รีวิว 15 IQ กระฉูด หนังฮาเห่อหะม_ย
สรุปก่อนเลยเผื่อใครขี้เกียจอ่านยาว
หนังบ้าพลังมาก ให้อารมณ์เด็กเห่อหะจริง ๆ คือมีไอเดียสดใหม่ใส่ไม่ยั้งทั้งเรื่อง เป็นแนวหนังตลกทะลึ่งที่ไม่ค่อยเจอบ่อย ๆ โดยเฉพาะในหนังไทย หลายมุกนี่ฮาแบบท้าชนหนังเทศอย่างพวก อเมริกันพาย สบาย ๆ ตัวละครก็มีเอกลักษณ์เด่นมาก โดยเฉพาะแก๊ง 3 หนุ่ม ฉลาดเลิศ และ โอบื้อ กับ โอหยอง (ชื่อมันแปลว่าอะไรฟระ) กับฝั่งสาว ๆ อย่างเชอร์รี่ และสุดารัตน์ เป็นที่จดจำได้ทั้งหมด หนังให้อารมณ์แบบญี่ปุ่นเยอะมาก คล้ายตอนดูเมย์ไหนฯ ในแบบที่ทะลึ่ง หื่น ฮา และดิบห่ามกว่า ปัญหาของหนังก็เลยมาจากความมันมือใส่ไม่ยั้งจึงทำให้คุมแก่นเรื่องไม่อยู่ ประคองเหตุผลการกระทำตัวละครไม่ได้ แม้จะพยายามหักอารมณ์ช่วงท้ายมาเซอร์ไพร้ส์ มันก็เลยจบลงที่เป็นหนังตลกเด็กเห่อหะดูเอาสนุกเท่านั้น ซึ่งก็มีมุกอะไร ๆ ให้จดจำได้พอสมควร
นี่คือผลงานของผู้กำกับสายเลือดใหม่ที่ปลุกปั้น โดยหัวใหญ่แห่งค่ายสหมงคลอย่าง พี่ปรัชญา ปิ่นแก้ว ซึ่งคราวนี้ได้นำเสนอคลื่นรุ่นใหม่จากวงการหนังสั้นสุดทะเล้นอย่าง ป้อ-ณภัทร จิตวีรภัทร ที่มาทำหน้าที่เขียนบทและกำกับ โดยได้ เบน-อัศวนัยน์ กลิ่นเอี่ยม มาร่วมกำกับ มาสู่หนังที่น่ารักทะเล้นทะลึ่งมากที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์หนังไทยอย่าง 15+ IQ กระฉูด (หนังไทยเมนสตรีมไม่ค่อยสร้างอะไรแบบนี้นักหรอกครับ) โดยได้นักแสดงรุ่นใหม่ทั้งเพิ่งแกะกล่อง และรุ่นใหม่ไฟแรงมาร่วมงานกันอย่างน่าสนุกทีเดียว
ป้อ (ซ้ายสุด) และ เบน (ขวาสุด) สองผู้กำกับ กับเหล่านักแสดงนำ ดีดี ยูโร ยอร์ช พลอย และอิงแลนด์ตามลำดับ
หนังเล่าเรื่องของ 3 เด็กเนิร์ดผู้มีความฉลาดไม่ธรรมดา แต่ความสนใจของพวกเขาไม่ใช่การใช้รอยหยักในสมองไปแข่งโอลิมปิกวิชาการแต่อย่างใด กลับเป็นเรื่องภาษาวัยรุ่นที่เพิ่งข้ามวัยเด็ก อย่างเรื่องเพศเรื่องเซ็กแทนเสียนี่ โดยในกลุ่มนี้ก็ประกอบด้วย ฉลาดเลิศ (ยอร์ช-ยงศิลป์ วงศ์พนิตนนท์) นักเรียนสุดเรียบร้อยแต่แอบหื่นอยู่ลึก ๆ โดยด้านมืดของเขานั้นกลับแสดงชัดในสองเพื่อนสนิทของเขาที่มีนามว่าโอหยอง (ยูโร-ธนเศรษฐ์ สุริยะพรชัยกุล) และ โอบื้อ (ดีดี-จิรกิตติ์ วงศ์ศรีเพ็ง) แทน
เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อ ฉลาดเลิศ ตกหลุมรักเพื่อนร่วมห้องอย่าง เชอร์รี่ (อิงแลนด์-ลิตา จันทร์วราภา) สาวหน้าลูกครึ่งสุดน่ารัก แต่วันหนึ่งเขาดันไปเห็นเชอร์รี่จูบกับ พี่ท็อป สามีแห่งชาติของโรงเรียนเข้า เขาจึงต้องทำทุกวิถีทางให้เชอร์รี่ยอมหันมาสนใจเขาให้ได้ และสิ่งที่เขานึกออกคือการเอาชนะประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ โดยมีเดิมพันว่าถ้าเขาชนะได้ เชอร์รี่ต้องยอมพิจารณาเขาในฐานะแฟน แต่อุปสรรคครั้งนี้กลับมีกำแพงใหญ่ที่ชื่อว่า สุดารัตน์ (พลอย ศรนรินทร์) นักเรียนอัจฉริยะเบอร์หนึ่งสุดมืดมนของโรงเรียน ที่เป็นเพื่อนข้างบ้านของฉลาดเลิศขวางกั้น เพราะสุดารัตน์นั้นลงแข่งอยู่ทีมเดียวกับเชอร์รี่ด้วย
และสิ่งที่ 3 หนุ่มคิดออกเพื่อชัยชนะ ไม่ใช่แผนโครงงานสุดเลิศเลอ หากแต่เป็นการทำลายสุดารัตน์ผู้ตายด้านให้กลับมาสนใจผู้ชายและล้มเลิกการแข่งโครงงานวิทยาศาสตร์ครั้งนี้เสีย และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความกระฉูดในครั้งนี้
ข้อดี
เป็นหนังสหมงคลที่แตกต่างจากแนวเดิม ๆ ทำให้ วงการหนังไทยดูน่าสนุกขึ้นมาก ต่อจาก สยามสแควร์ ก็มาเรื่องนี้อีก คิดว่าหนังไทยน่าจะมีอะไรใหม่ ๆ ให้ติดตามเรื่อย ๆ น่าสนใจสุด ๆ หนังมีลูกบ้าและความสด มุกใหม่ ไอเดียใหม่ เซอร์ไพร้ส์แล้วเซอร์ไพร้ส์อีก ดีไซน์คาแรกเตอร์แบบใหม่ ๆ คือใครเบื่อหนังไทย เบื่อหนังตลาดซ้ำซาก นี่ใช้ได้เลย มุกหลายมุกจัดว่าฮามาก ใครชอบดูหนังมีความเนิร์ดพอประมาณนี่จะฮาสุด ๆ อย่างฉาก 2001: A Space Odyssey นี่ฮาพรั่งพร้อมทั้งภาพและเสียงมาก แต่พวกมุกหื่น ๆ ก็ฮาไม่แพ้กัน การแสดงแบบรีแอกชั่นโอเวอร์ราวกับหนังตลกญี่ปุ่นนั้นทำได้ดี ชวนให้นึกถึงหนังอย่าง เมย์ไหนไฟแรงเฟ่อร์ ของค่าย GTH แม้จังหวะจะล้น ๆ บ้าง แต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จนะ นักแสดงชนะเลิศมาก น้องยอร์ชในบทฉลาดเลิศเล่นได้โคตรโนบิตะคือน่ารักน่าเอ็นดูมาก น้องยูโรในบทโอหยองก็หื่นแบบตือโป้ยก่ายรับมุกกับน้องดีดีในบทโอบื้อที่มาแนวหื่นหน้าตายได้โคตรของโคตรฮา ฝั่งผู้หญิงน้องอิงแลนด์ในบทเชอร์รี่ก็สวยมากน่ารักมาก และที่วินเนอร์เลยคือน้องพลอยในบทสุดารัตน์ที่พลิกบทมาสายตลกได้แจ่มมาก คิดว่าสหมงคลควรทบทวนทำหนัง สมศรี-422R ได้แล้วล่ะนะ ตัวละครขโมยซีนทำงานกันเก่งมาก โดยเฉพาะสองคู่หูโอบื้อ-โอหยอง และ..ปรัชญา อันนี้ต้องไปดูเอง จบดีมีข้อคิด หนังมีหลายฉากให้จำได้แม่นเลย ถือว่าประสบความสำเร็จ
ข้อเสีย
คนสร้างมันมือมากไปจนไม่สนแก่นเรื่อง ความพยายามที่จะจบสวยเป็นหนังดี กลับยิ่งทำลายตัวหนังลงไปอีก เพราะหนังไม่ได้ออกแบบมาให้มาทางนี้แล้วผู้ชมจะเชื่อได้ บางมุกสร้างยัดเข้ามาโดยไม่ได้คำนึงว่าสมเหตุสมผลกับสิ่งที่ตัวเองปูไว้ตอนแรก แม้จะฮา แต่เราก็จะรู้สึกขัดใจอยู่ดีว่าทำไมตัวละครมันทำอะไรที่ขัดกับเป้าหมายของตัวเองแบบนั้น หนังทำลาย บอลลูน มาก โคลสอัพได้รอยตีนกามาเต็ม ส่วน อังเคิล ก็ตายคาจอเพราะโดนจับยัดบทพูดศีลธรรมที่ไม่เข้าปาก จังหวะการตัดแอ็คชันรับมุกส่วนใหญ่ยังไม่แม่น ทำให้หลายครั้งฮาไม่สุด แต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดร้ายแรง หลายอย่างเกินน่ารักไปเยอะ เรียกว่าทะลึ่งมากเหมือนกัน เหมาะกับเด็กโตหน่อยล่ะนะ ความพยายามเซอร์ไพร้ส์หลอกคนดูเรื่อย ๆ ทำให้บางอย่างไม่ค่อยกลมกลืน โดยเฉพาะการใส่คาแรกเตอร์แปลก ๆ ให้เชอร์รี่นั้น ทำให้น้องอิงแลนด์ต้องเล่นแบบฝืน ๆ จนคนดูก็อึดอัดเหมือนกันเป็นต้น หนังเหมาะกับวัยรุ่นมาก ๆ โดยเฉพาะเด็กมัธยมเด็กมหาวิทยาลัยน่าจะชอบมากกว่าพวกวัยทำงาน ที่อาจรู้สึกว่าไม่คุ้มเงินค่าตั๋วก็ได้