ดูแล้วบอกต่อ วิจารณ์หนัง SHIN GODZILLA - การรับมือกับภัยพิบัติของคนญี่ปุ่น
ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลยที่บรรดาคนดูหนังกลุ่ม MASS ONLY ที่คาดหวังว่าจะไปดูหนัง "สัตว์ประหลาดถล่มโลก" คนเกิดอาการว่านี่มันหนัง "....." อะไรวะ เพราะทั้งเรื่องมีแต่คนคุยๆกันหูดับตับไหม้ ไม่เว้นช่องไฟให้หายใจหายคอ (สงสารคนแปลซับอย่างแรง) ฉากก็อตซิลล่าแผลงฤทธิ์์แทบจะนับ "เวลา" ที่ปรากฏบนจอได้เลย ดังนั้นเราเชื่อว่าคนกลุ่มใหญ่ๆ ที่คาดหวังกับหนังแนวดังกล่าวจะเกิดอาการผิดหวังและเบื่อหน่าย
ความเป็นจริง SHIN GODZILLA นั้นคือหนัง "การเมือง" ที่สะท้อนภาพการรับมือ "วิกฤติ" ของคนญี่ปุ่นอย่างมีสติ และเตรียมการรอบด้าน ดังนั้นการ "วางแผน" ประชุมหารือกันของตัวละครมากมาย (ที่คนดูก็แทบจะจำชื่อไม่ได้เพราะเยอะไปหมด) ซึ่งการไม่ "โฟกัส" ที่ตัวละครไหนเป็นพิเศษ ยิ่งทำให้หนังเรื่องนี้ทำให้ผู้ชม เหมือนกำลังนั่ง "สังเกตการณ์" เหตุการณ์บางอย่างอยู่ โดยเราสามารถสัมผัสได้ถึงอารมณ์และความกังวลของบรรดาเหล่าตัวละครกลุ่มนี้
ลักษณะสำคัญของก็อตซิลล่าในเวอร์ชั่นนี้คือมันมาแบบ "ทื่อๆ ไร้อารมณ์" มันเดินผ่านเมือง ไม่ได้ปรากฏจุดประสงค์ว่ามันโผล่ขึ้นมาทำไมหรือเพื่ออะไร แต่ทุกครั้งที่มันถูกโจมตี มันก็จะโต้ตอบกลับด้วยพลังงานบางอย่างซึ่งว่ากันในเชิงสัญลักษณ์แล้ว ก็อตซิลล่าในเวอร์ชั่นนี้จึงแทบจะไม่แตกต่างอะไรเลยจากปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างเช่นภัยพิบัติต่างๆ ที่คนญี่ปุ่นในโลกแห่งความเป็นจริงต้องเผชิญหน้าอยู่ในทุกวันนี้นั่นเอง
สิ่งหนึ่งที่เราสามารถจับต้องได้จากหนังในเวอร์ชั่นนี้ก็คือ เราจะได้เห็นบรรดาผู้นำของประเทศญี่ปุ่นอย่างนายกรัฐมนตรี ที่พยายามทำทุกวิถีทางในการรับมือ กอบกู้ประเทศให้พ้นจากวิกฤติ อีกทั้งยังรวบรวมบรรดาผู้เชี่ยวชาญจากแขนงต่างๆในการพิจารณาหาทางออกให้กับปัญหาอย่างมีสติ รัดกุมและเป็นไปอย่างรวดเร็ว (เราจะไม่เปรียบเทียบกับประเทศโลกที่สามแถวนี้เด็ดขาด!!! เพราะอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว)
ยิ่งไปกว่านั้นเราจะได้เห็นฉากบรรดาประชาชนคนญี่ปุ่นรับมือกับวิกฤตอย่างเป็นระเบียบ การเดินทางลี้ภัยไปยังเมืองอื่นอย่างเป็นระเบียบ ไม่หนีตายแบบเหยียบกันตายตามที่เรามักจะเห็นจากหนังฮอลลีวูด ซึ่งมันสะท้อนให้เราเห็นถึงวิธีการ "รับมือ" และอยู่ร่วมกับภัยธรรมชาติที่มักจะมาเยือนคนญี่ปุ่นมาโดยตลอด
SHIN GODZILLA ในเวอร์ชั่นนี้คือหนังที่อาจจะกล่าวได้ว่ามันคือการ "รีบูต" เวอร์ชั่นต้นฉบับของปี 1954 ที่ใส่ความร่วมสมัย และจำลองวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นในยุคปัจจุบันเข้าไปในหนังอย่างกลมกลืน มันอาจจะไม่ใช่หนังบันเทิงโครมคราม แต่มันเป็นหนังที่ชวนคิดตาม ตกผลึกและมองสังคมแดนปลาดิบได้อย่างน่าสนใจ มีชั้นเชิง และที่สำคัญมันเนิร์ดสุดๆไปเลย
@พริตตี้ปลาสลิด
4 คะแนนจาก 5 คะแนน
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