รวมหนังม้ามืดที่คิดว่าแป้ก แต่กลับปัง! ประจำปี 2016

ท่ามกลางพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทุกอย่างผันผวนและคาดเดาไม่ได้ หรือถึงคาดเดาได้แต่บางทีก็เหมือนกับการแทงหวย หนังบ้างเรื่องที่น่าจะได้เงินก็แป๊กและเงียบกริบไปซะอย่างนั้น) เช่นเดียวกันกับหนังหลายเรื่องที่ดูเหมือนไม่น่าจะได้เงิน แต่ก็เป็นกระแสขึ้นมาอย่างน่าประหลาด และเหล่านี้คือหนังที่กลายเป็นกระแสและปังอย่างไม่น่าเชื่อ

The Boy

เมื่อต้นปีที่ผ่านมากระแสของ “ตุ๊กตาลูกเทพ” ยังเหมือนเป็นบรรยากาศคงค้างมาจากช่วงปลายปีที่แล้ว ที่บรรดาหนุ่มสาววัยรุ่น (ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง) จะอุ้มตุ๊กตาลูกตาโตเท่าไข่ห่าน เอาพวกเขาไปใช้ในชีวิตประจำวัน ราวกับตุ๊กตานั้นมีชีวิตจริงจนบางทีมันก็ออกจะดู “น่าขนลุก” มากกว่าจะน่ารัก สอดรับกับช่วงเวลาที่หนังอย่าง The Boy เข้าฉายในโรงภาพยนตร์พอดิบพอดี โดยตัวหนังนั้นบอกเล่าเรื่องราวของพี่เลี้ยงเด็กที่ได้รับว่าจ้างให้มาเป็นพี่เลี้ยงให้กับตุ๊กตาเด็กชายในคฤหาสน์ชนบทห่างไกล ซึ่งเด็กชายคนนั้นเสียชีวิตไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพ่อแม่ได้เขียนข้อห้ามสำหรับไว้เลี้ยงตุ๊กตาตัวนี้ เช่นห้ามทิ้งตุ๊กตาไว้ ห้ามเอาผ้าคลุมหน้า แต่เมื่อพี่เลี้ยงละเลยความน่ากลัวก็เริ่มต้นขึ้น

Gods of Egypt

ในขณะที่ Gods of Egypt ในอเมริกาเสียงตอบรับจากนักวิจารณ์เรียกได้ว่าค่อนข้างแย่ เช่นเดียวกับผู้ชมที่เหมือนจะ “ไม่ถูกจริต” กับหนังแนวเทพเจ้า ลิเกฝรั่งสักเท่าไหร่ จนตัวหนังไม่ทำเงินในบ้านเกิดของตัวเอง ผิดกับตลาดต่างประเทศทั่วโลกที่ดูเหมือนจะตอบรับหนังเรื่องนี้เป็นอย่างดี ประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน หนังช่วงเวลาที่หนังเข้าฉายพระเอกหนุ่มอย่าง เบรนตัน ทเวทส์ ก็ได้รับการเปรียบเทียบว่าหน้าหล่อและละม้ายคล้ายกับพระเอกหนุ่มอย่าง ณเดช คูกิมิยะ จนสาวๆกรี๊ดกันทั่วบ้านทั่วเมือง แถมกระแสหนังเรื่องนี้ก็ดีจนผู้กำกับอย่าง “อเล็กซ์ โปรยาท” โพสต์ขอบคุณแฟนหนังชาวไทยกันเลยทีเดียว

ตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวของสงครามระหว่างเทพเจ้าเซท (เจอราด บัดเลอร์)ที่หวังยึดครองอาณาจักรอียิปต์จนร้อนไปทั้งแผ่นดิน ทำให้เทพฮอรัสที่โดนเซท (นิโคไล คอสเตอร์ วัลดาอู) เทพแห่งท้องฟ้า จนทำให้ฮอรัสสูญเสียดวงตาศักดิ์สิทธิ์ และส่งผลให้อียิปต์ตกอยู่ในกลียุค เหตุการณ์นื้ทำให้ เบค (เบรนตัน ธเวทส์) ต้องร่วมมือลุกขึ้นสู้ไปพร้อมกับเทพฮอรัสในการหยุดความชั่วร้ายของเทพเจ้าเซท

