เปิดใจ "โอ๋ StarHunter" ผู้จัด "เดือนเกี้ยวเดือน เดอะซีรีส์"
ใกล้ถึงเวลาที่แฟนๆจะได้รู้ผลการคัดเลือกนักแสดงหน้าใหม่จากโปรเจคซีรีส์เรื่องล่าสุดของค่าย CCMD อย่าง "เดือนเกี้ยวเดือน เดอะซีรีส์" (2 Moons The Series) ที่เข้าสู่โค้งสุดท้ายในการแคสติ้งแล้ว
นับว่าเป็นโปรเจคซีรีส์วายแห่งปี 2017 อีกหนึ่งเรื่องที่แฟนจะได้ติดตามกัน ก่อนหน้านี้ทีมงาน Sanook! ได้ลงพื้นที่เกาะติดการแคสติ้งเฟ้นหานักแสดงหน้าใหม่จากโปรเจคนี้ ที่มีเหล่าผู้เข้าสมัครกว่าหนึ่งร้อยคนในรอบที่ 2 เรียกว่าแต่ละคนโดดเด่นน่าสนใจมีสไตล์ชัดเจน จนทีมงานยังหนักใจแทนคณะกรรมการเลยล่ะ
ไปถึงห้องแคสติ้งทั้งที ทีมงาน Sanook! ก็ไม่พลาดที่จะพูดคุยกับคุณ "โอ๋ ยชญ กรณ์หิรัญ" หรือ "โอ๋ StarHunter" ผู้บริหารบริษัท CCDM จำกัด ที่นั่งแท่นดูแลโปรเจคนี้ โดยคุณโอ๋ได้พูดถึงจุดเริ่มต้นของ "เดือนเกี้ยวเดือน เดอะซีรีส์" ทั้งยังได้เผยถึงระยะเวลาการออกอากาศที่ไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งซีซั่น...! พร้อมวางแผนการโกอินเตอร์ของซีรีส์วายเรื่องนี้อีกด้วย
ที่เกริ่นมาแค่น้ำจิ้ม รายละเอียดจะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามจากบทสัมภาษณ์ "โอ๋ StarHunter" ผู้จัด "เดือนเกี้ยวเดือน เดอะซีรีส์" ที่เรานำมาฝากได้เลยจ้า...
Q: โปรเจค เดือนเกี้ยวเดือน เดอะซีรีส์ ...จุดเริ่มต้นเป็นมายังไง
โอ๋ StarHunter : "เริ่มจากก่อนหน้านี้ เราได้เป็นผู้ร่วมจัดเลิฟซิก ซีซั่น 2 และก็เราเองก็ค่อนข้างจะถนัดเรื่องของการทำละครวัยรุ่นและก็ละครวาย ทั้งในส่วนของน้องๆในทีมด้วย ก็คิดว่าอยากจะทำละครอีกสักเรื่องหนึ่งในปีนี้ ให้เป็นเรื่องที่สร้างความประทับใจให้มากที่สุดของปี ก็เลยตัดสินใจว่าเราจะเฟ้นหาบทประพันธ์สักตัวหนึ่ง
จริงๆก็มีอยู่ประมาณ 3-4 เรื่องที่เราช่วยกันหา แต่ก็มาลงตัวที่เรื่องนี้ ก็คือเดือนเกี้ยวเดือน เดอะซีรีส์ เพราะว่ามันเป็น ซีรีส์ที่เราคิดว่าอ่านแล้วเราก็ฟินและก็มีในส่วนของตัวละครที่เราอยากจะให้เเขาเกิดขึ้นจริง จากในหนังสือกลายมาเป็นตัวละครโลดแล่นอยู่บนโลกแห่งความจริง
และอีกอย่างหนึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลายๆคนรอคอยและมีคนอ่านเยอะมาก ก่อนหน้านี้เคยมีคนจะทำแต่อาจยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้มันเหมือนจังหวะได้เป็นโชคมากกว่า ที่เราได้บทประพันธ์ตัวนี้มา เราก็เลยตั้งใจอยากจะทำให้เดือนเกี้ยวเดือน เดอะซีรีส์ เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่ฮอตและฮิตแห่งปี
เราเองตั้งใจจริงเรื่องของการโกอินเตอร์คือไปต่างประเทศด้วย ไม่ได้อยู่เฉพาะเมืองไทย ดังนั้นจึงจำเป็นที่ต้องพยายามแคสติ้งนักแสดงที่มีความเหมาะสมมากๆ และก็นักแสดงที่มีศักยภาพที่สามารถที่จะต่อยอดไปต่างประเทศได้ ดังนั้นในส่วนของการวางแผนทั้งหมดในปีนี้ เราพยายามที่จะทำให้มันเป็นเรื่องที่ หนึ่ง ถูกใจคนที่สุด สอง ขณะเดียวกันเราพยายามจะคงซึ่งบทประพันธ์เดิมให้มากที่สุด
ซึ่งเราก็คุยกับทาง Chiffon_cake ผู้ประพันธ์ เราอยากจะคงบทประพันธ์ให้มากที่สุดและเพิ่มความเข้มข้น ความฟิน ความจิ้นเข้าไป แต่สิ่งอื่นใด นอกเหนือจากบทประพันธ์ที่ดีแล้ว เราต้องมีนักแสดงที่ดีด้วย เราเลยต้องเร่งเฟ้นหานักแสดงที่จะมาเป็นทั้ง 6 เดือนในเรื่องนี้ มาสร้างสีสันและให้เกิดอิมเมจดีๆ กับซีรีส์ ที่สำคัญคือหลายๆ คนคาดหวังกับเรื่องนี้เยอะ แต่เราต้องบอกแบบนี้ว่า เราไม่สามารถให้ใครถูกใจได้ทั้ง 100 คน แต่ถ้าสัก 80% เราแฮปปี้แล้ว
เราตั้งใจที่จะให้โปรดักชั่นออกมาดี เราได้คุยกับทาง โมทีฟวิลเลจ ที่มีทีมงานเชี่ยวชาญในการทำซีรีส์และโฆษณา พอเราได้อ่านโปรไฟล์และได้คุยกับผู้กำกับก็คือคุณกานต์ แล้วรู้สึกเคมีตรงกัน แบบที่เราน่าจะทำงานโปรเจคนี้ไปด้วยกันได้ดี ดังนั้นในการเริ่มทำพีอาร์ตั้งแต่วันแรก ได้กระแสตอบรับที่ดี พอมาถึงวันแคสติ้งจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่ากระแสทุกอย่างมันมา มีเทรนด์การพูดถึงในทวิตเตอร์เกือบแสน ผู้เข้าร่วมสมัครเกือบ 1600 คน ซึ่งเราเองก็ตกใจ ไม่คิดว่าฟีดแบคมันจะดีขนาดนี้
ในตอนนี้เองเราก็มั่นใจว่าสิ่งที่เราทำ ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จะสามารถทำให้ปีนี้เกิดอะไรใหม่ๆ และเป็นของขวัญให้กับทุกคนที่เป็นสาววาย หรือว่าแฟนคลับเดือนเกี้ยวเดือนด้วย นี่คือความตั้งใจของเรา
แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือเราตั้งใจอยากจะให้ซีรีส์เรื่องนี้เป็นที่กล่าวถึงในต่างประเทศด้วย ว่าคนไทยเราสามารถทำซีรีส์ออกต่างประเทศได้
