วิจารณ์หนัง Her Love Boils Bathwater ความห่วงใยของแม่

เชื่อว่าคำว่า “แม่” นั้นคือ คำสามารถความยิ่งใหญ่ของเพศหญิงได้ดีไม่แพ้คำว่า “นักรบ” ในเพศชายเลย แต่แม่ในอุดมคตินั้นต้องมาพร้อมกับหน้าที่และความรับผิดชอบ เช่นเดียวกันกับตัวละครฟุตาบะ(เร มิยาซาว่า) คุณแม่ชาวญี่ปุ่นที่ต้องเลี้ยงดูลูกสาวด้วยตัวคนเดียว หลังจากสามีของเธอหนีไปมีภรรยาใหม่ แต่แล้วชีวิตของเธอต้อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ครั้งสำคัญ เมื่อเธอค้นพบว่าตัวเองกำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย และเธอเหลือเวลาอยู่บนโลกใบนี้เพียงแค่สองเดือนเท่านั้น

เมื่อเวลายิ่งเหลือน้อย สิ่งที่เธอต้องพยายามทำให้สำเร็จ คือการตามหาสามีที่หายตัวไป ซ่อมแซมธุรกิจโรงอาบน้ำสาธารณะ ฝึกฝนลูกสาวให้เข้มแข็ง รวมถึงสอนบทเรียนชีวิตแก่คนรอบข้างว่าเมื่อเธอจากโลกใบนี้ไปแล้ว ทุกคนก็ต้องยืนหยัดต่อไปได้ด้วยตัวเอง

ตัวหนังได้พยายามสอนบทเรียนชีวิตและวิธีการมองโลกในแง่ดีให้กับผู้ชม อาทิซีนที่ตัวละครลูกสาวอย่างอาซูมิ (ฮานะ ซูกิซากิ) ถูกเพื่อนร่วมชั้นเรียนรังแกกลั่นแกล้งเอาสีน้ำมาละเลงชุดนักเรียน แต่แทนที่เธอจะโกรธอาละวาดตามประสาแม่เจ้าอารมณ์ เธอกลับแก้ไขปัญหาตรงหน้า ด้วยการปลอบประโลมลูกสาวของตนว่า “ลูกชอบสีอะไรล่ะ” ก่อนที่เธอจะค่อยๆสอนบทเรียนชีวิตว่า การต่อสู้กับคนที่เลวร้ายในชีวิตนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรงหรืออารมณ์โกรธเสมอไป แต่มันมีวิธีการที่หลากหลายในการเยียวยาปัญหา

หนังที่เล่าเรื่องราวของความไม่แน่นอนในชีวิตมนุษย์ แต่ตัวละครอย่างฟุตาบะไม่ได้ถูกสร้างและออกแบบมาให้เป็นตัวละครที่โศกเศร้า อมความทุกข์ แต่เธอหาทางออกของชีวิตด้วยการสร้างโอกาสให้คนในครอบครัวที่ครั้งหนึ่งเคยแตกซ่านกระเซ็นไปคนละทิศทาง มีโอกาสที่จะกลับมาพบกันอีกครั้ง และนั่นคือบทพิสูจน์ครั้งสำคัญในการนิยามความหมายของการเป็นแม่ที่ดี

Her Love Boils Bathwater นอกจากจะเชิดชูความเป็นแม่แล้ว หนังยังให้ความสำคัญกับความเป็นครอบครัวด้วย จริงอยู่ที่มนุษย์นิยามคำว่าพ่อ แม่ ปู่ ยา ตา ยาย ด้วยความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่ความเป็นจริงแล้วคำว่าครอบครัวนั้น สามารถนิยามขอบเขตได้กว้างกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นมิตรสหาย คนที่ประสงค์ดีในชีวิต หรือกระทั่งศัตรูที่วันหนึ่งสามารถปรับความเข้าใจและพูดคุยกันได้ เหล่านี้อาจจะถูกรวมอยู่ในคำว่าครอบครัวได้เช่นกัน เช่นเดียวกับธุรกิจโรงอาบน้ำที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของหนังเรื่องนี้ เมื่อนางเอกของเรื่องพยายามฟื้นฟูสถานที่และคาดหวังจะให้มันกลับมาเปิดทำการได้อีกครั้ง เทียบเท่ากับการที่เธอพยายามรวบรวมสมาชิกในครอบครัวให้กลับมารวมกัน

คนญี่ปุ่นมองว่าการอาบน้ำในโรงอาบน้ำสาธารณะคือการ เข้ามาใช้บริการของผู้คนหลากหลายที่ไม่เคยรู้จักกัน แต่สถานที่แห่งนี้ไม่มีการปิดกั้น กีดกัน เปิดรับความเห็นที่แตกต่าง แชร์ความรู้สึกร่วมกัน เมื่อนั้นคำว่า “ครอบครัว” ก็จะเริ่มก่อตัวขึ้น

4.5 คะแนนจาก 5 คะแนน

@PRETTYPLASALID