วิจารณ์หนัง THE MONSTER การเดินทางข้ามผ่านความกลัว

 

มีการเปิดเผยเรื่องราวและเนื้อหาสำคัญของหนัง หากยังไม่ได้ชมกรุณาข้ามบทความไปก่อน

 

        ถึงแม้ว่าโรงหนังในสัปดาห์นี้ รอบฉายส่วนใหญ่จะถูกเทให้กับหนังโจรสลัดภาคต่ออย่าง Pirates of the Caribbean Salazar’s Revenge ก็ตามแต่ยังมีหนังระทึกขวัญอย่าง The Monster เอาไว้ให้คนที่เบื่อหนังแฟรนชายส์ภาคต่อ เอาไว้เป็นทางเลือกให้ดูกันบ้าง แม้ว่ารอบฉายจะหายากเย็นเหมือนเหรียญที่กระเด็นเข้าไปอยู่ในซอกแคบๆก็ตามที

        The Monster บอกเล่าเรื่องราวของสองแม่ลูกที่ต้องเดินทางไปยังบ้านของสามี แต่อุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเคธี่ (โซอี้ คาซาน) ผู้เป็นแม่ขับรถชนเข้ากับสัตว์กลางคืนจนรถเสียหลักและไม่สามารถขับต่อไปได้ ทำให้สองแม่ลูกต้องติดอยู่บนถนนสายเปลี่ยวตามลำพัง สองข้างทางเป็นเพียงป่าทึบที่มืดสนิท พร้อมกับสายฝนที่กำลังเทลงมาอย่างไม่ขาด โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังโดนสิ่งมีชีวิตบางอย่างจ้องมองและหมายจะเอาชีวิตพวกเขาอยู่

        อันที่จริง The Monster อาจจะกลายเป็นหนังสัตว์ประหลาดรอเหยื่อธรรมดาๆเรื่องหนึ่ง และอันที่จริงตัวหนังเองก็มีสภาพไม่ต่างอะไรจากหนังสัตว์ประหลาดเกรดบี ถ้าหากหนังไม่ใช้วิธีการปูความสัมพันธ์ของตัวละครแม่-ลูก อย่าง เคธี่ (โซ คาซาน) และลูกสาว ลิซซี่ (เอลล่า บัลเลนทีน) ให้คนดูได้ในช่วงต้นเรื่องว่าทั้งคู่ไม่ได้เป็นแม่ลูกแบบปกติทั่วไป อันที่จริงควรจะใช้คำนิยามที่ว่าลิซซี่มีแม่ที่ “ไม่พร้อม” จะรับผิดชอบเลี้ยงดูลูกด้วยซ้ำไป

        ความสัมพันธ์อันผิดปกติดังกล่าวยิ่งทำให้คนดูเกิดความหวาดระแวง เคลือบแคลงใจว่าถ้าหากหนังดำเนินไปสู่จุดไคลแมกซ์แล้วแม่ลูกคู่นี้จะยังรักใคร่ปรองดองกันดี หรือว่าจะผลักไสให้อีกฝ่ายตายตกตามกันไปโดยปราศจากเยื่อใยอันนี้ก็ต้องไปติดตามกันเองในหนังดู

        ในเมื่อหนังวางพล็อตให้ตัวละครสองแม่ลูกมีความสัมพันธ์กันแบบที่ไม่ค่อยแน่นแฟ้นนัก เราจะได้เห็นพฤติกรรมติดเหล้าของเคธี่ ขณะที่ลิซซี่ก็เหมือนต้องทำตัวโตเกินวัยเด็กแบบที่เธอควรจะเป็นแบบเด็กคนอื่นๆ หนังใช้วิธีการคอยตัดสลับเหตุการณ์ในอดีตกับช่วงเวลาที่ทั้งสองกำลังติดฝนอยู่ในรถเป็นระยะ และทุกครั้งที่ความช่วยเหลือเดินทางมาทั้งคู่ ก็เหมือนจะลงเอยด้วยหายนะอยู่เสมอๆ       

        ประเด็นเหล่านี้สามารถหยิบจับเอาเล่าเป็นบทสรุปเชิงสัญญะได้ตามนี้

1.สองแม่ลูกเกิดความระหองระแหงไม่รักกัน

2.ทั้งสองต้องติดอยู่ในสถานการณ์คับขัน ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาด ทำให้ทั้งคู่เผยถึงความเปราะบางและแสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใยต่อกัน

3.ความช่วยเหลือที่เดินทางมาทั้งสองไม่ว่าจะเป็นรถลากหรือรถพยาบาลก็ไม่อาจจะช่วยเหลือสองแม่ลูกได้

4.ผู้เป็นแม่ตัดสินใจสละชีวิตของตนเพื่อรักษาชีวิตของลูกสาว

5.ลูกสาวได้เรียนรู้ว่า ท้ายที่สุดเธอต้องเติบโตขึ้นและ “ต่อสู้” กับความกล้ว (ปีศาจ) ด้วยตนเอง

6.ลูกสาวเอาชนะความกลัวและได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยตัวเอง

        จากลำดับเหตุการณ์จากต้นเรื่องสู่ท้ายเรื่องเราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละคร ผ่านเรื่องราวการเผชิญหน้ากับความหวาดกลัว จนนำไปสู่บทสรุป ซึ่งอันที่จริงถ้าจะกล่าวว่า The Monster จริงๆก็คือหนังสัตว์ประหลาดเรื่องหนึ่งนั่นแหละ เพียงแต่หนังเลือกจะเอาดราม่าของสองแม่ลูกใส่เข้าไประหว่างเรื่องราวเพื่อเป็นการเปรียบเทียบและใช้องค์ประกอบแวดล้อมเพื่อเล่าหนังให้ดู “มีอะไร” มากกว่าปกติก็เท่านั้นเอง

 

3 คะแนนจาก 5 คะแนน