5 ละคร เล่าเรื่องในช่วงยุคสมัย แผ่นดินรัชกาลที่ 5

ละครไทยในบ้านเรามีหลายมีหลายแนวออกมาให้ประชาชนชาวไทยได้ดูกัน อีกแนวที่เราได้เห็นกันมาไม่น้อยคือละครแนวพีเรียด ย้อนยุค ที่สร้างออกมาให้คนในยุุคปัจจุบันได้ย้อนดูวิถีชีวิต ความคิดของคนไทยยุคสมัยก่อน และก็มีละครแนวพีเรียดหลายเรื่องที่มักจะอิงยุคสมัย และประวัติศาสตร์ในแต่ละยุค 

ยุคสมัยแผ่นดินรัชกาลที่ 5 ก็เป็นหนึ่งยุคที่ประเทศชาติบ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลง และประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำมากมาย เรามาดูกันดีกว่าว่าละครไทยเรื่องไหนบ้างที่อยู่ในช่วงยุคสมัยรัชกาลที่ 5 

นางทาส

เรื่องแรกที่เพียงแค่เอ่ยชื่อเรื่องหลายคนก็คงรู้ว่าต้องอยู่ในยุค รัชกาลที่ 5 ปฏิรูประบบการปกครอง ให้พลเมืองทุกคนมีฐานะเท่ากันหมด ไม่ต้องเป็นไพร่สังกัดนายใด ให้กดข่มเหง เหตุเกิดทาสมาจากความยากจนของประชาชนที่เมื่อไปกู้ยืมเงิน เหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ก็ต้องทำสัญญาลดตัวลงไปเป็นทาสทันที สืบทอดไปชั่วลูกหลานจนกว่าจะหมดหนี้สิน หรือเก็บเงินไถ่ตัวเอง แทนที่จะมีโอกาสทำมาหากิน ประกอบอาชีพพัฒนาประเทศ อีกหนึ่งหลังจากมีการเลิกทาสแล้ว รายได้แผ่นดินหลังจากเข้าไปที่กระจายกันไปในหมู่ขุนนางและเจ้านาย ในปีนั้นงบประมาณแผ่นดินก็เข้าสู่ท้องพระคลังเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว ทำให้เศรษฐกิจของสยามเจริญขึ้น

ในเรื่องนางทาส ประพันธ์โดย วรรณสิริ ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว 2 ครั้ง และสร้างเป็นละครโทรทัศน์ 4 ครั้ง เรื่องราวของเย็น ทาสสาวที่ถูกพ่อแม่ขายให้แก่บ้านพระยาสีหโยธิน เรื่องราวความจงรักภักดีของเย็นที่มีต่อท่านเจ้าคุณและคุณหญิง ถึงแม้จะมีการเลิกทาสในช่วงนั้น เย็นก็ขออยู่ไม่ยอมไปไหน

ลูกทาส

อีกหนึ่งเรื่องราวที่เกี่ยวกับทาส ละครเรื่อง ลูกทาส บทประพันธ์ของ รพีพร ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว 2 ครั้ง และสร้างเป็นละครโทรทัศน์ 5 ครั้ง เรื่องราวของ แก้ว ทาสในเรือนของพระยาไชยากร ที่พยายามต่อสู้ดิ้นรนเพื่อจะพ้นสภาพการเป็นทาส ในยุคแห่งกระบวนการเลิกทาสในสมัยของพระปิยมหาราช (รัชกาลที่ 5) ในราชวงศ์จักรี ที่เริ่มมีการประกาศเลิกทาสและเกษียณอายุลุกทาสในแต่ละช่วงอายุ หากแต่นายเงินของแก้วนั้นไม่ยอมให้ความเป็นไทแก่บรรดาเหล่าทาสในครอบครอง แก้วจึงดิ้นรนและไขว่คว้าอิสรภาพที่เขาสมควรได้ ขณะเดียวกันก็ใฝ่หาความรู้ เพื่อการทำงานหลังจากเป็นไท เพื่อยกฐานะของตนเองขึ้นมาให้ทัดเทียมกับคุณน้ำทิพย์ หญิงสาวสูงศักดิ์ที่เป็นแรงใจให้เขามาตลอด

สี่แผ่นดิน

ละครที่หากนึกถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ ต้องมีเรื่องสี่แผ่นดินอยู่ในใจแน่นอน บทประพันธ์ของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ 5 ครั้ง และละครเวทีอีก 2 ครั้ง มีเนื้อหาอิงประวัติศาสตร์ไทยในช่วงรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 8 เป็นที่มาของคำว่า "สี่แผ่นดิน" เป็นเรื่องราวของ พลอย ที่เกิดในแผ่นดินรัชกาลที่ 5 ตั้งแต่วัยเยาว์จนออกเรือนมีครอบครัว สะท้อนประวัติศาสตร์และการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยของกรุงรัตนโกสินทร์ได้อย่างดี ประเด็นสำคัญคือ ละครได้แฝงความรู้ด้านความขนบธรรมเนียมประเพณีทีดีของชาติ บรรพบุรุษ ความภูมิใจในชาติ และการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ทำให้พสกนิกรชาวไทย ร่มเย็นใต้ร่มพระบารมีมาทุกยุคทุกสมัย 

ร่มฉัตร

เรื่องนี้จะแนวเดียวกับ สี่แผ่นดิน ผลงานการประพันธ์ของ ทมยันตี ถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ 3 ครั้ง กับการเล่าเรื่องราวของ แม่วาด ที่มีชีวิตบนแผ่นดินสมัยรัชกาลที่ 5-ปัจจุบัน กับชีวิตของหญิงสาวที่ถูกส่งเข้ามาในวังตั้งแต่ยังเป็นเด็กตามคำสั่งเสียของแม่ ความขยันและหัวอ่อนทำให้เป็นที่โปรดปรานต่อเสด็จและคุณหยดเป็นอย่างมาก เมื่อมีความรักก็ถูกสู่ขอ และย้ายมาอยู่นอกวัง ซึ่งแม้ว่าวาดไม่คุ้นชินกับวิถีชีวิตนอกวัง แต่เธอก็ต้องพยายามปรับตัวให้ได้ ทั้งชีวิตของวาดมีทั้งความรุ่งเรืองและอุปสรรคปัญหามากมาย แต่เธอก็ไม่เคยหวั่นไหวหรือตื่นตระหนกกับมันสักเท่าใด เพราะสิ่งที่สามารถยึดเหนี่ยวจิตใจของวาดให้ร่มเย็นได้ นั่นก็คือ "ร่มฉัตร" ที่เทิดทูนไว้เหนือหัว แม่วาดดำเนินชีวิตผ่านการเปลี่ยนแปลงการปกครองจนกระทั่งในปัจจุบันที่เธอมียศ แต่ก็ไม่เคยหยิ่งทะนงในเกียรติยศ ยังคงใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและเป็นที่รักของผู้คนมากมาย เพราะยึดร่มฉัตรที่ทำให้ร่มเย็นเป็นสุข จนกระทั่งได้เสียชีวิตลง