คาดการณ์อนาคตของแฟรนชายส์ Transformers จะหยุดไหมหรือไปต่อ

 

          หลังจากที่ Transformers: The Last Knight เข้าฉายในอเมริกาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาตัวหนังทำรายได้ในบ้านเกิดไปได้แค่เพียง 69 ล้านเหรียญเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าการที่สตูดิโอพาราเมาต์คาดหวังไว้ว่าตัวหนังจะเปิดตัวสูงกว่า 100 ล้านเหรียญ แถมการเปิดตัวหนังภาคนี้ยังใช้เวลา 5 วัน (นั่นหมายความว่าหนังเข้าฉายตั้งแต่วันพุธ ทั้งที่ปกติหนังใหม่จะเข้าฉายในอเมริกาวันศุกร์) ในขณะที่หนังภาคก่อนอย่าง Transformers: Age of Extinction ใช้เวลาแค่เพียง 3 วันในการเปิดตัวและทำรายได้ไป 100 ล้านเหรียญ นี่กำลังเป็นสัญญาณอันตรายของแฟรนชายส์หนังชุดนี้หรือเปล่า

          ณ เวลานี้ตัวหนังสามารถทำรายได้ในต่างประเทศไปแล้ว 199 ล้านเหรียญ ทำให้รายรับรวมทั่วโลกทำเงินไปแล้วทั้งสิ้น 267 ล้านเหรียญ แต่เมื่อพิจารณาจากทุนสร้างจำนวน 217 ล้านเหรียญ ยังไม่รวมค่าทำโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ก็ดูเหมือนว่าหนังจะยังไม่ได้ทำกำไรเท่าไหร่ อีกทั้งตัวหนังยังไม่ได้ไปเปิดตัวในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นประเทศที่สตูโดดิโอพาราเมาต์คาดหวังว่าจะเป็นบ่อเงินบ่อทองของหนัง หลังจากที่ภาคก่อนในแดนมังกรนั้น หนังสามารถทำรายได้สูงถึง 320 ล้านเหรียญเลยทีเดียว

          ปัจจัยที่น่าจับตามองประการหนึ่งถึงสาเหตุที่หนังภาคนี้ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีนัก สืบเนื่องมาจากคำวิจารณ์ของทั้งผู้ชมทั่วไปและนักวิจารณ์ ออกมาแทบจะเป็นเสียงเดียวกันจนเกือบหมด ว่าหนังภาคล่าสุดไม่ต่างอะไรจากยานอนหลับ ยิ่งไปกว่านั้นหุ่นยนต์แปลงร่างที่สมควรจะเป็นตัวเดินเรื่องก็ถูกลดทอนความสำคัญและเหมือนเทบทให้กับมนุษย์ในหนังเป็นหลัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามหลังจากที่หนังภาคนี้จบลง ก็ได้มีการปูทางที่นำไปสู่เรื่องราวในภาคถัดไปตามธรรมเนียมของหนังภาคต่อ

 

 

เกิดอะไรขึ้นท้ายเครดิต The Last Knight [มีการเปิดเผยเรื่องราวในหนัง]

        หลังจากที่ออพติมัส ไพรม์และบัมเบิ้ลบีสามารถเอาชนะวายร้ายอย่างควินเทสซ่า ซึ่งเธอเอ่ยอ้างว่าตนคือ ไพร์มผู้ให้กำเนิดไพร์มทั้งมวล ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วนางคือเทพแห่งความหลอกลวง แต่ในฉากสุดท้ายของหนังที่ระหว่างที่เครดิตกำลังขึ้นชื่อของทีมงาน หนังก็ตัดภาพไปที่ทะเลทราย ควินเทสซ่าในร่างมนุษย์ (เจมม่า ชาน) กำลังเดินไปยังที่ ซากจากวัตถุประหลาดที่ปรากฏขึ้นอย่างปริศนาช่วงต้นเรื่อง เธอได้พบกับชายคนหนึ่งที่กำลังศึกษาซากนี้อยู่ จากนั้นเธอก็ยิ้มขึ้นอย่างมีเลศนัยก่อนที่จะเผยให้เห็นถึงเทคโนโลยีเครื่องจักรที่อยู่ภายใต้ผิวหนังมนุษย์ของเธอ

          ซึ่งวิธีที่หุ่นดิเซปติคอนใช้การพลางตัวเป็นมนุษย์เช่นนี้ เคยปรากฏให้เห็นมาแล้วครั้งหนึ่งใน Transformers: Revenge of the Fallen ซึ่งนี่กลายเป็นจุดบ่งชี้ให้เห็นว่าวายร้ายอย่างควินเทสซ่าจะกลับมามีบทบาทอีกครั้งในหนังภาคต่อไป

 

 

ปี 2018 จะไม่มี Transformers แต่มีโซโล่ของ Bumblebee

        สตูดิโอพาราเมาต์เลือกใช้วิธีการเดียวกันกับจักรวาล Star Wars รวมไปถึงจักรวาลอย่าง The Conjuring ในการเลือกแตกหน่อเล่าหนังตัวละครในจักรวาลของตัวเองด้วยการแยกเรื่องราวออกมา ซึ่งในปี 2018 จะมีหนังเดี่ยวของตัวละครอย่างบัมเบิ้ลบี ซึ่งเล่าเหตุการณ์ก่อนหน้าหนังทรานส์ฟอร์เมอร์ภาคแรก โดยจะโฟกัสไปในช่วงเวลาที่บัมเบิ้ลบีเดินทางมายังโลกมนุษย์ ซึ่งคาดการณ์ว่าน่าจะเกี่ยวโรงไปถึงช่วงเวลาที่เขาไปทำภารกิจต่อสู้กับนาซีแบบในหนังภาค The Last Knight มีฉากแฟลชแบคกลับไปเล่าเหตุการณ์ในอดีต

          สำหรับหนัง Bumblebee ได้ตัวผู้กำกับหนังสต็อปโมชั่นอย่าง “ทราวิส ไนท์” ซึ่งมีผลงานการกำกับ Kubo and the Two Strings มาแล้วและยังเป็นฝ่ายแอนิเมชั่นหนังสต็อปโมชั่นอาทิ Coraline, ParaNorman, The Boxtrolls เป็นต้น ตอนนี้นักแสดงที่จะมารับบทนำคือสาวฮาลีย์ สไตน์เฟลท์ โดยหนังคาดการณ์ว่าจะเริ่มต้นเปิดกล้องช่วงเดือนกรกฎาคมในปี 2017 และวางกำหนดเข้าฉายวันที่ 8 มิถุนายน ปี 2018

 

ไขปริศนาตัวละครแซม วิทวิคกี้

แซม วิทวิคกี้ (ไชอา ลาบัฟ) คือตัวละครเอกในสามภาคแรกของ Transformers เด็กเนิร์ดที่ได้เป็นเพื่อนกับหุ่นยนต์บัมเบิ้ลบี แต่ในภาคที่ 4 อย่าง Transformers: Age of Extinction ก็ไร้วี่แววของตัวละครนี้ (เพราะไชอา ลาบัฟไม่อยากร่วมแสดงต่อ) แต่ในหนังภาคล่าสุดได้มีการทิ้งรายละเอียดเอาไว้ว่าตัวละครนี้หายไปไหน

          หากคุณยังจดจำฉากที่เซอร์เอ็ดมุนด์ เบอร์ต้น(แอนโธนี่ ฮอปส์กินส์) พยายามอธิบายให้วิเวียน (ลอร่า แฮดค๊อก) เข้าใจถึงลำดับเครือญาติของตระกูลวิทวิแคน ซึ่งสืบสายเลือดมาจากเมอร์ลิน ซึ่งถ้าหากมองภาพในหนังสือให้ดีจะพบว่ามีภาพของแซม วิทวิคกี้อยู่ด้วย และถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วคำกล่าวที่ว่า “วิเวียนคือสายเลือดเมอร์ลินคนสุดท้ายที่เหลือรอดชีวิตอยู่” นั่นหมายความว่าตัวละครแซม วิทวิคกี้ อาจจะเสียชีวิตไปแล้วหลังจากเหตุการณ์ในภาค Transformers: Dark of the Moon ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้ยังเป็นปริศนาอยู่

 

 

การบอกลาครั้งสุดท้ายของไมเคิล เบย์

ในแทบทุกภาคของ Transformers ผู้กำกับอย่างไมเคิล เบย์มักจะออกมาพูดถึงเสมอว่าเขาจะเลิกกำกับหนังชุดนี้แล้ว แต่เขาก็กลับมากำกับอีกจนถึงภาคล่าสุด แต่การกล่าวครั้งนี้ไมเคิล เบย์กล่าวว่า “นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ เขาจะถอยห่างออกจากแฟรนชายส์หนังชุดนี้ ผมทำมันมาพอแล้ว มันเป็นช่วงเวลาดีๆ แต่มันถึงเวลาแล้วที่ผมต้องส่งต่อให้กับคนอื่นทำมันต่อ ผมมีโปรเจ็คหนังเรื่องอื่นๆที่อยากทำอีกหลายเรื่อง”

 ก็ไม่รู้ว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายอย่างแท้จริงหรือไม่หรือเผลอๆ หนัง Transformers 6 ไมเคิล เบย์จะกลืนน้ำลายแล้วกลับมากำกับหนังชุดนี้อีกครั้งก็ต้องรอดูกันต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น แฟรนชายส์หุ่นแปลงร่างยังจะสร้างต่อกันไปอีกกี่ภาคก็ต้องลุ้นกันต่ออีกเช่นกันว่าหนังภาคล่าสุดจะทำเงินให้กับสตูดิโอพาราเมาต์แค่ไหน