รวม 7 ฉากจากการ์ตูน Pixar ที่ทำให้คนดูต้องน้ำตาซึม !!
เชื่อว่าหลายๆ คนที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์แอนิเมชันจะต้องรู้จักกับ Pixar Animation Studios หรือ Pixar กันเป็นอย่างดี โดยเป็นบริษัทที่สร้างภาพยนตร์แอนิเมชันแบบ 3 มิติ ปัจจุบันอยู่ภายใต้เครือการ์ตูนยักษ์ใหญ่ระดับโลก อย่าง Walt Disney มีผลงานเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก มีผลงานเด่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ทอย สตอรี่, A Bug's Life, Monsters, Inc., Finding Nemo, The Incredibles, Cars และอื่นๆ อีกมาก บางคนถึงขนาดเป็นแฟนตัวยงที่ไม่ว่าจะมีเรื่องไหนออกมาก็จะต้องติดตามเข้าไปดูในโรงแบบที่พลาดไม่ได้ เพราะด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่ถูกเสริมเข้าไปในภาพยนตร์แอนิเมชันแต่ละเรื่อง อาทิ เรื่องของมิตรภาพ, ความรัก, ความอบอุ่น และการเข้าใกล้ความรู้สึกของความเป็นมนุษย์ ใกล้เคียงกับการใช้ชีวิต จนบางครั้งก็ทำให้คนดูถึงกับน้ำตาซึมไปพร้อมๆ กับการดำเนินเรื่อง นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม Pixar ถึงมีผลงานเป็นที่ยอมรับจากผู้ชมทั่วโลก และแน่นอนว่าแต่ละเรื่องก็มีความประทับใจที่ไม่เหมือนกัน แต่ให้ความรู้สึกที่ไม่ต่างกัน วันนี้ Sanook! Movie จึงได้รวบรวมเอา 7 ฉาก 7 ความประทับใจจากภาพยนตร์แอนิเมชันของ Pixar มาย้อนให้ดูกันอีกครั้งหนึ่ง ดูซิว่าแฟนๆ จะยังคงจำเรื่องราวเหล่านั้นได้อยู่รึเปล่า ...
ฉากที่ 1 จากเรื่อง TOY STORY 2
ฉากที่เจสซี่กำลังหวนรำลึกความหลังถึงเอมิลี่ ซึ่งเป็นเจ้าของคนเก่า
'เจสซี่' ซึ่งเป็นคาวเกิลล์ของเล่นสาวนั้นมีความหลังฝังจำในเรื่องที่ถูกทอดทิ้ง สมัยก่อนตอนที่เธอยังเป็นของเล่นสุดโปรดของ 'เอมิลี่' เวลาที่เอมิลี่ไปไหนมาไหนก็มักจะพาเธอออกไปด้วยตลอด แต่เมื่อเวลาผ่านไปเด็กสาวได้เติบโตขึ้น เธอสนใจในเรื่องของการแต่งตัวและเพื่อนฝูงมากกว่าการเล่นขอเล่น ทำให้เจสซี่ถูกทิ้งอยู่เดียวดาย หากจะว่าเป็นของเล่นตกกระป๋องก็คงไม่ผิด ฉากนี้นอกจากเส้นเรื่องที่ดูจะน้อยอกน้อยใจแล้ว ก็ยังมีการเพิ่มดีกรีความเศร้าเข้าไปอีกด้วยเพลง when somebody love me ดูกี่ทีๆ ก็อดที่จะน้ำตาซึมตามไปไม่ได้
ฉากที่ 2 จากเรื่อง TOY STORY 3
ฉากที่แอนดี้จะต้องบอกลากับบรรดาของเล่น
สำหรับฉากนี้เป็นฉากจบของ TOY STORY 3 ถือว่าเป็นอีก 1 ฉากสำคัญที่ทำให้ผู้ชมต้องบ่อน้ำตาตื้นกันมานักต่อนัก โดยในฉาก 'แอนดี้' ตัดสินใจส่งมอบของเล่นของตัวเองทั้งหมดให้กับเด็กหญิงคนหนึ่ง รวมถึง 'วู๊ดดี้' ซึ่งเป็นตุ๊กตานายอำเภอที่เขารักมากที่สุด ความหมายที่ถูกแอบแฝงเข้าไว้ในฉากนี้คล้ายกับเป็นการส่งต่อความทรงจำลงไปให้กับคนอีกรุ่น นับเป็นอีกหนึ่งฉากที่มีความหมายเป็นอย่างมากสำหรับใครที่ติดตามและเติบโตมากับภาพยนตร์แอนิเมชั่น TOY STORY ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ยาวไปจนกระทั่งถึงฉากที่แอนดี้ขับรถออกไปแล้วทิ้งของทุกอย่างเอาไว้เบื้องหลัง นับว่าเป็นอีกหนึ่งการดำเนินเรื่องที่ทำให้คนดูรู้สึกใจหายมากเลยทีเดียว
ฉากที่ 3 จากเรื่อง Monster inc.