10 Cloverfield Lane

หนังที่ถูกอำพรางความลับจนนาทีสุดท้าย จนกระทั่งค่ายหนังเปิดตัวว่ามันคือภาคต่อ ภาคแยก ภาคก่อนหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่มันมีส่วนเกี่ยวข้องกับหนังสัตว์ประหลาดอย่าง Cloverfield ที่ว่าด้วยหญิงสาวคนหนึ่งที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งในห้องนิรภัยพร้อมกับชายแก่แปลกหน้าที่อ้างว่าโลกข้างนอกปนเปื้อนด้วยซากนิวเคลียร์และหลุมหลบภัยนี้คือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด ระหว่างที่กำลังค้นหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เธอก็ต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจที่จะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล

10 Cloverfield Lane จัดเป็นหนังที่เรียกได้ว่าเก็บกุมความลับทุกอย่างไว้และไม่ควรจะรู้ จนกระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นเมื่อค่ายหนังตัดสินใจเผย “จุดสำคัญ” ในหนังด้วยการเอามันใส่ในโปสเตอร์และตัวอย่าง จนกลายเป็นกระแสว่าทำไมสปอยล์หนังเสียหมดไส้หมดพุง แต่ถึงอย่างนั้น การตามการล่วงรู้ความลับของหนังก็ไม่ได้ทำให้อรรถรสในการชมเรื่องราวทั้งหมดลดลงสักเท่าไหร่ และแม้ถึงหนังจะไม่ได้ทำเงินในระดับร้อยล้าน แต่นี่คือหนังที่ปังมากในแง่ของโซเชียลมีเดียและการที่สื่อออนไลน์เข้ามามีอิทธิพลต่อการรับรู้ รวมไปถึงกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของผู้ชมได้เป็นอย่างดี

Me Before You

ตัวหนังถูกดัดแปลงมาจากนวนิยายขายดีของ “โจโจ โมเยส” ซึ่งได้นักแสดงที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากคอซีรีส์อย่าง Game of Thrones สำหรับสาวเอมิเลีย คลาร์ก และหนุ่มแซม คลาฟลิน จาก The Hunger Games บอกเล่าเรื่องราวของ ลูสาวเสิร์ฟที่ต้องผันตัวเองมาเป็นผู้ดูแล วิลล์ เทรย์เนอร์ อดีตนายธนาคารรูปหล่อบ้านรวยที่สูญเสียความสามารถในการเดิน หลังจากที่เขาปฏิเสธการมีปฏิสัมพันธ์กับทุกอย่าง แต่หลังจากที่เขาได้พบกับลู วิลล์ก็มีแนวคิดที่เปลี่ยนไป และลูก็เชื่อว่าหนุ่มอย่างวิลล์จะต้องมีชีวิตที่ดีขึ้น

ด้วยความที่หนังมีกระแสอย่างมากในโลกโซเชียล มันกลายเป็นหนัง “รัก” ปากต่อปากที่สาวๆต่างตัดสินใจเดินกันเข้าโรงหนังด้วยตัวเอง หรือกระทั่งต้องลากแฟนหนุ่ม เพื่อนๆไปดู ด้วยพล็อตเรื่องที่ซาบซึ้งกินใจ หนังมีฉากหลังพาฝันและโรแมนติกรวมไปถึงบทสรุปที่ผู้ชมต้องหลั่งน้ำตา องค์ประกอบเหล่านี้กลายเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนหยิบเอามาพูดและบอกเล่าต่อกันในโลกโซเชียลจนทำให้หนังโรแมนติกเรื่องนี้ทำเงินในไทยไปในระดับ 50 ล้านบาท เอาชนะหนังอย่าง Teenage Mutant Ninja Turtles: Out of the Shadows (ที่มีโรงฉายเยอะกว่า) ไปอย่างน่าแปลกใจ

The Shallows

หนังไฮคอนเซปที่สามารถสรุปสั้นๆง่ายๆว่ามันคือหนังที่ตัวละครเอกเป็นผู้หญิงดวงกุดที่ต้องเอาชีวิตรอดจากปลาฉลามที่กำลังหิวโหย โดยตัวเอกของเรื่องนั้นนำแสดงโดยดาราสาวอย่างเบลค ไลฟ์ลีย์ นักศึกษาแพทย์ที่เดินทางมาโต้คลื่นที่หาดสวรรค์แห่งหนึ่งซึ่งแม่ของเธอเคยมาเยือนเมื่อสมัยที่เธอยังไม่เกิด แต่ใต้ผืนน้ำทะเลสีฟ้าครามกลับซุกซ่อนความน่ากลัวเอาไว้ เมื่อเธอถูกฉลามไล่ต้อนจนติดอยู่ที่โขดหิน หนทางรอดของเธอแทบเป็นศูนย์ แต่เธอก็ไม่หมดความหวังต้องสู้เท่านั้น!

