วิจารณ์หนัง Jason Bourne การออกมาจากมุมมืดของเจสัน บอร์น

วิจารณ์หนัง Jason Bourne การออกมาจากมุมมืดของเจสัน บอร์น

วิจารณ์หนัง Jason Bourne การออกมาจากมุมมืดของเจสัน บอร์น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แฟรนชายส์หนังสายลับมาดนิ่ง ที่ไม่เน้นความโฉ่งฉ่างของการทำภารกิจมากนัก อันเข้าจริงหนังสายลับเรื่องนี้แทบจะไม่ได้เป็นหนังแนวสายลับด้วยซ่ำไป มันคือหนังแนว “แอนตี้สายลับ” เมื่อตัวละครอย่างเจสัน บอร์นนั้น เป็นตัวละครมีอดีตที่พร่าเลือน เนื่องจากเขาความจำเสื่อมและจดจำเรื่องราวในอดีตไมได้ หากจะต้องเล่าเท้าความกลับไป ก็คือราว 20 ปีก่อน บอร์นคือแล้ว ทหารหนุ่มฝีมือดีได้อาสาเข้าโครงการทดลองลับ หลังจากทางการแจ้งเขาว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายลงมือสังหารพ่อของเขา เขาคิดดีอย่างมีความหวังว่าเขาจะสามารถยกย่องให้เกียรติกับครอบครัวและประเทศชาติ ด้วยการพัฒนาความเฉลียวฉลาด ความว่องไว และทักษะในการปรับตัวที่เกินจินตนาการของทุกคน แต่อันที่จริงแล้วทุกอย่างคือคำโกหก 

เจสัน บอร์นกลายเป็นนักฆ่าระดับหัวกะทิ แต่หลังจากที่เขาทำภารกิจผิดพลาดเป็นผลให้ทำให้เขาถูกกำจัด เมื่อบอร์นพยายามล้างแค้นคนที่สร้างเขาขึ้นมา และเป้าหมายในตอนนี้คือการหายสาบสูญไปตลอดกาล แต่ใน Jason Bourne ภาคล่าสุดนี้ทางการได้มีการเริ่มโครงการใหม่ขึ้นมา เจสันถูกองค์กรลึกลับบีบให้เขาออกมาจากที่ซ่อน เพราะผู้ตามล่าเชื่อว่าบอร์นจะกลับใจและปรับตัวให้เข้ากับองค์กรได้ในที่สุด 

ซีเควนซ์ต่างๆในหนังภาคนี้เรียกได้ว่ามีอยู่ 3 เหตุการณ์ใหญ่ๆ ซึ่งแต่ละช่วงของหนังก็จะมีฉากตื่นเต้น สลับกับฉากการเล่าฉากหลังของตัวละครแต่ละตัวไม่ว่าจะเป็นบอร์น(แม็ตต์ เดม่อน) เองหรือกระทั่งตัวละครอย่างนิ้กกี้ พาร์สัน(จูเลีย สไตลส์) ที่คนดูเชื่อว่าเธอตายไปตั้งแต่ The Bourne Identity ซึ่งเธอเหวี่ยงกระแทกกับกำแพง จนคอเธอหัก แต่ในฉบับตัดต่อใหม่ตัวละครนี้ไม่ตายและได้กลับมาส่งสารประการสำคัญให้กับเจสันในหนังภาคล่าสุด 

กาลเวลาที่ผ่านไปเนิ่นนานทำให้ตัวละครอย่างเจสันถูกผู้ชมตั้งคำถามว่าหลังจากเหตุการณ์ในภาค Ultimatum ตัวละครแต่ละคนมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไรบ้าง ประกอบกับฉากหลังของโลกยุคปัจจุบันที่ตัวหนังเองก็ตั้งคำถามถึงรัฐบาลสหรัฐอเมริกาหลังยุคของเอ็ดเวิร์ด สโนเดน(ผู้เปิดโปงว่ารัฐบาลสหรัฐนั้นสอดแนมพลเมืองในประเทศผ่านโทรศัพท์ทุกเครื่อง!) ว่าแท้ที่จริงแล้ว คนเรามีความเป็นส่วนตัวมากแค่ไหนกัน แล้วความปลอดภัยในชีวิตของเราอยู่ตรงไหน องค์กรรัฐนั้นโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้จริงหรือเปล่า

น่าเสียดายที่ Jason Bourne นั้นไม่สามารถ “เอาซักทาง” ได้สุดเท่าไหร่ ฉากแอ็คชั่นของหนังก็ไม่ได้ “สนุก” แบบภาคก่อนๆ ยิ่งไปกว่านั้นประเด็นที่หนังพยายามจะนำเสนอก็ไม่ได้รับการสานต่อเท่าไหร่ และท้ายที่สุดแล้วหนังก็จบแบบ “ที่คาดเดากันได้” และเอาเข้าจริงหนังก็แอบชวนง่วงพอสมควรเลยทีเดียว

@พริตตี้ปลาสลิด

3 คะแนนจาก 5 คะแนน 

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ วิจารณ์หนัง Jason Bourne การออกมาจากมุมมืดของเจสัน บอร์น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook