วิจารณ์หนัง The Great Wall จีนแฟนตาซีที่ไม่มีอยู่จริง

 

จุดประสงค์ที่แท้จริงของ “กำแพงเมืองจีน” ที่มีกระบวนการก่อสร้างยาวนานกว่า 2,500 ปี ก่อนรัชสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้ เพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าทางตอนเหนือ ก่อนจะมีการก่อสร้างเพิ่มเติมปรับปรุงในส่วนต่างๆในเวลาต่อมา จนกำแพงเมืองจีนกลายเป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่มนุษย์สร้างขึ้น

The Great Wall เลือกจะหยิบเอาตำนานและประวัติศาสตร์ที่มีอยู่จริงมาบิดเป็นเรื่องราวแฟนตาซีที่ว่าจริงๆแล้วกำแพงเมืองจีนนั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นป้อมปราการไม่ให้อสูรร้ายที่มีลักษณะคล้ายมังกร ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “เทาเทีย” พวกมันจะตื่นมาทุกๆ 60 ปีเป็นเวลาแปดวัน เพื่อกินมนุษย์เป็นอาหาร ในเวลานี้เทาเทียกำลังวิวัฒนาการตัวเอง มีการจัดกองกำลังจู่โจมและสามารถติดต่อกันได้ทางกระแสจิต

ตัวหนังโฟกัสไปที่ตัวละครของนักรบรับจ้าง วิลเลียม การิน (แมตต์ เดมอน) ผู้มีความสามารถในการใช้อาวุธธนูเป็นเลิศ เขาและสหายเปโร โทวาร์ (เปโดร ปาสคัล) ถูกตามล่าในทะเลทรายของประเทศจีน จนกระทั่งพวกเขาเดินทางมาถึงกำแพงเมืองจีนที่ตั้งตะหง่าน ทั้งสองโดนกลุ่มทหารรักษาการณ์จับเป็นนักโทษ พวกเขาประกอบไปด้วยแม่ทัพเส้า ผู้นำผู้ได้รับการยกย่องของภาคีนิรนาม (กองทัพทหารที่มีจำนวนกว่า 100,000 นาย ที่แบ่งออกเป็นห้ากองพันตามสีเครื่องแบบ สัตว์สัญลักษณ์และลักษณะเฉพาะตัวของกองพัน), กุนซือหวัง นักวิทยาศาสตร์และนักประวัติศาสตร์ประจำค่ายและนักรบหญิง หลิน เมย์ ผู้นำของหนึ่งในห้ากองพัน กองพันกระเรียนที่เป็นนักสู้เหินเวหาไร้ความกลัวและมีแต่ผู้หญิง

เมื่อคนดูพอจะได้รู้จักสภาพความเป็นอยู่ของ “ป้อมกำแพงเมืองจีน” แล้ว คนดูก็จะได้เพลิดเพลินไปกับฉากแอ็คชั่นตีรันฟันแทงกับเหล่าอสูร ฉากโชว์เทคนิคซีจีอลังการ งานโปรดักชั่น เสื้อผ้า คอสตูมที่มีสีสันฉูดฉาดบาดตา (ราวกับเราดู HERO ภาค 2) ซึ่ง The Great Wall เป็นหนังที่ไม่ได้คำนึงถึงตรรกะใดๆในแง่ความสมจริงในแง่วิทยาศาสตร์ มิหนำซ้ำตัวละครในเรื่องยังมีความ “แบนราบ” แบบการ์ตูน ทำให้หลายครั้งหลายตอนที่คนดูไม่ค่อยรู้สึกอยากจะเอาใจช่วยยามตัวละครตกที่นั่งลำบาก

ผลงานการทำหนังของผู้กำกับ จางอี้โหมว เรื่องนี้อาจจะทำให้หลายคนมีคำถามว่าทำไม เขาถึงทำหนังแอ็คชั่นที่กลวงโบ๋ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการขายฉากแอ็คชั่น ฉากขายซีจี แต่พอคิดในอีกมุมหนึ่งแล้วก็จะพบว่า ถ้าหากเรามองข้ามความสมจริงทั้งหลายทั้งปวง รวมถึงมองด้วยสายตาคนดูหนังเพื่อความบันเทิงแล้ว The Great Wall ก็จัดได้ว่าเป็นความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดอะไรและดูจบแล้วก็ไม่เหลืออะไรให้คิดเช่นกัน

2.5 คะแนนจาก 5 คะแนน
@พริตตี้ปลาสลิด