เบื่อมินเนี่ยนกันหรือยัง? พวกมันกลับมาแล้วใน Despicable Me 3

 

@PRETTYPLASALID

 

        Despicable Me กลายเป็นแอนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทางด้านรายได้ แต่นอกเหนือไปจากนั้นคือหนังสามารถสร้างคาแรกเตอร์ของตัวละครให้มีความโดดเด่นเป็นที่รักของผู้ชมอย่างตัวละคร “มินเนี่ยน” จนพระเอกตัวจริงของเรื่องอย่าง “กรู” โดนกลบรัศมีไปเลยก็ว่าได้ แต่ในจักรวาลของหนังเรื่องนี้ กรูและมินเนี่ยนมีความเกี่ยวโยงซึ่งกันและกันในฐานะวายร้ายและลูกสมุน นี่คือการกลับมาขึ้นจอร่วมกันเป็นครั้งที่ 3 สำหรับกรูและมินเนี่ยน

         

เรื่องราวครั้งใหม่ของวายร้าย

        เรื่องราวยังคงดำเนินต่อเนื่องมาจากเหตุการณ์ในภาคที่ 2 หลังจากที่เขาถูกขับไล่จากสมาพันธ์ต่อต้านวายร้ายเพราะไม่สามารถล้มคนชั่วคนล่าสุดที่คุกคามมนุษยชาติได้ กรูก็พบตัวเองเผชิญกับวิกฤติการณ์ตัวตนครั้งสำคัญ แต่เมื่อคนแปลกหน้าลึกลับปรากฏตัวขึ้นและแจ้งกับกรูว่า เขามีน้องชายฝาแฝดคนหนึ่ง ผู้อยากจะเดินตามรอยเท้าชั่วๆ ในการเป็นวายร้าย อดีตจอมวายร้ายคนนี้ก็จะได้รื้อฟื้นความรู้สึกที่ว่า การเป็นวายร้ายมันให้ความรู้สึกดีแค่ไหน

 

ย้อนรอยภาคแรกและภาคสองฟื้นความทรงจำ

        ในภาคแรกกรูและมินเนี่ยน ได้วายแผนการร้ายเพื่อไปขโมยดวงจันทร์ แต่ด้วยความผิดพลาด(ที่เป็นเรื่องดี) เมื่อกรูต้องรับบทกลายเป็นพ่อให้กับสามเด็กหญิงกำพร้า มาร์โก้, อีดิธและแอ็กเนสแบบจำเป็น ทำให้เขาเรียนรู้ถึงความดีงามและยอมสละชีวิตอาชญากรของเขาและเปลี่ยนจากจอมวายร้ายกลายเป็นยอดคุณพ่อ

          เหตุการณ์ในภาคที่ 2 กรูได้รับการว่าจ้างจากสมาพันธ์ต่อต้านวายร้าย (เอวีแอล) ให้ใช้ความสามารถของเขาในฐานะอดีตวายร้ายในการนำเหล่าร้ายมาลงโทษ กรู ผู้ไม่เคยคิดฝันถึงเรื่องรักๆ ใคร่ๆ กลับตกหลุมรัก ลูซี คู่หูสายลับของเขา อย่างหัวปักหัวปำ และท่ามกลางความยินดีของลูกสาวของเขา ที่อยากมีแม่มาโดยตลอด เขาก็ขอลูซีแต่งงานในที่สุด

          สำหรับภาค Spin off (หรือภาคแยกใน Minion) ทำให้เราได้รับรู้ถึงต้นกำเนิดของตัวละครสีเหลืองแสนน่ารักพวกนี้ และเราก็ได้เห็นว่าการผจญภัยเพื่อตามหาผู้นำชั่วร้ายที่ออกนอกลู่นอกทางของเควิน, สจวร์ตและบ็อบ นำพวกเขาไปหา กรู ในวัยเด็ก ได้อย่างไร

 

