ดูแล้วบอกต่อ Valerian and the City of a Thousand Planets – คู่รัก คู่แปลก
ดูเหมือนว่า Valerian and the City of a Thousand Planets จะเป็นโปรเจ็คที่ผู้กำกับอย่างลุค เบซง ตั้งใจจะทำหนังเรื่องนี้มาตั้งนานแล้ว เนื่องจากเขาหลงรักเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูนที่เขาเคยอ่านเมื่อสมัยยังเป็นเด็ก เรื่องราวสุดอัศจรรย์และล้ำจินตนาการของหนังสือการ์ตูน Valerian and Laureline เป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้เกิดภาพยนตร์อย่าง The Fifth Element ขึ้นมาเลยก็ว่าได้
ทว่าการมาถึงของ Valerian and the City of a Thousand Planets ดูเหมือนจะเป็นจดหมายรักต่อหนังสือการ์ตูนในวัยเด็กของเขา เพียงแต่ว่าภาพรวมของหนังเรื่องนี้โครงสร้างของหนังนั้นแทบจะไม่แตกต่างจาก The Fifth Element เลย มันว่าด้วยการผจญภัยของตัวเอกในจักรวาลที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตแปลกๆ จากหลายสายพันธุ์ ยิ่งไปกว่านั้นบรรดามุมกล้องหรือวิธีการออกแบบฉากของ Valerian นั้นก็มีความคล้ายคลึงกับ The Fifth Element จนเราอาจจะกล่าวได้ว่า นี่คือผลงานที่เป็นลายเซ็นของผู้กำกับ ลุค เบซง อย่างแท้จริง
น่าเสียดายที่ตัวโครงสร้างบทภาพยนตร์ของ Valerian and the City of a Thousand Planets มีความไม่แข็งแรง หรือว่ากันง่ายๆคือโครงสร้างของหนังนั้น ไม่ได้มีความสลับซับซ้อน เป็นหนังบันเทิงที่เราสามารถคาดเดาตัวร้ายและสถานการณ์ต่อไปของหนังได้อย่างไม่ยากเย็น เนื่องจากหนังเดินตามสูตรสำเร็จของหนังสืบสวนสอบสวนฉบับเยาวชนที่ว่าด้วย “คนร้ายแฝงตัวอยู่ในหมู่คนถือกฎ” ชนิดที่เราเห็นหน้าตัวละครที่คาดว่าน่าจะเป็นผู้ต้องสงสัย ก็คาดเดาได้ทันทีว่าตัวละครนี้นี่แหละชักใยเหตุการณ์ทั้งปวงของเรื่อง
ลูกเล่นของบทภาพยนตร์ Valerian and the City of a Thousand Planets อาจจะไม่ได้มีอะไรมาก แต่ความน่าตื่นตาตื่นใจของงานเทคนิคพิเศษในการเนรมิตสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว สภาพดาวเคราะห์ต่างๆ รวมไปถึงองค์ประกอบปลีกย่อยที่เรียกได้ว่าเป็นจินตนาการของผู้กำกับนั้น เรียกได้ว่าตื่นตาตื่นใจและเหมือนทำให้เราหลุดไปอยู่ในโลกแห่งความฝันอย่างแท้จริง ทว่าเราก็คงไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าหนังแฟนตาซีที่ว่าด้วยสิ่งมีชีวิตต่างดาวอย่างชนเผ่าของดาวเพิร์ลนั้น ได้รับอิทธิพลจากวิธีออกแบบงานสร้างของชนเผ่านาวีจาก Avatar ของผู้กำกับเจมส์ คาเมรอน ไม่น้อยเลยทีเดียว
ยิ่งไปกว่านั้นผู้เขียนยังมีความรู้สึกอีกว่า “เคมี” ของนักแสดงนำอย่างเดน เดอฮานในบทของวาเลเรียน กับบทลอเรลีน ของคาร่า เดอลาวีญนั้นกลับไม่เข้ากันอย่างบอกไม่ถูก ถึงทั้งคู่จะต้องเล่นเป็นไม้เบื่อไม้เมายิ่งไม่น่าเชื่อเข้าไปใหญ่ เพียงแต่ว่ายามที่นักแสดงแต่ละคนเล่นในส่วนของตัวเองนั้นกลับทำได้ดีและน่าสนใจเวลาที่เขาหรือเธออยู่บนจอ ทว่ายามที่ทั้งสองต้องรับบทโรแมนติกหรือเล่นเป็นพ่อแง่แม่งอนกันนั้น หนังกลับไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าทั้งคู่น่ารักกุ๊กกิ๊กกันสักนิดเดียว ประกอบกับหน้าโรคจิตๆของแดนเอง ส่วนคาร่าก็ทำหน้าเป็นคนตีมึนตลอดเวลาแล้ว ยิ่งทำให้รู้สึกว่าคู่รักคู่นี้เป็น “ของแปลก” คู่หนึ่งบนประวัติศาสตร์ภาพยนตร์เลยก็ว่าได้
อย่างก็ตาม Valerian and the City of a Thousand Planets นั้นจัดเป็นหนังอีกเรื่องที่สมควรจะเข้าไปดู “ความยิ่งใหญ่” ของจินตนาการทางด้านภาพบนจอภาพยนตร์ อีกเรื่องของสัปดาห์นี้ แม้ว่าจะไม่ได้มีอะไรเหนือความคาดหมายนัก แต่ก็จัดได้ว่าเป็นหนังที่สนุกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว