ดูแล้วบอกต่อ DESPICABLE ME 3 ครอบครัวตัวร้าย

@PRETTYPLASALID

 

          คนดูทั่วไปอาจจะหลงลืมว่าจริงๆแล้ว DESPICABLE ME นั้นเป็นเรื่องราวของกรู วายร้ายตัวแสบระดับโลก ที่บังเอิญกลับใจเพราะเขาได้อุปการะเลี้ยงดูเด็กสาวสามคนอย่างลูซี มาร์โก้และแอ็กเนส แต่คนดันไปจดจำลูกสมุนจอมขโมยซีนอย่างมินเนียน ตัวสีเหลืองว่าเป็นตัวเอกของเรื่อง และคาดหวังว่าในภาคล่าสุดเจ้าตัวละครนี้จะโดดเด่น แต่เมื่อไม่ได้เป็นเช่นนั้น จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวังกับหนังภาคล่าสุด

          จะว่าไปแล้วเรื่องราวของหนังภาคล่าสุดนี้เน้นไปโฟกัสที่ตัวละครอย่างกรูที่หลังจากเขาได้พบรักกับลูซี่ในภาคที่ 2 กำลังใช้ชีวิตครอบครัวของเขาอย่างมีความสุขจนกระทั่งมีวายร้ายคนใหม่โผล่ขึ้นมาอย่างบัลธาซาร์ แบรทท์ ซึ่งตัวละครนี้ถูกปมในวัยเด็กผลักดันให้เขาอยากจะล้างแค้นวงการฮอลลีวู้ด ในโอกาสนี้เองบรรดาลูกสมุนอย่างมินเนียนจึงคาดหวังให้กรูหวนคืนสังเวียนวายร้าย แต่เมื่อกรูเลือกจะปฏิเสธบรรดาฝูงมินเนียนจึงเลือกไปมีเส้นทางเป็นของตัวเอง

          จุดเปลี่ยนของหนังภาคนี้คือการมอบเงื่อนไขใหม่ขึ้นมาว่า ถ้าหากกรูพบว่าจึงๆแล้วอดีตของเขามีอะไรมากกว่านั้น เมื่อเขาได้พบกับน้องชายฝาแฝดที่ชื่อว่าดรู ทำให้เขาต้องกลับไปเผชิญหน้ากับแม่ของตนว่าที่จริงแล้วเรื่องราวมีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่ กรูค้นพบว่าที่จริงแล้วการที่พ่อแม่ของเขาแยกทางกันและต่างฝ่ายต่างก็นำลูกแต่ละคนไปเลี้ยง จุดนี้เองหนังพยายามจะสะท้อนให้คนดูเห็นว่า ไม่ว่าครอบครัวจะสมบูรณ์หรือไม่ความรักของคนเป็นพ่อและแม่ก็มีไม่ได้น้อยลงไปกว่าเดิม

          การที่ตัวละครอย่างกรูได้ค้นพบว่าตนเองมีน้องชาย ที่เหมือนจะเพียบพร้อมกว่าตนเองในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเส้นผมที่สวยงาม (กรูหัวล้าน) ดรูมีเสน่ห์และเพิ่งจะได้รับมรดกมากมายจากพ่อของตัวเอง เมื่อกรูเลือกจะเปรียบเทียบชีวิตของตนกับน้องชายตนทำให้เขารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ แต่แล้วกลายเป็นว่าที่จริงแล้วทรัพย์สินเงินทองหรือรูปลักษณ์ภายนอกนั้นเขาไม่มีความสามารถใดๆที่เทียบเท่ากับกรูหรือพ่อของเขาได้เลยสักนิดเดียว

          การที่พ่อของดรูไม่เชื่อมั่นในความสามารถของลูกชายตนเอง เป็นผลทำให้เขาไม่ได้รับโอกาสในการฝึกฝนวิชาความสามารถโดยเฉพาะบทเรียนเรื่องการเป็นวายร้ายขั้นพื้นฐาน ดังนั้นหนทางเดียวที่จะเติมเต็มความสามารถของดรูได้ คือการร้องขอโอกาสจากพี่ชายในการฝึกฝนความสามารถของเขา

          ก่อนที่หนังจะนำผู้ชมไปสู่บทสรุป สองพี่น้องก็ต้องเผชิญหน้ากับอีโก้ของตนเอง แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือจุดหมายสำคัญของทั้งสองคือการร่วมมือกันในการใช้อุปกรณ์วายร้ายของพ่อตนในการปราบบัลธาซาร์ แบรทท์ให้ได้นั่นเอง

          น่าเสียดายที่ความพยายามจะเล่าเรื่องครอบครัวในหนังภาคนี้ ทำให้หนังไม่ค่อยลื่นไหล และหลายครั้งมุกตลกในหนังก็จัดได้ว่าค่อนข้างฝืดเฝืออย่างน่าเสียดาย แต่จะว่าไปแล้วถ้ามองตามมาตรฐานของแฟรนชายส์ชุดนี้แล้ว ก็จะพบว่าตั้งแต่ภาคแรกเป็นต้นมา หนังก็ไม่เคยไปถึงขั้นดีเยี่ยมจนรู้สึกน่าประทับใจภาพรวมของหนัง

 

2.5 คะแนน