นอกจากนั้นมีในส่วนของตัวเราเอง ที่คนรู้จักในนาม โอ๋ สตาร์ฮันเตอร์ หรือ โอ๋ คนปั้นดาว เราก็อยากจะให้เด็กๆที่เราปั้นทุกคนฉายแววให้ได้มากที่สุด นี่คือสาเหตุที่ทำให้เกิด เดือนเกี้ยวเดือน เดอะซีรีส์"
Q: คุณโอ๋ดูจะเน้นกับการค้นหานักแสดงหน้าใหม่ทั้งหมด แบบนี้จะเป็นการทำงานยากกว่าการที่เราได้ทำงานกับนักแสดงอาชีพที่เคยมีประสบการณ์มาแล้วหรือเปล่า
โอ๋ StarHunter: "จริงๆ คือใช่ การทำงานกับนักแสดงหน้าใหม่มันยากกว่าและเหนื่อยกว่า แต่ความเหนื่อยนั้นมันสามารถที่จะทำให้เนื้อเรื่องมันน่าสนใจและเข้าถึงได้มากกว่า ถ้ามีนักแสดงที่เคยผ่านการแสดงมาหลายๆบทก่อนแล้วจะเกิดภาพจำที่ติดมากับตัวเขา
แต่ถ้าเป็นนักแสดงใหม่ เราจะสามารถเอาเขามาสวมวิญญาณ สวมบทบาทของตัวละครได้ และทุกคนก็จะมีภาพจำว่าคนนี้คือพนา คนนี้คือวาโย มิ่ง คิท บีม โฟร์ท เมื่อเป็นนักแสดงหน้าใหม่หรือนักแสดงที่เคยผ่านผลงานมาบ้างแต่ไม่มาก จะทำให้ภาพจำคาแรกเตอร์ของเขาชัดเจน เราเลยเลือกที่จะหานักแสดงหน้าใหม่มาเป็นของเราเองมากกว่า"
Q: เรื่องนี้เดือนเกี้ยวเดือนเป็นเรื่องที่โด่งดังมาก เนื้อเรื่องจะเน้นคู่ความรักระหว่างชายกับชายเป็นหลัก กลัวจะเจอกระแสสังคมวิจารณ์ไหม ในส่วนของบทละครจะมีการปรับให้เข้ากับสภาพสังคมที่มีความรักระหว่างชาย-หญิงด้วยหรือเปล่า หรือจะเน้นตามบทประพันธ์
โอ๋ StarHunter : "ปรับบทมีครับ แต่จะมีแค่นิดหน่อย หลักๆอย่างที่บอกไป เราพยายามจะคงซึ่งบทประพันธ์เอาไว้ และอย่างที่บอกเหมือนกันว่าเราคงไม่สามารถเอาใจคนทั้งหมดได้ สิ่งที่เราจะทำคือการทำตามบทประพันธ์ให้มากที่สุด แต่อาจจะมีปรับบทตามกระแส ตามยุคสมัยให้ดีขึ้นมากกว่า
ดังนั้นคนที่อาจจะไม่ชอบ ด้วยสาเหตุใดๆ อยากให้เปิดใจมากขึ้น เพราะการเล่าเเบบบทละคร และการเล่าแบบนวนิยาย มีความต่างกัน แต่ถ้าคนที่ชอบ ก็ติดตามดูและเป็นกำลังใจให้เราต่อไป ส่วนคนที่รู้สึกว่าไม่ชอบละครวายเลย ลองหันมามองสักนิดนึง ถ้าคุณอยากเปิดใจแล้วลองมาดูว่าซีรีส์วาย มันเป็นซีรีส์แนวหนึ่งที่น่าสนใจ คือจริงๆมนุษย์เราเรื่องความรักไม่ได้เกิดเฉพาะแค่ชายกับหญิง ดังนั้น หญิงหญิง ชายชาย ก็มีความรักได้ ความรักมันเกิดขึ้นได้กับทุกคน"
Q: พูดถึงบรรยากาศการแคสติ้งกันบ้าง น้องๆที่เข้ามาแคสติ้งตั้งแต่วันแรกที่เจอ มีใครที่ทางผู้จัดมองแล้วเข้าตามากๆ อยู่ในใจหรือเปล่า
โอ๋ StarHunter : "เราเองก็มีเล็งไว้หลายคน ซึ่งก่อนหน้านี้เราให้ทางทีมงานใช้วิธีติดแฮชแท็กให้คนในโซเชียล ติดแท็กหรือชักชวนคนที่คิดว่าเหมาะกับบท อยากให้คนนั้นเป็นบทนั้นๆ ซึ่งทุกคนที่ถูกติดแฮชแท็กเราก็ให้ทีมงานเชิญมาแคสติ้ง แต่เขาจะมาหรือไม่มานั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เราก็พยายามเชิญทุกคนที่โซเชียลอยากให้เป็น ให้เขามาแคสติ้งมาแสดงศักยภาพและโชว์ฝีมือ
ขณะเดียวกันก็มีเด็กๆหน้าใหม่ที่อาจจะไม่เคยมีแฟนคลับหรือมีคนติดตาม เดินทางมาแคสติ้งเองก็มี มันก็เลยเกิดเป็นกระแส มีทั้งคนที่ดังมาก่อนแล้ว หรือคนที่ไม่เป็นที่รู้จัก เอาตรงๆเราเลือกในส่วนที่ตรงกับคาแรกเตอร์ที่เหมาะสม และความสามารถด้วย บางทีแบบคาแรกเตอร์ได้มากๆ แต่ความสามารถไม่ได้ เล่นแข็งเป็นธรรมชาติ เป็นหินเป็นต้นไม้ ก็คงไม่สามารถ อาจจะต้องเป็นบทอื่นๆไป เราเลยจะเน้นเลือกคนที่สมบูรณ์พร้อมที่สุดมาเล่นเป็น 6 ตัวละครนี้"
Q: ขั้นตอนหลังจากการแคสติ้งนี้จะเป็นยังไงต่อไป วางแผนอะไรไว้บ้างแล้ว
โอ๋ StarHunter : "ตอนนี้เราคัดจากหนึ่งพันหกร้อยคนเหลือแค่ หนึ่งร้อยคน และจะคัดให้เหลืออีกแค่ 40 คน ประกาศชื่อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ 2moonstheseries เพื่อให้แฟนคลับหรือคนที่ติดตามมีส่วนร่วมในการโหวต ว่าอยากให้ใครเป็นบทไหน ตามใจเขาเลย เขามีสิทธิ์ที่จะโหวตซึ่งมีคะแนนถึง 20% อีก 80% มาจากคณะกรรมการและเค้ก เจ้าของบทประพันธ์ ก็มาเลือกกันว่าคาแรกเตอร์ตรงไหม
หลังจากที่ได้ 40 คนจากการโหวตแล้ว จนเหลือ 6 คน และบทอื่นๆแล้ว เราจะให้ครูต้า ที่เป็นอาจารย์สอนการแสดงระดับท็อปไฟว์ของประเทศที่เคยสอนนักแสดงอย่าง ณเดชน์ , หมาก ปริญ มาแล้ว มาช่วยสอนการแสดงน้องๆใหม่มากที่สุด มากกว่า 40 ชั่วโมงเพื่อจะปรับให้เด็กๆ มีทักษะความสามารถเอาไปต่อยอดการแสดง ต่อยอดการแสดงได้เลย เพราะเราจะมีการเปิดกล้องในเดือนมีนาคมนี้แล้ว และจะมีการออนแอร์ในปีนี้แน่นอน ส่วนเรื่องช่องที่จะออกอากาศที่หลายคนถามเข้ามา ตอนนี้ขออนุญาตยังไม่เปิดเผย พูดกันตรงๆว่ามีช่องอยู่ในใจอยู่แล้ว แต่เราก็ต้องมาดูเรื่องรายละเอียดอื่นๆที่ต้องตกลงกับช่องอีก แต่ขอคอนเฟิร์มว่าได้ดูกันปีนี้แน่นอน"
Q: หลังจากโปรเจคนี้แล้ว มีแพลนที่จะทำอย่างอื่นต่อหรือยัง
โอ๋ StarHunter : จริงๆแล้วโปรเจคของเดือนเกี้ยวเดือน เดอะซีรีส์ มีทั้งหมด 3 ซีซั่น ซีซั่นละ 12 ตอน บวกหนึ่งตอนพิเศษเป็น 13 ตอน ดังนั้นใน 2 ปีนี้จะเป็นส่วนของซีรีส์ก่อน และมีแพลนจะทำหนังใหญ่อีก 2 เรื่องครับ ส่วนของซีรีส์เราได้ทำการคอนแท็คกับทางประเทศจีน ในการทำโปรเจคพิเศษร่วมกัน อย่างที่บอกไปทีมงานของเราอยากให้เด็กโกอินเตอร์จริงๆ
เราวางแผนตั้งแต่วันแรก ให้เด็กเหล่านี้เป็นนักแสดงที่ไม่ได้มีชื่อเสียงแค่ในประเทศไทย ให้พวกเขาไปถึงระดับอินเตอร์ให้ได้ครับ เป็นการตีตลาดต่างประเทศด้วย ในส่วนของเว็บไซต์ 2moonstheseries ที่เราได้สร้างไว้ ก็จะมีการแปลเป็นภาษาทั้งอังกฤษและจีนด้วย แฟนคลับต่างประเทศที่อยากจะติดตามก็จะสามารถรับข่าวสารซีรีส์เรื่องนี้ได้เช่นเดียวกันครับ และส่วนของภาพยนตร์ มีแพลนอีก 2 เรื่องครับ"
Q: ให้คุณโอ๋ฝากอะไรถึงคนดูที่รอติดตามเรื่องนี้หน่อย
โอ๋ StarHunter : สำหรับคนดูนะครับ ในนามโอ๋ สตาร์ฮันเตอร์ เราเองก็มีอาชีพหลักในการปั้นนักแสดงเข้าช่องอยู่แล้ว ลูกๆในบ้านก็เป็นนักแสดงที่เซ็นกับช่องทุกคน ครั้งนี้เป็นอีกครั้งหลังจากที่เราได้เป็นผู้ร่วมจัดเลิฟซิก เดอะซีรีส์และเดอะสคูล นี่จะเป็นละครวายที่เราได้ทำแบบเต็มตัวกับพาร์ทเนอร์ ซึ่งเรามีความตั้งใจสูงมาก
อยากจะให้ทุกคนที่ติดตามเป็นแฟนคลับ เป็นสาววาย หรือจะเป็นคนธรรมดาก็ตาม อยากให้เปิดใจดูซีรีส์เราก่อน เราเองตั้งใจอยากจะพัฒนาให้ซีรีส์เรื่องนี้ และหวังใจว่าจะเป็นซีรีส์ที่มีกระแสการพูดถึงดีที่สุดแห่งปี 2017 อยากจะให้ลองติดตามและเปิดใจดูก่อน
ตอนนี้ในโซเชียลมีกระแสหลายกระแสมาก ทั้งดีบ้างทั้งว่าบ้าง... ไม่ว่ากัน มันเป็นเรื่องปกติ แต่ขอให้ลองดูว่า ถ้าออกมาเป็นซีรีส์แล้ว จะเป็นยังไง จะมีความสุขขนาดไหน เพราะอย่างที่บอกว่า เรายังยืนยันที่จะทำเนื้อเรื่องให้คงบทประพันธ์เดิมในรูปแบบละครให้มากที่สุด ฝากติดตามด้วยครับสำหรับ เดือนเกี้ยวเดือน เดอะซีรีส์ ขอบคุณครับ"
อัลบั้มภาพ 9 ภาพ