ดูแล้วบอกต่อ KIDNAP ลูกข้าใครอย่าแตะ

 

          KIDNAP หนังที่มีเนื้อเรื่องตามชื่อหนัง ชนิดที่ไม่มีอะไรบิดพลิ้ว เหนือการคาดเดาของผู้ชมเลยสักนิด เพราะมันว่าด้วยเรื่องราวของคุณแม่ที่พาลูกชายไปเดินเล่นสวนสาธารณะ แต่หลังจากที่เธอแว่บไปคุยโทรศัพท์เพียงไม่กี่นาที เมื่อเธอหันกลับมาแล้วไม่เจอลูก เธอก็สติแตกในระดับที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกเมื่อเธอกำลังต้องเผชิญหน้าว่าลูกของเธอโดน “ลักพาตัว”

          หากจะให้พิจารณาถึงลักษณะของตัวละครคาร์ล่า ไดสัน(ฮัลลี่ เบอร์รี่) แล้วจะพบว่า เธอประกอบอาชีพเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ในร้านอาหารที่ดูจากสภาพแล้วผู้ใช้บริการค่อนข้างเป็นคนระดับล่างไปถึงชนชั้นกลางที่ไม่ได้มีฐานะมากนัก อีกทั้งสภาพร้านที่เธอทำงานอยู่ก็ดูเหมือนไม่มีระบบการจัดการที่ดีนัก ทำให้คาร์ล่าดูต้องทำงานหนักกว่าที่ควรจะเป็น งานของเธอต้องรับมือกับความจุกจิกของทั้งพ่อครัว และลูกค้า โดยฉากแรกที่เราเห็นเธอทำงานอย่างหนัก จนต้องบอกให้ลูกชายอย่างแฟรงค์กี้(เซจ คอเรีย)ต้องนั่งคอยว่าเมื่อไหร่แม่ของเธอจะพาเขาไปเที่ยวได้สักที

 

          คาร์ล่ายังต้องเผชิญกับสภาพวิกฤตครอบครัวเมื่อสามี(ทิโมธี แฟนนอน) พยายามฟ้องร้องเพื่อแย่งสิทธิในการเลี้ยงดูแฟรงกี้ ทำให้คนเป็นแม่อย่างคาร์ล่าต้องปลีกตัวออกมารับโทรศัพท์ระหว่างที่พาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเที่ยวเล่น แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อคาร์ล่าหันกลับมาแล้วไม่พบลูกชาย เธอพยายามตามหา และทันใดนั้นเองเธอก็ได้ยินเสียงของลูกชายกรีดร้องขอความช่วยเหลือ แต่ดูเหมือนไม่ทันเวลาเสียแล้วเมื่อคนร้ายโยนแฟรงกี้เข้าไปในรถเก๋งปุโรทั่งและขับออกไปอย่างรวดเร็ว          

          ด้วยสัญชาติญาณของความเป็นแม่ทำให้คาร์ล่าวิ่งไล่ตามรถคันนั้นจนทำโทรศัพท์มือถือของตัวเองหล่นหาย แต่เธอก็รีบกลับไปยังที่รอของตัวเอง เพื่อขับตามไปรถคันที่จับลูกชายไปอย่างดุเดือด นำไปสู่ฉากขับรถไล่ล่าฉบับบ้านๆที่ไม่มีกระสุนและระเบิด (แบบในหนังไมเคิล เบย์) แต่ให้ความรู้สึกอยากจะเอาใจช่วยให้คาร์ล่าไล่ตามทัน

 

          เหตุการณ์ในหนังต่อจากนั้นคือการเล่าเรื่องราวในแบบที่ผู้ชมอยากจะเอาใจช่วยให้คาร์ล่าสามารถต่อกรกับสองโจรที่ลักพาตัวลูกชายของเธอไป ซึ่งอันที่จริงแล้วตัวหนังเรื่องนี้อาจจะเต็มไปด้วยความจืดชืด เต็มไปด้วยสูตรสำเร็จ แต่วิธีการกำกับของหลุยส์ พรีโต้ เลือกจะให้นักแสดงสาวอย่างฮัลลี เบอร์รี่เล่นใหญ่กว่าความเป็นมนุษย์ปกติ อาทิเช่นการตกใจมาก หวาดกลัวมาก สติแตกอย่างมาก จนหนังกลายเป็นเหมือนละครช่อง 7 (หรือใกล้เคียงความเล่นใหญ่ของช่อง 8) จนเรียกได้ว่ามันเป็นตัวเพิ่มอรรถรสให้กับผู้ชมสนุกไปกับหนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

          KIDNAP เราสามารถกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า นี่คือหนังเกรดบีเต็มตัว ที่นำแสดงโดยดาราเกรดเอ ซึ่งดูจบแล้วก็จบกันและไม่ติดอยู่ในความทรงจำอย่างแน่นอนเมื่อเวลาผ่านพ้นไป