พัฒนาการของตัวละคร

          ในหนังภาคต่อทุกเรื่องตัวละครจำเป็นต้องมีพัฒนาการ เพราะนั่นคือสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนั้นๆมีความสมบูรณ์ ไม่ใช่เป็นแค่การโขลกเอาพล็อตเรื่องเดิมๆ แต่เปลี่ยนสถานการณ์ใหม่อย่างเดียว ในภาคแรก กรูค้นพบว่าการเป็นพ่อเป็นยังไงและความรักที่ไร้เงื่อนไขเป็นยังไง ในภาคสอง เราสำรวจการตกหลุมรักของกรู และตอนนี้ เราก็เริ่มต้นที่กรูที่เจอกับวิกฤติการณ์ตัวตนเข้าเพราะเขาพบว่าตัวเองถูกไล่ออกจากงาน และค้นพบการชิงดีชิงเด่นกับพี่น้องที่เขาเพิ่งได้รู้จัก

 

เสน่ห์ของการสร้างความใกล้ชิดให้ผู้ชม

        การที่แฟรนชายส์ของ Despicable Me 3 ออกมาเวิร์คเพราะนอกจากพวกมันจะมีความเปิดกว้าง ขำขันและตลกแล้ว ยังมีความสะเทือนอารมณ์ที่ร้อยเรียงอยู่ในหัวใจของเรื่องด้วย แม้ว่ากรูจะเป็นวายร้าย แต่คนดูก็ยังพบว่าเขาเป็นตัวละครที่เข้าถึงได้ง่ายและอยากจะให้เขาทำสำเร็จไม่ว่าจะในสถานการณ์ไหนก็ตาม

 

เปิดใจตัวร้ายของหนัง

        บัลธาซาร์ แบรทท์ จอมวายร้ายผู้น่าสะพรึงกลัว เขาวางแผนที่จะทำลายฮอลลีวูดหลังจากซีรีส์ของเขาถูกตัดจบ แบรทท์ ผู้หมกมุ่นอยู่กับยุค 80s จากการที่เขาเคยเป็นดาราเด็กคนดังในทศวรรษนั้นเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ไม่เคยลืมความผิดหวังครั้งนั้น และเขาก็ไม่เคยยกโทษให้ผู้ชมที่ทอดทิ้งเขาด้วย ตัวละครนี้ไม่สามารถทำใจกับความจริงที่ว่าแฟนๆ ไม่แคร์เขาอีกต่อไปแล้ว แรงจูงใจของแบรทท์คือการแก้แค้นโลกที่หันหลังให้เขาและเขาก็ลงมือทำในโฉมหน้าของเวอร์ชั่นผู้ใหญ่ของตัวละครจากซีรีส์ในวัยเด็ก

 

ขอต้อนรับมินเนียนตัวใหม่!

        ใน Despicable Me 3 เราได้พบกับมินเนียนเมล ผู้เริ่มปฏิวัติกรูและเป็นผู้นำเหล่ามินเนียนในตอนที่พวกเขาตั้งใจจะยืนอยู่บนลำแข้งของตัวเอง ตามแบบของพวกมินเนียน พวกเขากลับไปก่อเรื่องและถูกจับเข้าคุก มินเนียนเมลเริ่มต้นจากการเป็นลูกกระจ๊อก แต่กลับลงเอยด้วยการเป็นขาใหญ่ประจำคุก ที่นักโทษพากันหวาดกลัว

 

ดนตรีประกอบสุดประทับใจ

          ดนตรีของ Despicable Me 3 เป็นการรวมกันระหว่างดนตรีที่ยอดเยี่ยมจากนักประพันธ์เฮเตอร์ เพเรราและเพลงที่ไม่มีใครเหมือนของศิลปินเจ้าของ 11 รางวัลแกรมมี อวอร์ด ฟาร์เรล วิลเลียมส์ ทั้งคู่ได้ร่วมงานกันใน Despicable Me ทุกภาค 3 โดยในภาคนี้มีเพลงของวิลเลียมส์ทั้งหมดแปดเพลง หลายเพลงถูกแปลงมาจากภาคแรกๆ แต่มีห้าเพลงที่ถูกเขียนขึ้นเพื่อภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเฉพาะ