเข้ามาอยู่ในเรือนพะยอม เพื่อที่จะได้เข้ามาใกล้ชิดกับวฤกษ์เท่านั้น
ความลับเกี่ยวกับอดีตแสนขมขื่นของเรือนพะยอมเริ่มที่จะคลี่คลาย รสิกาได้ถูกวิญญาณร้ายย้อนไปในอดีตเพื่อให้รู้ที่มาที่ไปต่างๆที่เกิดขึ้น รสิกาได้เห็นภาพแม่จิตกับแม่พะยอมมีปากเสียงกันเรื่องคุณพฤกษ์ และตกลงกันไม่ได้ แม่จิตได้ตัดสินใจใช้ก้อนหินทุบหัวแม่พะยอมที่บริเวรดงสมุนไพรและได้ลากมาทิ้งที่สระบัว รสิกาได้ถูกดึงลงไปในจิตของแม่พะยอม และเธอก็ได้รับรู้ความรู้สึกของแม่พะยอม ว่าจริงๆแล้วนั้นแม่พะยอมไม่ได้โกรธพี่สาวแต่อย่างใด หากแต่ให้อโหสิกรรมทุกอย่าง จิตดวงสุดท้ายของพะยอมนั้นจึงไม่อาฆาตทำให้ดวงวิญญาณของเธอได้ไปเกิดในชาติภพที่ดี หลังจากที่ทิ้งศพของแม่พะยอม แม่จิตก็แสร้งทำเป็นร่ำไห้ ลงไปงมศพพะยอม จนบ่าวไพร่ได้พากันลงไปงมช่วย แต่ผู้ที่งมศพของแม่พะยอมเจอก็คือคุณพฤกษ์ เขาร้องไห้คร่ำครวญ เมื่อมองไปที่นิ้วก้อยของพะยอมก็พบว่าแหวนก้อยที่เขาให้เธอนั้นได้หายไป คุณพฤกษ์ยิ่งเสียใจเข้าไปใหญ่เพราะเข้าใจว่าพะยอมนั้นน้อยใจที่เขานั้นไปแต่งงานกับแม่จันทร์ จึงได้ถอดแหวนแทนใจของเขาก่อนที่จะฆ่าตัวตายทั้งที่ความจริงนั้น ท่านพระยาผู้เป็นพ่อ ได้ตกลงจะให้พฤกษ์นั้นแต่งงานกับพะยอมแล้ว ต่อมาไม่นานพฤกษ์ก็ได้สั่งให้คนไปถมสระบัวแล้วปลูกต้นพะยอมขึ้นข้างๆ หลังพฤกษ์ได้เสียลง ต้นพะยอมก็สูงใหญ่และออกดอกทั้งปีเป็นที่เล่าลือไปทั่ว
รสิการู้สึกเศร้าใจกับการตายของพะยอมมาก แต่ลึกๆแล้วนั้นเธอกลับคิดว่าเธอนั้นเป็นแม่พะยอมที่ตายไป ยิ่งคุณยายก็เรียกเธอว่าแม่พะยอมแทนที่จะเรียกชื่อจริง แม้จะไม่อยากฝันถึงเรื่องราวในอดีตแต่ก็ห้ามไม่ได้ พอตกกลางคืนเธอก็ยังเห็นวิญญาณของผีสาว ซึ่งเธอก็รู้ในเวลาต่อมาว่านั่นคือแม่จิตที่ยังรอคอยบางสิ่งบางอย่างอยู่ แม่จิตได้พารสิกาเข้าไปสู่อดีตวาระสุดท้ายของแต่ละคน พฤกษ์ได้ป่วยตายด้วยเพราะตรอมใจตาย ส่วนจิตนั้นผอมแห้งตาย เพราะไม่กินอาหาร คร่ำครวญถึงแม่พะยอมที่ตาย ด้วยความสำนึกผิด และได้ตายไปอย่างน่าเวทนา
เมื่อเวลาผ่านมา 100 ปี พฤกษ์ได้มาเกิดเป็นวฤกษ์ เขาเป็นคนที่หวงแหนต้นพะยอมมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ก้ามใครเข้าใกล้ จารุวรรณผู้ที่ไม่เคยใส่ใจเรื่องราวในอดีต แต่หวังอย่างเดียวคือทรัพย์สมบัติและความหล่อของวฤกษ์ ได้เริ่มวางแผนสกัดทุกทางไม่ให้วฤกษ์และรสิกานั้นได้ลงเอยกัน คุรปาริชาติได้พาทุกคนไปทำบุญที่วัดป่าที่วัดแห่งหนึ่ง หลวงพ่อได้เห็นวฤกษ์ก็ได้เห็นภาพถึงอดีตกรรมในชาติก่อน ท่านได้หยิบก้านพะยอมที่แห้งเหี่ยวส่งให้วฤกษ์พร้อมกล่าวว่าเป็นปริศนาธรรมว่าทุกอย่างนั้นล้วนเป็นอนิจัง ไม่ควรที่จะไปยึดติดแต่อย่างใด
วฤกษ์มาลาสิขาไปทำธุระที่ต่างจังหวัด 3 วัน วิญญาณแม่จิตได้พารสิกาไปดูที่อดีตที่ก่อนวาระสุดท้ายของพะยอม เธอได้ถอดแหวนแทนใจที่พฤกษ์นั้นให้ตนซ่อนไว้ที่ช่องรอยแตกของวงขอบเหนือประตู ในวันนั้นรสิกาตากฝนเพราะแม่จิตเข้าสิงพาเข้าไปในอดีตแต่วฤกษ์นั้นกลับมาทันจึงได้ช่วยไว้ได้ รสิกามีอาการป่วยหนัก จารุวรรณได้ทีบอกวฤกษ์ว่าจะช่วยดูแลรสิกาให้ ซึ่งช่วงนั้นวฤกษ์ก็มีธุระสำคัญที่จะต้องเดินทางไปพิษณุโลกกับดรล จึงได้ฝากรสิกาไว้กับจารุวรรณ จารุวรรณก็ได้รับปาก ในคืนนั้นเองจารุวรรณได้ฉีดยาสลบเข้าไปในน้ำเกลือของรสิกา ทำให้รสิกานั้นหลับไหลไม่ได้สติ จารุวรรณกำลังจะฉีดสารบางอย่างเพื่อจะเข้าทำลายหัวใจ และจะตายอย่างมีอาการป่วยเหมือนกับที่เธอนั้นเคยทำกับวิยะดา แต่ขระที่กำลังจะฉีดนั้น หนูมิวได้วิ่งเข้ามาปัดเข็มฉีดยาตกพื้น เข็มแตก จารุวรรณไม่มีเข็มสำรอง เธอจึงได้หาแผนการใหม่ โดยการลากรสิกาไปที่ต้นพะยอม เหตุการร์นี้คล้ายกับอดีตเมื่อย้อนไปเมื่อร้อยปีก่อนที่แม่จิตลากศพของแม่พะยอมจากดงสมุนไพรไปที่สระบัว แต่จารุวรรณนั้นต้องออกแรงมากเพราะตัวของรสิกานั้นหนัก เมื่อรสสิกาเริ่มรู้สึกตัว เธอลืมตาขึ้นก็ได้เห็นร่างของวิยะดาและแม่จิตนั้นทับร่างของเธออยู่
ขณะที่จารุวรรณบ้าคลั่ง และมีฝนตกหนักเหมือนเหตุการณ์ในอดีตเมื่อร้อยกว่าปี วฤกษ์กับดรลเกิดสังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูกจึงได้รีบขับรถกลับมาที่เรือนพะยอม ดรลให้ปริชาติไปดูรสิกา แต่ก็ไม่มีวี่แววของรสิกากับจารุวรรณ จึงได้เรียกทุกคนให้ตื่นขึ้นมาตามหาทั้งสองคน จารุวรรณเริ่มทำการผูกเชือกทำทีว่ารสิกานั้นฆ่าตัวเองตาย ฝนเริ่มตกกระหน่ำ ฟ้าได้ผ่าลงมายังร่างของจารุวรรณจนเสียชีวิตในบริเวณนั้น แต่ร่างของรสิกากลับไม่เป็นอะไร เพราะมีวิยะดาและแม่จิตคอยปกป้องไว้ให้
วฤกษ์เสียใจมากและได้สัญญาว่าจะไม่ทิ้งรสิกาไปไหนอีกแล้ว ทั้งสองได้ตัดสินใจที่จะแต่งงานกัน แต่วฤกษ์ก็ยังแคลงใจเรื่องแหวนที่คุณพฤกษ์นั้นเคยสวมไว้ให้ที่นิ้วก้อย และได้ให้แม่พะยอมไว้ตามที่คุณย่าเคยได้เล่าให้ฟัง รสิกาได้เล่าเรื่องความฝันที่แม่จิตนั้นนำพาตนไปให้เห็นที่ซ่อนของแหวน วฤกษ์ได้สวมแหวนก้อยของคุณพฤกษ์แทนแหวนหมั่นให้รสิกา ทั้งสองได้ตัดสินใจที่จะขุดตอต้นพะยอมที่ถูกฟ้าผ่าทิ้ง แล้วปูกต้นพะยอมขึ้นใหม่ และได้ทำบุญอโหสิกรรมให้แม่จิตไปรับใช้กรรมตามที่เคยเป็นมา ไม่ได้ถูกจองจำด้วยความรักและความทุกข์ในใจอีก วฤกษ์ได้นำดอกไม่มากราบขอขมากรรณิการ์ แม่ของวิยะดาและดรลก็เริ่มปลูกต้นรักกับกมลรัตน์ และจากนั้นเป็นต้นมา บ้านโชติรสกับเรือนพะยอมก็กลับมาเป็นมิตรกันอีกครั้งหนึ่ง ติดตามชมละครเรื่อง เรือนพะยอม ได้ทุกวันจันทร์ – อังคาร เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2560
ตัวอย่างละครเรือนพะยอม
รายชื่อนักแสดงเรือนพะยอม
วฤกษ์/พฤกษ์ แสดงโดย ธาวิน เยาวพลกุล
รสิกา/พะยอม แสดงโดย คามิลล่า กิตติวัฒน์
จิต แสดงโดย กรรณาภรณ์ พวงทอง
กมลรัตน์/จันทร์ แสดงโดย ณัฐชา นวลแจ่ม
ดรล แสดงโดย วาทิต โสภา
จารุวรรณ แสดงโดย อรลีฬห์ โสตถิวันวงศ์
นเรนทร์ แสดงโดย ธีร์ วณิชนันทธาดา
ภานุวัต แสดงโดย ธัญวิสิฎฐ์ เสียงหวาน
ปาริชาต แสดงโดย ดวงตา ตุงคะมณี
กรรณิการ์ แสดงโดย ภัสสร บุณยเกียรติ
พ่อเลี้ยงของรสิกา แสดงโดย อนุสรณ์ เดชะปัญญา
รสลิน แสดงโดย คนางค์ ดำรงหัด
กานดา แสดงโดย เบญจณัฏฐ์ อักษรนันทน์
วิยะดา แสดงโดย ปัทฐิมาภรณ์ ภาระกุล
ภคมล (หนูมิว) แสดงโดย เด็กหญิงอรวรรยา โตสมบัติ
หนัง : เรือนพะยอม
ช่อง : ช่อง 7
ออกอากาศทุกวัน : จันทร์, อังคาร
ผู้กำกับ : รฤกฤกษ์ กัลย์จาฤก
บทประพันธ์ : รอมแพง
ผู้เขียนบท : เริงใจ
นักแสดงนำ : ธาวิน เยาวพลกุล, คามิลล่า กิตติวัฒน์, กรรณาภรณ์ พวงทอง, ณัฐชา นวลแจ่ม