ตัวอย่างหนังคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เป็นตัวกวักมือเรียกผู้ชมเข้าโรง เพราะจะว่าไปแล้วหนังในตระกูลระทึกขวัญ-สยองขวัญคือการ “ขายความตื่นเต้น” ให้กับผู้ชม และหนังเรื่องนี้จัดเป็นหนังในกลุ่มตัวละครต้องเอาตัวรอดในสภาวะคับขัน หนทางรอดน้อย การที่ตัวหนังเขียนบทมาให้ตัวละครเอกของเรื่องมีสติปัญญาในระดับน่าเอาใจช่วย แถมยังมีตัวละครพิเศษที่คนดูต่างหลงรัก ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อหนัง “สนุก” กระแสปากต่อปากจึงทำงานในระดับที่น่าพอใจ

Train to Busan

นานแค่ไหนแล้วที่หนังสัญชาติเกาหลีจะได้กระแสการตอบรับในระดับประเทศ (แทบนึกภาพตามไม่ออก อย่างน้อยช่วงเวลานั้นก็ผ่านเลยมานานแล้ว) Train to Busan คือหนังซอมบี้สัญชาติเกาหลีที่ตัวละครต้องเอาชีวิตรอดอยู่บนโบกี้รถไฟ ตัวหนังมีพระเอกหนุ่มอย่าง กงยู ที่เป็นตัวกวักมือเรียกสาวๆ แต่ผู้ชมกลุ่มอื่นก็สามารถสนุกไปกับตัวหนังเรื่องนี้ได้ เพราะนอกมันจะเป็นหนังตื่นเต้นระทึกขวัญแล้วมันยังสะท้อนภาพสังคมเกาหลีปัจจุบันได้อย่างชัดเจน

กระแสของหนังเรื่องนี้เริ่มต้นมากระแสรอบนักวิจารณ์ รอบสื่อมวลชน ซึ่งเรียกได้ว่ากระแสของหนังดีมาก (หนังไม่มีคำวิจารณ์ในแง่ลบเลย) เพราะมันเป็นหนังที่ถึงคนจะไม่ชอบ แต่ก็ไม่ใช่หนังที่คนดูจะเกลียด กระแสหนังจึงแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วเมื่อค่ายหนังตัดสินใจเปิดรอบพิเศษฉายล่วงหน้า 1 สัปดาห์ กระแสของหนังก็ยิ่งแรงขึ้นไปอีก ทำให้หนังเกาหลีเรื่องนี้ยืนโรงฉายร่วม 1 เดือนเต็มและเข้าฉายในระดับประเทศ ทั้งที่ตอนแรกนั้นโรงหนังไม่สนใจจะเอาหนังเรื่องนี้เข้าฉายโรงด้วยซ้ำไป!!

Your Name : Kimi no Na wa

Your Name ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่มีความคล้ายคลึงกับ Train to Busan เมื่อค่ายหนังเปิดรอบนักวิจารณ์และได้กระแสตอบรับอย่างดี ประกอบกับเพจหนังต่างๆ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าตัวหนังงดงาม เป็นความรักที่จะทำให้ผู้ชมซาบซึ้ง กระแสปากต่อปากทำงานอย่างรวดเร็ว แอนิเมชั่นภาพสวยว่าด้วยการสลับร่างในฝันของหนุ่มสาวคู่หนึ่งจึงทำปรากฏการณ์แอนิเมชั่นจากญี่ปุ่นที่ทำเงินทะลุหลัก 40 ล้านไปอย่างเหนือความคาดหมาย

หลังจากที่หนังดังยังทำให้ผู้กำกับอย่างมาโกโตะ ชินไค ได้รับความสนใจในผลงานเรื่องเก่าๆ และทำให้เกิดแฟนคลับกลุ่มใหม่ขึ้นในประเทศไทยในการติดตามดูแอนิเมชั่นจากญี่ปุ่นมากขึ้น

@พริตตี้ปลาสลิด