งงเด้! หน้ากากที่ถูกถอด รอบรองสุดท้ายกรุ๊ป D The Mask Singer

 

เป็นศึกที่กรรมการ "อึ้ง!" คนดู "งงเด้!" กันอีกครั้งสำหรับรายการแข่งขันร้องเพลงของคนดังใต้หน้ากาก "The Mask Singer หน้ากากนักร้อง" ช่อง เวิร์คพอยท์ ที่ล่าสุดเป็นการแข่งขันรอบ Semi-Final หาผู้เข้าชิงแชมป์ กรุ๊ป D เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา

ในการแข่งขัน The Mask Singer รอบ Final ของ Group D Ep.14 ที่ผ่านมา เรียกว่า 4 หน้ากาก หน้ากากอาหมวย, หน้ากากจิงโจ้, หน้ากากปลาหมึก และหน้ากากเกอิชา ปล่อยพลังเสียงประชันกันแบบสุดพลัง และในคู่แรกเป็นการแข่งขันของ หน้ากากเกอิชา และ หน้ากากปลาหมึก

โดย "หน้ากากเกอิชา" มาในเพลงสากล Hello จาก Adele ถือเป็นเพลงที่ยากพอตัว ต้องมั่นใจในการร้องพอสมควรกับการโชว์พลังเสียงร้องได้อย่างยอดเยี่ยม ทำเหล่ากรรมการคิดหนักว่าเป็นนักร้องหรือว่านักแสดง หลังจากร้องจบ กรรมการพิเศษอย่าง อาโน๊ต เชิญยิ้ม ถึงกับฟันธง ว่าเป็น ชมพู่ ก่อนบ่าย และกรรมการคนอื่นๆทายว่าเป็น อาตุ่ย พุทธชาด, พัดชา และพะแพง สิ่งที่ทำให้กรรมการมั่นใจมากขึ้นอยู่ในช่วงพูดคุยตอบคำถามสองนาที กรรมการหลายเสียงเทใจทายว่าเป็น "ชมพู่ ก่อนบ่าย" นักแสดงตลกหน้าสวยแสนอารมณ์ขัน

อีกหนึ่งผู้เข้าแข่งขัน "หน้ากากปลาหมึก" มาในเพลงสากลโชว์พลังเสียงเช่นกันอย่าง And I'm Telling You I'm Not Going ของ Jennifer Holliday ที่มาเหนือชั้นในการโชว์พลัง เค้นเสียงขยี้อารมณ์คนดู ทั้งฮอล์ต่างขนลุกในน้ำเสียงของเธอ เหล่ากรรมการถึงกับลุกปรบมือให้กับพลังและน้ำเสียงของหน้ากากปลาหมึก ดูมีความเป็นมืออาชีพในการร้องเพลงอย่างมาก แต่ก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าเป็นใคร สร้างความหนักใจให้เหล่ากรรมการอย่างหนัก

ผลการตัดสินคู่แรกเป็นหน้ากากปลากหมึกที่เข้ารอบไปในรอบชิงแชมป์ และเป็นหน้ากากเกอิชาที่ต้องถูกถอดหน้ากาก โดยเธอคือนักแสดงตลก "ชมพู่ ก่อนบ่าย" ตามคำคาดเดาของกรรมการ โดยสาวชมพู่ ต่างสร้างความเซอร์ไพรส์ให้แก่คนดูและกรรมการ ที่ไม่คิดว่าเธอจะร้องเพลงได้ดีเยี่ยมขนาดนี้

โดยชมพู่บอกเหตุผลที่เลือกเป็นหน้ากากเกอิชาเพราะหลงไหลประเทศญี่ปุ่นและเปิดร้านอาหารญี่ปุ่น ที่เธอเลือกมารายการนี้ เพราะวัยเด็กชมพู่ชอบร้องเพลงมาก แต่ด้วยเส้นทางชีวิตการเป็นตลก ทำให้เธอไม่ได้ร้องเพลงที่ชื่นชอบ แม้จะเคยร้องเพลงบ้างในรายการต่างๆ แต่ไม่ได้ร้องแบบจริงจังจากพลังข้างในตัวเอง รู้สึกขอบคุณเวทีนี้ที่ทำให้เธอได้เติมเต็มความฝันที่เกือบลืมไปแล้ว ดีใจที่ได้ดึงความฝันของตัวเองให้ได้กลับมาร้องเพลงอีกครั้ง บางทีลืมไปแล้วว่าตัวเองชอบร้องเพลง ความรู้สึกของชมพู่ทำให้เธอซาบซึ้งถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ที่ได้ทำความฝันของตัวเองอีกครั้ง

 

ในคู่ที่สองเป็นการแข่งขันของ "หน้ากากอาหมวย" ในเพลงไทยสบายๆ "จะบอกเธอว่ารัก" ของ "The Parkinson" ที่เธอร้องในเวอร์ชั่นผู้หญิงได้สุดไพเราะ ทำนองช้าๆ ซึ้งๆ ด้วยน้ำเสียงละมุนละไม แต่ก็ไม่มีภาพของคนดังชัดเจนให้นึกถึง เหล่ากรรมการเลยต้องทายว่าเป็น ลูกหว้า พิจิกา, ก้อย แซทเทอร์เดย์เซโกะ, มิ้นท์ af, จุ๋ม นารีกระจ่าง, หนูนา หนึ่งธิดา, แกรนด์ เดอะสตาร์ และปลื้มจิตร์ นักวอลเล่บอล (ก็มา)

โดย "หน้ากากจิงโจ้" มาในเพลงสากล How Am I Supposed To Live Without You ของ Laura Branigan ลุคเท่ๆ กับน้ำเสียงนุ่มๆ แต่ทรงพลังทำเอาคนดูและกรรมการในฮอล์ถึงกับเคลิ้มและอินไปกับโชว์นี้ สำเนียงภาษาอังกฤษดี ทักษะการร้องแบบมืออาชีพที่ไล่ระดับโน้ตเสียงได้ไม่มีหลุด ทำเอาขนลุกต้องยืนปรบมือให้กับความยอดเยี่ยมของหน้ากากจิงโจ้ ร้องดีจนทำเอากรรมการหนักใจในการทายเป็นอย่างมาก โดยกรรมการวิเคราะห์น่าจะเป็นนักร้องที่เป็นลูกครึ่ง ทายว่าเป็นชิน ชินวุฒิ, จอห์นนี่ อันวา,บี้ KPN แอนดริว เกร้กสัน (ก็มา)

ผลการตัดสินคู่ที่สองหน้ากากที่ถูกถอดเป็น "หน้ากากอาหมวย" ที่สร้างความอึ้งให้แก่คนดูไม่น้อย เธอคือ "ซี ฉัตรปวีร์" สาวสวยฉายาเจ้าหญิงแห่งวงการไอที ที่น้อยคนจะนึกถึง เป็นอีกคนในกรุ๊ป D ที่เป็นบุคคลนอกวงการบันเทิง ทำให้เหล่ากรรมการและคนดูคาดไม่ถึง สาวซี นอกจากความเชี่ยวชาญทางด้านไอทีและเทคโนโลยีแล้ว ยังมีความสามารถในการร้องเพลงอีกด้วย

สาวซีได้ให้เหตุผลการเลือกหน้ากากอาหมวยว่า ตอนเธอไม่แต่งหน้า หน้าเธอจะดูจืดเหมือนอาหมวยมาก ต่างจากภาพลักษณ์สวยจัดเต็มที่ชาวโซเชียลเห็น รู้สึกว่าถึงแม้จะดูหน้าหมวยแต่ดูเป็นตัวเรา ขอบคุณรายการที่เลือกเธอมา ลึกๆแล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไม่มั่นใจ แต่ก็ไปฝึกร้องเพลงกับครูคนเดิมที่เคยสอนเมื่อ 7 ปีก่อน มีแต่คำว่าตั้งใจที่อยากจะทำให้ดีที่สุดจริงๆ ทำให้เธอก้าวข้ามผ่านคำว่า Comfort Zone ได้กลับมารื้อฟื้นสกิลเก่าๆของตัวเอง มีความสุขที่ได้ออกมาทำอะไรแบบนี้ 

 

ในรอบชิงแชมป์กรุ๊ป D ผู้ที่ต้องเข้าไปชิงชัยกันคือหน้ากากจิงโจ้และหน้ากากปลาหมึก ใครจะได้เป็นแชมป์ของกรุ๊ป D รอติดตามและทายคนดังใต้หน้ากากรอกันไปก่อน แล้วมาลุ้นกันใน The Mask Singer หน้ากากนักร้อง ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 20.00 น. ทางช่องเวิร์คพอยท์จ้า