7 เรื่องสยอง อย่าเผลอไปขออะไรใน WISH UPON เครื่องรางกระตุกชีพ

 

         

 

ทุกวันนี้ ความไม่มั่นคงในชีวิตมนุษย์เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้คน (ไทย) อย่างเราที่มีความผูกพันกับแนวความเชื่อในการบนบานศาลกล่าวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กระทั่งอำนาจมืดที่เรามองไม่เห็น เพียงเพราะเชื่อว่าการมีที่พึ่งพิงทางจิตใจนั้นจะช่วยทำให้ความปรารถนาสัมฤทธิ์ผลและได้มาซึ่งความสำเร็จในสิ่งที่คาดหวังไว้ ความเชื่อในเรื่องอำนาจที่มองไม่เห็นนั้นไม่ได้มีแต่เพียงประเทศไทยเท่านั้น แต่สิ่งดังกล่าวยังเป็นแนวคิดสากลโลก ที่มีให้เห็นอยู่ในทุกประเทศ เช่นเดียวกับเรื่องราวของหนังของ Wish Upon

 

 

เรื่องที่ 1 เรื่องราวของแคลร์ แชนนอน

          แคลร์ แชนนอน (โจอี้ คิง) เด็กสาวคนหนึ่งวัย 17 ปีที่โดนกลั่นแกล้งที่โรงเรียน แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อพ่อของเธอ (ไรอัน ฟิลลิปปี) มอบกล่องเพลงปริศนาที่มีคำบรรยายสรรพคุณไว้ว่าสามารถบันดาลความปรารถนาของเจ้าของให้เป็นจริงได้ เมื่อแคลร์ไม่มีอะไรจะเสีย เธอจึงอธิษฐานขอพรข้อแรกซึ่งเธอต้องตะลึงเมื่อคำขอนั้นกลายเป็นจริง แคลร์เริ่มใช้มันเพื่อความสุขส่วนตัวทั้งเรื่องเงิน ชื่อเสียง และคนรัก ทุกอย่างดูเหมือนจะไปได้สวย จนกระทั่งเรื่องร้ายๆ ก็เริ่มเกิดขึ้นกับคนรอบตัวเธออย่างชวนสะพรึง

 

 

เรื่องที่ 2 ที่มาของกล่องแห่งความหวังและการตายสุดโหด  

            ที่มาของหนังเรื่อง Wish Upon เริ่มต้นมาจากที่ที่ทีมงานนั้นมาพร้อมกับไอเดีย กล่องอธิษฐาน” มันเกี่ยวกับเด็กสาววัยรุ่นที่บังเอิญเจอกล่องที่สามารถให้พรเธอได้ 7 ประการ มันสามารถทำให้ชีวิตเธอดีขึ้นแต่แน่นอนว่าย่อมแลกมาด้วยสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่จะจินตนาการได้ ซึ่งทีเด็ดของหนังเรื่องนี้คือ การใส่ฉากการตายสุดโหดเกินจินตนาการ ในระดับเดียวกับในหนังแบบ Final Destination ซึ่งทีมงานของหนังเรื่องนี้ลงลึกไปถึงการค้นคว้าถึงการตายแบบพิสดารของมนุษย์เพื่อในมาปรับใช้ในเรื่อง

 

 

เรื่องที่ 3 ตำนานของเหยาโกว

            กล่องวิเศษต้องมีที่มาที่ไป ทีมงานจึงทำการค้นคว้าและเลือกเอาตำนานของประเทศจีนอันว่าด้วยปีศาจเหยาโกว ซึ่งอยู่ในนิทานปรัมปราของจีน เมื่อได้ถึงจุดเริ่มต้นแล้วทีมงานก็พัฒนาจากปีศาจ นำไปสู่คำสาป และผลกระทบของเรื่องราวนี้

 

 

 

 

เรื่องที่ 4 จากเด็กสาวใน The Conjuring สู่ Wish Upon

            ผู้กำกับของเรื่อง Wish Upon อย่างจอห์น อาร์ ลีโอเนตติ ระหว่างที่เขาได้อ่านบทนั้น เขาก็พลันนึกไปถึงเด็กสาวผู้โชคร้ายในหนังเรื่อง The Conjuring ภาคแรก ซึ่งนักแสดงสาวคนนั้นก็คือ โจอี้ คิง ซึ่งในหนังเรื่องดังกล่าวเธอรับบทเป็นคริสตีน เด็กหญิงที่นอนอยู่บนเตียงและโดนปีศาจที่มองไม่เห็นลากลงจากเตียง จากนั้นเธอจ้องไปที่มุมมืดของห้องแล้วพูดว่า ‘มีคนอยู่ตรงนั้น มีคนอยู่ตรงนั้น’ อันเป็นอีกฉากที่สร้างความขนหัวลุกให้กับผู้ชม จากวันนั้นถึงวันนี้โจอี้ คิง ยังเป็นเด็กสาวขี้กลัวคนเดิม เธอไม่กล้าแม้กระทั่งดูหนังสยองขวัญด้วยซ้ำไป เธอกล่าวตลกๆตรงที่ว่าการเล่นหนังสยองขวัญมันง่ายกว่าดูหนังสยองขวัญเยอะ

 

 

เรื่องที่ 5 หนังสยองขวัญสำหรับวัยรุ่น วัยว้าวุ่น

          Wish Upon เป็นหนังที่เดินเรื่องด้วยวัยรุ่น ซึ่งทำอะไรมักจะ “คิดน้อย” กว่าที่ควรจะเป็น ตัวละครของแคลร์ (โจอี้ คิง) คือเด็กสาวเปราะบางที่พยายามจะหาจุดเปลี่ยนของชีวิต เพื่อให้ตัวเองพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่เมื่อเธอได้สัมผัสกับกล่องวิเศษที่เหมือนจะประทานสิ่งที่เธอขอมาให้ได้ทุกอย่าง มันยิ่งทำให้เธอเสพย์ติดความสุขสบายจนท้ายที่สุด กล่องใบนี้ก็ครอบงำเธอ พฤติกรรมของตัวละครนี้แทบไม่แตกต่างอะไรกับคนติดยาเสพย์ติดที่ไม่ได้มองว่ามันคือปัญหา เพราะเธอเชื่อว่าเธอจะสามารถหยุดใช้มันเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เมื่อเธอไม่สามารถหยุดมันได้ เธอจึงต้องรับมือกับปัญหาที่ตามมา

 

 

เรื่องที่ 6 สองนักแสดงหนุ่มสุดหล่อที่จะมากระตุกวิญญาณคนดู

            เรื่องนี้อาจจะไม่ได้สยองเท่าไหร่ แต่ความหล่อของพวกเขานี่แหละที่จะมากระตุกวิญญาณสาวๆให้หลุดลอยไปกับพวกเขาคนแรกที่มาแสดงคือหนุ่มหล่ออย่างไรอัน ฟิลลิเป้ นักแสดงยุค 90 ที่ถ้าใครเกิดทันหนังอย่าง I Know What You Did Last Summer จะต้องรู้จักอย่างแน่นอน โดยในหนังเรื่องนี้ เขารับบทเป็นโจนาธาน แชนนอนพ่อของแคลร์ ที่ชีวิตพลิกผันหลังจากภรรยาของเขาฆ่าตัวตาย ทำให้ชีวิตจากครูสอนดนตรีและนักแซ็กโซโฟนมืออาชีพต้องผันตัวเองมาเป็นคนเก็บขยะและนำของเก่าไปขาย ขณะที่หนุ่มหล่ออีกคนในเรื่องคือ กี ฮง ลี ผู้รับบทเป็นไรอัน เพื่อนหนุ่มนักสเก็ตบอร์ด เพื่อนร่วมชั้นเรียนภาษาจีนกลางคนสำคัญของแคลร์ เธอคือคนที่จะมาช่วยเธอไขปริศนาความลับของกล่องอธิษฐาน ที่สลักอักษรจีนเอาไว้

 

 

เรื่องที่ 7 กล่องคำสาปกับดีไซน์สุดพิเศษ

         กว่าจะคิดออกแบบกล่องคำสาปในหนังเรื่องนี้ให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ทีมงานต้องคิดค้นหาต้นแบบมากมาย ทีมงานได้ข้อสรุปว่ากล่องควรมีลักษณะเป็น 8 เหลี่ยมเพราะเชื่อว่าชาวจีนเชื่อว่าเลข 8 คือเลขนำโชค และกล่องใบนี้ยังมอบพร 7 ประการ ทีมงานออกแบบสร้างกล่องนี้ให้มีเจ็ดด้านบวกกับด้านพิเศษที่มีตัวล็อค โดยใช้สีแบบโบราณคือ ดำ แดง และทอง

                ตัวนักออกแบบใช้ภาพอ้างอิงจากกล่องที่หิ้วกลับมาจากฮ่องกง มีการติดกระจกเข้าไปในกล่องเพราะชาวจีนเชื่อว่ากระจกนั้นเหมือนเป็นประตูมิติที่ทำให้ปีศาจก้าวเข้ามายังโลกมนุษย์ ขณะที่ดีไซน์รูปค้างคาวบนกล่องนั้น ชาวจีนเชื่อว่าสัตว์ชนิดนี้เป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี ซึ่งทีมงานใส่ทั้งค้างคาวขาวและดำเพื่อสะท้อนภาพหยินหยาง สิ่งที่แย่อาจกลายเป็นดีและสิ่งที่ดีสามารถกลายเป็นความเลวร้ายแบบคาดไม่ถึง เพื่อที่จะลึกลงไปถึงประวัติของกล่องนี้ วิธีใช้กล่องจึงถูกเขียนด้วยอักษรจีนโบราณราวยุค 700-800 คริสตกาล อีกทั้งตรงตัวล็อกกล่องมีหมายเลข 1 -7 และมันสามารถหมุน (เหมือนสล็อตแมชชีน) เมื่อได้ให้พรสำเร็จ ตรงฝากล่องมีรูปปีศาจเหยาโกวอยู่ตรงกลาง และภายในกล่องด้านในจะมีรูปภาพตำนานนรกทั้ง 18 ชั้นของคนจีน ซึ่งในแต่ละชั้นก็จะมีวิธีทรมานคนที่แตกต่างกันไป