10 เรื่อง (ไม่) ควรรู้ก่อนดูหนังสุดระทึก Get Out

 GET OUT คือหนังสยองขวัญระทึกขวัญเรื่องล่าสุดจากสตูดิโออย่างยูนิเวอร์แซล ที่นอกจากจะสร้างปรากฏการณ์หลายอย่างแล้ว มันยังเป็นหนังทำเงินอย่างมหาศาล ยิ่งไปกว่านั้นยังกวาดคำชมจากนักวิจารณ์และผู้ชมอย่างเกรียวกราว จนเราต้องสำรวจกันว่าหนังเรื่องนี้ทำไมนักดูหนังและผู้ชม ถึงไม่ควรพลาด

 

1.ปรากฏการณ์ 100 ล้าน

      GET OUT เป็นหนังสยองขวัญที่ใช้ต้นทุนในการสร้างเพียง 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หนังเข้าฉายวันแรกในอเมริกาวันที่ 24 กุมภาพันธ์ สัปดาห์แรกของการเปิดตัว หนังสามารถทำเงินขึ้นอันดับที่ 1 บนตารางบ๊อกซ์ออฟฟิศด้วยรายได้ 49 ล้านเหรียญ และเดินหน้าทำเงินอย่างต่อเนื่อง จนถึงสัปดาห์นี้ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ 5 ของการเข้าฉาย หนังสามารถทำเงินในอเมริกาไปแล้ว 156 ล้านเหรียญฯ และทำรายได้นอกประเทศไปอีก 10 ล้านเหรียญฯ ทำรายรับรวมไปแล้ว 167 ล้านเหรียญฯ

 

2.กวาดคำชมจากนักวิจารณ์และผู้ชมอย่างเป็นเอกฉันท์

      2 เว็บไซต์ชื่อดังในอเมริกาอย่าง Rotten Tomatoes และ Metacritic Get Out สามารถได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวก (POSITIVE) ถึง 47 คนและได้คำวิจารณ์ตรงกลาง (MIXED) เพียงคนเดียว ความรู้สึกของผู้ชมจะค่อนข้างเทไปทางแง่บวก แม้ว่าจะมีคำวิจารณ์ที่อยู่ตรงกลางและไม่ชอบบ้างแต่ส่วนใหญ่แล้ว ทุกคนก็ค่อนข้างชอบหนังเรื่องนี้

3.เรื่องราวนี้เกี่ยวกับอะไร

     เมื่อหนุ่มอเมริกันผิวสีที่เดินทางไปเยี่ยมบ้านของแฟนสาวซึ่งเป็นคนผิวขาว เมื่อคริส (แดเนียล คาลูยา) กับโรสแฟนสาวของเขา (อัลลิสัน วิลเลียมส์) พัฒนาความสัมพันธ์มาถึงจุดที่ไปเยี่ยมบ้านของพ่อแม่แฟน เธอจึงชวนเขาไปพักผ่อนสุดสัปดาห์ที่บ้านของพ่อแม่เธอ คือมิสซี (แคเธอรีน คีเนอร์) และดีน (แบรดลีย์ วิทฟอร์ด) ทางตอนเหนือของรัฐ ตอนแรก คริสอ่านท่าทีเอื้ออารีที่ดูมากเกินของครอบครัวนี้ ว่าเป็นเพราะความประหม่าในการรับมือกับความสัมพันธ์ของลูกสาวกับหนุ่มต่างสีผิว แต่เมื่อเวลาช่วงสุดสัปดาห์ยิ่งผ่านไป การค้นพบสิ่งที่สร้างความกังวลใจที่มากขึ้นเรื่อยๆ ก็นำเขาไปพบกับความจริงที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน

 

4.นี่คือหนังสยองขวัญเสียดสีสังคม

      จอร์แดน เพลี ผู้กำกับจากหนังเรื่อง Get Out วางโครงเรื่องที่มีความสมดุลกันของส่วนที่เป็นความสยองขวัญ และการวิจารณ์สังคม ผลลัพธ์ที่ได้คือ Get Out หนังเขย่าขวัญที่ผสมผสานอารมณ์ขัน, การเสียดสี และ ความสยองขวัญ และไม่กลัวที่จะเล่นงานสถานการณ์ปัจจุบันของความสัมพันธ์ต่างสีผิวในอเมริกาแบบซึ่งหน้า ตัวหนังมีการเล่นประเด็นเรื่องสีผิวเป็นหลัก และกำลังจะวิพากย์สังคมการเมืองในยุคเปลี่ยนผ่านจากบารัก โอบาม่าไปสู่โดนัลด์ ทรัมป์ได้อย่างน่าสนใจ

 

5.เมื่อความสยองขวัญเล่นกับความคาดหวังของผู้ชม

     หนังได้วางโครงเรื่องให้ตัวเอกชื่อ “คริส” ซึ่งเป็นคนผิวสี ทำงานเป็นช่างภาพและศิลปินอยู่นิวยอร์ก  เขาพัฒนาความสัมพันธ์กับแฟนสาวที่เป็นคนผิวขาวไปอีกขั้นหนึ่ง ด้วยการไปเยี่ยมพ่อแม่แฟนในช่วงสุดสัปดาห์   ทันทีที่คริสไปถึงบ้านของครอบครัวแฟนทางตอนเหนือของรัฐ  เขาก็เริ่มสงสัยว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่มันดูเหมือนจะเป็น  เมื่อเขาพบว่ามีคนผิวสีจำนวนหนึ่งหายตัวไปในเขตชานเมืองนั้น  ความสงสัยของเขาก็เปิดเผยออกมา  ว่ามันเป็นยิ่งกว่าความหวาดระแวงไปเองโดยไม่มีเหตุผล  สิ่งที่เริ่มต้นเหมือนเป็นการไปพักผ่อนสุดสัปดาห์ธรรมดา กลับพลิกผันและเดินไปสู่บทสรุปที่บ้า น่าขนลุก เขย่าขวัญ น่าสะพรึงกลัว ส่วนที่สำคัญส่วนหนึ่งของเรื่องราวใน Get Out คือหญิงสาวผิวขาวพาหนุ่มผิวดำไปบ้านและเธอไม่ได้คิดซับซ้อนเรื่องผลยุ่งยากทางสังคมที่จะตามมา

 

6.ตัวละครที่ใช้เดินเรื่องเป็นคนผิวสี

     ตัวละครที่เป็นศูนย์กลางของเรื่องคือคริส วอชิงตัน  ช่างภาพหนุ่มไฟแรงและศิลปินที่โรสหลงรัก  พีเลบอกว่าตัวละครเอกของเขามีอดีตที่ซับซ้อน ปัจจัยที่ทำให้คริสประหม่าที่สุด คือความจริงที่ว่าโรส ไม่ได้บอกพ่อแม่ไว้ก่อนว่าเขาผิวดำ  เขาคาดไว้ล่วงหน้าว่าจะมีสถานการณ์ที่กระอักกระอ่วน  ผมอยากพูดว่าคริส “ตระหนักรู้” เขาอยู่ในห้วงของความรัก แต่เขาก็รับมือกับสถานการณ์นี้อย่างเปิดใจ โดยหนังได้นักแสดงชาวอังกฤษอย่าง แดเนียล คาลูยา ซึ่งผ่านผลงานชื่อดังอย่าง Black Mirror และ Sicario

 

7.แฟนสาวคนผิวขาวผู้ปรารถนาดี

      โรสเป็นแฟนสาวผู้สมบูรณ์แบบสำหรับพระเอกในเรื่อง แต่จริงๆแล้ว เธอขายหน้าจากพฤติกรรมที่ครอบครัวของเธอมีต่อคริสพอๆกับที่เขารู้สึกอับอายในเรื่องนี้ มีปัจจัยหลายอย่างในความสัมพันธ์ต่างสีผิวที่เธอก็เริ่มเข้าใจว่าปัญหามันมีอยู่เมื่อหนังดำเนินเรื่องไป   แต่เธอพยายามเข้าใจสิ่งที่คริสกำลังเผชิญ  เธอเป็นตัวละครที่ให้กำลังใจ เข้าใจ  ตลกและฉลาด โดยทีมผู้สร้างเลือกอัลลิสัน วิลเลียมส์จากซีรีส์ของเอชบีโอ เรื่อง Girls

8.จับตาความแปลกประหลาดของบ้านคนขาว

      ในตัวอย่างภาพยนตร์ที่ Get Out ปล่อยออกมาได้สร้างปมน่าสนใจให้กับผู้ชมกระหายใคร่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวละครในหนังเรื่องนี้บ้างไม่ว่าจะเป็น

- การโจมตีของกวาง

- ตำรวจผู้ดูไม่เป็นมิตร

- คนใช้ในบ้านที่มีพฤติกรรมผิดปกติ

- แสงแฟลชจากโทรศัพท์

- งานเลี้ยงชวนขนหัวลุก

      นี่คือสิ่งที่ผู้ชมต้องจับตามองว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นและมันจะพลิกความคาดหมายของเราอย่างไรบ้าง

 

9.โลเคชั่นและการดีไซน์ฉากชวนขนหัวลุก

โปรดักชั่นของ Get Out ทำกันที่เมืองโมบิล รัฐอัลลาบามา ความท้าทายหลายอย่างรออยู่ เช่น การถ่ายทำตามมุมมืดต่างๆในบ้านของครอบครัวอาร์มิเทจตอนกลางดึก  แต่บางทีฉากที่มีความซับซ้อนที่สุด อาจจะเป็นฉากปาร์ตี้ในสวน ที่โลแกนเข้ามาทำร้ายคริส (ฉากปมปริศนาสำคัญของเรื่อง) เฮเดอร์สออกแบบเสื้อผ้าสำหรับแขกในงานปาร์ตี้อย่างหรูหรา สมฐานะของการเป็นคนในสังคมชั้นสูงฐานะดีทางตอนเหนือของรัฐนิวยอร์ค   สมิธสร้างฉากที่ออกแบบเพื่อให้แขกทุกคนรู้สึกผ่อนคลาย  โดยมีเพียงคนในปาร์ตี้ที่แน่ใจว่าเขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งกับเจ้าภาพที่แปลกๆของเขา   ภาพแต่ละช็อตในฉากนี้ของโอลิเวเอร์ตั้งใจให้เกิดความรู้สึกแบบนั้นเพิ่มขึ้นสำหรับคริส  ถึงแม้ทุกคนจะมีมารยาทและทำท่าทางอ่อนหวานกับเขา แต่ก็มีอันตรายซ่อนอยู่ที่ภายนอกของทุกภาพ  จากภาพโคลสอัพใบหน้าของแขกในงานที่จ้องมองมา ตอนที่พวกเขาคิดว่าคริสไม่ได้มองอยู่

 

10.คนดูจะได้พบอะไรจาก Get Out

     ทีมงานได้พูดถึงสิ่งที่พวกเขาหวังสำหรับ Get Out เปรียบเสมือนการเดินทางที่สนุก   หลังจากนั้นผมก็อยากให้พวกเขาพูดคุยเกี่ยวกับ การวิพากษ์สังคมในหนังเรื่องนี้ ซึ่งเป็นอคติตามธรรมชาติที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด จากที่ใดก็ตามที่เราถูกเลี้ยงดูมา และจากใครก็ตามที่เลี้ยงดูเรามา ทั้งนี้ตัวหนังยังมีความน่ากลัวในโทนสยองขวัญ แต่ยังมีอารมณ์ขันแทรกเข้ามาเป็นระยะ เพื่อหาจังหวะในการทำให้คนดูตกใจมากยิ่งขึ้นในช่วงเวลาที่คนดูคิดว่าปลอดภัยแล้วก็ตาม….

@PRETTYPLASALID