ฉากที่ บู จะต้องบอกลา คิตตี้ หรือซัลลีแวน
ฉากนี้ก็เป็นฉากจบเช่นกันจากภาพยนตร์แอนิเมชัน เรื่อง Monster inc. โดยเป็นฉากที่ 'ซัลลีแวน' หรือ 'คิตตี้' จะต้องนำ 'บู' เด็กที่มาจากโลกมนุษย์กลับไปส่งคืนสู่ห้องนอน พร้อมกับทำลายประตูตู้เสื้อผ้าที่เหมือนกับเป็นทางเชื่อมเข้าสู่โลกแห่งสัตว์ประหลาด ความสวยงามของฉากนี้เป็นเรื่องราวของการจากลา เคล้าคลอด้วยเสียงดนตรีประกอบที่งดงาม ประกอบกับการตัดจังหวะจบของเรื่องที่ทำให้คนดูเผลอน้ำตาไหลออกมาได้โดยไม่รู้ตัว
ฉากที่ 4 จากเรื่อง Finding Nemo
ฉากที่ต้องสูญเสียลูกปลาการ์ตูน
แค่ตอนเปิดเรื่องก็เริ่มต้นด้วยเรื่องราวที่เป็นโศกนาฏกรรมเลยทีเดียว นับว่าเป็นฉากในตำนานของ Pixar ที่สาวกต่างก็จดจำได้เป็นอย่างดี และนับว่าเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องแรกๆ ที่เปิดเรื่องมาด้วยความเศร้า โดยในฉากนี้เป็นฉากที่ 'มาร์ลิน' พ่อปลาการ์ตูนพยายามที่จะปกป้องไข่ของลูกๆ แต่กลับถูกเจ้าปลาฉลามเข้ามาทำร้ายแม่ปลาและไข่ที่เหลือจนหมด มีเพียงไข่ใบเดียวเท่านั้นที่รอดมาและเป็นจุดกำเนิดของ 'นี่โม่' ซึ่งมาร์ลินได้ให้สัญญาไว้ว่าจะรักและดูแลลูกตัวนี้ให้ดีที่สุด
ฉากที่ 5 จากเรื่อง Wall E
ฉากที่ Wall E ต้องสูญเสียความทรงจำในตอนจบ
ภาพยนตร์แอนิเมชัน เรื่อง Wall E เป็นเรื่องราวที่ว่าด้วยความรักระหว่างหุ่นยนต์ นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องของ Pixar ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก ซึ่งในฉากจบของเรื่อง ตัวละคร Wall E หุ่นยนต์เก็บขยะนั้นสูญเสียความทรงจำหลังจากที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆ มาตลอดทั้งเรื่อง โดยที่ 'อีวา' หุ่นยนต์ที่หลงรัก Wall E พยายามที่จะฟื้นความทรงจำของเขาให้กลับคืนมา การดำเนินเรื่องถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใช้ประโยคสนทนาเหมือนกับเรื่องอื่นๆ แต่ก็เน้นถ่ายทอดผ่านการเล่าเรื่องและย้อนความหลัง ทำให้ลูกเล่นในฉากสุดท้ายทำเอาคนดูยิ้มทั้งน้ำตาไปได้เลยทีเดียว
ฉากที่ 6 จากเรื่อง Brave
ฉากที่เจ้าหญิงเมอริด้าจะต้องระเบิดอารมณ์กับราชินีคุณแม่
ในฉากนี้เป็นเรื่องราวระหว่าง 'ราชินีแม่' และ 'เจ้าหญิงเมอริดา' ที่มีความเห็นไม่ตรงกันจนทำให้เกิดรอยร้าว เมื่อแม่ต้องการให้เมอริด้าก้าวตามรอยขึ้นทำหน้าที่เป็นราชินีที่ดี เธอพยายามสั่งสอนและเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกจนกลายเป็นการจำกัดอิสระจนทำให้ชีวิตไม่ได้เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น ฉากปะทะอารมณ์จึงเริ่มต้นขึ้น ราชินีแม่ได้นำธนูซึ่งเป็นอาวุธคู่กายของเมอริด้าไปเผา ก่อนที่จะตั้งสติได้และเขี่ยมันออกจากกองเพลิงด้วยความรู้สึกผิด เชื่อได้ว่าฉากนี้น่าจะตรงกับเรื่องของใครหลายๆ คน บางครั้งก็อาจเป็นความขาดสติ จนก่อให้เกิดการทำในสิ่งที่ผู้เป็นแม่ไม่ได้ตั้งใจ
ฉากที่ 7 จากเรื่อง UP
ฉากการดำเนินชีวิตของ คาร์ล และ เอลลี่
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งฉากที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งผู้เขียนเองก็ยังรู้สึกอินไปกับการเล่าเรื่องตั้งแต่ครั้งยังหนุ่มของคุณปู่ 'คาร์ล' โดยที่ฉากนี้เป็นฉากเปิดของเรื่อง UP ปู่ซ่าบ้าพลัง เป็นการเล่าเรื่องราวชีวิตคู่ของ 'คาร์ล' และ 'เอลลี่' ตั้งแต่เริ่มรักกันใหม่ๆ จนครองคู่อยู่กันมาอย่างยาวนาน มีทั้งเรื่องสุข รอยยิ้ม และความเศร้า นับเป็นการเล่าเรื่องที่ใช้เพียงแค่ดนตรีเพื่อบอกเล่าความรู้สึกในแต่ละช่วงการดำเนินชีวิต ไม่มีคำพูด มีความยาวไม่ถึง 5 นาที แต่ก็ยังทำให้คนดูรู้สึกอินเข้าไปถึงอารมณ์ของตัวละครได้จนจบ ยิ่งมาถึงช่วงที่คุณย่าเอลลี่จากไป ทำให้คุณปู่คาร์ลต้องอยู่คนเดียว ก็ยิ่งส่งอารมณ์ให้คนดูรู้สึกว้าเหว่ตามจนน้ำตาซึมออกมาอย่างไม่รู้ตัว ถือว่าเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นอีกหนึ่งเรื่องของ Pixar ที่เค้นความเศร้าได้แบบสุดๆ ตั้งแต่ต้นเรื่อง และนับว่าฉากนี้เป็นฉากหม่นหมองที่สุดจากบรรดาทั้งหมดที่ Pixar เคยทำมา
พอได้มารื้อฟื้นความทรงจำเกี่ยวกับฉากประทับใจจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นหลายๆ เรื่องของ Pixar แล้ว เชื่อได้ว่าจะต้องมีคนกลับไปหาย้อนดูฉากเศร้าๆ ที่เล่ามาอย่างแน่นอน หรือไม่แน่ก็ต้องไปดูเรื่องนั้นซ้ำใหม่ทั้งหมด เอาเป็นว่าคราวหน้าถ้ามีเรื่องอะไรที่เรียกความทรงจำดีๆ ของผู้ชมให้กลับมาได้อีก เราจะหามาเล่าให้ฟังมาเขียนให้อ่านอย่างแน่นอน ...
