หลังจากที่สัปดาห์ก่อนเมนทอร์หมูเลือกจะส่งลูกทีมเข้าห้องดำพร้อมกันถึง 3 คน แต่กลับกลายเป็น “แบงค์” ที่โดนคัดออกจากรายการไป ในสัปดาห์นี้ความเข้มข้นยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เมื่อมีกติกาพิเศษถูกเพิ่มเข้ามาในสัปดาห์นี้ ...

มาสเตอร์คลาสกับความเหวอ!

โอ้ยตายแล้ว เรารอคอยการมาของเมนทอร์พีชกันถึง 6 EP ด้วยกันในที่สุดเขาก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับการให้ความรู้เรื่องการแอ็คติ้ง ความสนุกของการทำมาสเตอร์คลาสในวันนี้คือการแจกโจทย์ให้แต่ละคนมีเรื่องราวของตัวเอง แต่มีความเกี่ยวพันกันในสถานการณ์หนึ่ง ซึ่งแต่ละคนก็มีปัญหาที่เกี่ยวพันกับการแสดงของอีกคนเช่นกัน นำมาซึ่ง “ไหวพริบ” ที่แต่ละคนก็ต้องทำโจทย์ของตัวเองให้ลุล่วงไปให้ได้

ความเหวอยังไม่หมดเมื่อสปอนเซอร์ของรายการมาแจกโจทย์ การแสดงเอ็มวีเพลงแร็ป! ฮะ!!! (ยังไม่เหวอหนักพอๆ กับแว่นดินสอนั่นด้วย) แถมงานโฆษณาต้นฉบับโดยบอย ปกรณ์นั้น ..... เราขอละไว้ในฐานที่เข้าใจก็แล้วกันนะครับ เอาเป็นว่าโดยสรุปมาสเตอร์คลาสในสัปดาห์นี้ “จับฉ่าย” จนก็ไม่น่าจะแปลกใจหรอกที่หนุ่มๆเกือบ 15 ชีวิตจะทำช่วงขายของสปอนเซอร์ออกมาเละเทะขนาดนี้ 55555

กติกาพิเศษ

กลายเป็นช่วงเวลากดดันสำหรับซีซั่นนี้ของ The Face Men ที่มีกติกาพิเศษเพิ่มเติมเข้ามาว่าหลังจากจบแคมเปญในวันนี้ เมนทอร์แต่ละคนจะต้องคัดลูกทีมที่มีผลงานด้อยที่สุดออกจากทีม ทีมละ 1 คนและในช่วงท้ายของรายการกติกาการส่งทีมที่แพ้เข้าห้องคัดออกก็ยังคงมีอยู่เช่นเดิม นั่นหมายความในสัปดาห์นี้จะมีผู้เข้าแข่งขันถูกคัดออกทั้งสิ้น 4 คน

ในสภาวะที่การทำงานเกิดความยุ่งยากเพิ่มเติมเข้ามา ยิ่งทำให้เหล่าผู้เข้าแข่งขันต้องพิสูจน์ความสามารถของตัวเองให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ประกอบกับการทำแคมเปญวันนี้เป็นการทำ “ผลงานเดี่ยว” แต่รูปที่ชนะจะทำให้ทั้งทีมชนะ นั่นหมายความว่านี่คือโอกาสในการพิสูจน์ความสามารถของแต่ละคนให้คนดูและเมนทอร์ตัดสิน

งานหน้าเซ็ต ทุกฝ่ายล้วนเกื้อกูลกัน

เราปฏิเสธไม่ได้ว่างานภาพถ่ายนั้น หลายครั้งสิ่งที่เกิดขึ้นในการที่ตากล้องจะได้ภาพสวยๆ ต้องอาศัยทั้งแสง องค์ประกอบภาพ ตัวแบบ และการไม่ขโมยซีนของตัวแบบ สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เห็นได้ชัดเลยว่า นางแบบที่เป็นอีกส่วนสำคัญของภาพนั้น ช่วยให้ผลงานออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ทีมพีชได้นางแบบเป็นสกาย ที่ค่อนข้างเกื้อหนุนหนุ่มๆในทีม ประกอบกับบุคลิกของหนุ่มๆในทีมพีชมีความขี้เล่นเป็นทุนเดิมทำให้การจับคู่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ

ขณะที่ทีมหมู อาซาว่าด้วยความวาไรตี้ของลูกทีม แต่โชคดีที่ได้นางแบบอย่างกวาง ซึ่งช่วยเสริมให้ตัวนายแบบมีความโดดเด่นอีกทั้งยังช่วยให้ภาพมีความธรรมชาติ

ส่วนทีมลูกเกดที่ได้นางแบบเป็นเจสซี่ ซึ่งขโมยซีนผู้ชาย โพสต์จิกกล้องจนภาพขาดความเป็นธรรมชาติ จนในใจรู้สึกว่าเจสซี่ควรถูกส่งเข้าห้องดำอีกรอบ!!!

สักคนที่ต้องจากไป

เมื่อใครสักคนในแต่ละทีมจะต้องถูกคัดออก แต่ละทีมก็มีวิธีการเลือกที่แตกต่างกันไปซึ่งความน่าสนใจในแต่ละทีมนั้นประกอบไปด้วย ทีมเมนทอร์หมูเลือกจะยิงคำถามว่าใครอ่อนที่สุดในทีม เป็นธามน้องเล็กที่สุดในทีมที่ยกมือและรู้ตัวดีว่าเขายัง “ด้อยประสบการณ์” เมื่อเทียบกับบรรดาพี่คนอื่นๆ

ขณะที่ทีมพีช กลายเป็นพีเคที่ยกมืออาสาสมัครขอเดินออกจากรายการเอง คำตอบของพีเคยังคงน่าสนใจอีกเช่นเคย เมื่อถอดคำพูดของเขาที่ว่า “ผมมาที่นี่เพื่อเรียนรู้ เราอยากให้ทีมไปไกลขึ้น ไม่อยากให้เพื่อนลำบาก ผมเลือกที่จะเจ็บปวดคนเดียวดีกว่าจะเห็นทุกคนเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกนายเป็นเพื่อน เป็นคนที่ผมรัก ผมเลยเลือกที่จะทำแบบนี้เพื่อทุกคน” วิธีคิดของพีเค เขาพยายามวางจุดยืนให้ตัวเองในทีม เขารู้ว่าเขาสู้เพื่ออะไรอยู่และท้ายที่สุดแล้วถึงเขาจะไม่ได้เป็นที่ 1 แต่ผู้เข้าแข่งขันคนนี้นั่งอยู่ในใจของเพื่อนๆในทีมและคนดูแล้วอย่างแน่นอน

ส่วนทีมลูกเกด ให้ลูกทีมแต่ละคนได้แสดงความรู้สึกออกมา ลูกเกดเลือกจะมองอะไรหลายๆอย่าง แต่เหตุผลที่ลูกเกดเลือกจะคัดใครสักคนออกด้วยแนวคิดที่ว่าการที่เธอได้ให้โอกาสแก่ใครสักคนแล้วเขาไม่ยอมรับโอกาสนั้นทำให้เธอเสียใจ และชื่อของนิกกี้ก็คือหนึ่งในลูกทีมที่ต้องออกจากรายการในวันนี้ เมนทอร์ลูกเกดยังให้เหตุผลต่ออีกว่า หลายครั้งที่เธอส่งให้ลูกทีมไปเรียนรู้เพิ่มเติมเขาไม่ไป ส่งข้อความไปหาไม่ตอบกลับ นั่นคือเหตุผลที่เขาต้องออกจากเกมนี้

คนที่ต้องเดินออกจากรายการอีกหนึ่งคน

เมนทอร์พีชยังคงเลือกกันย์ กลับเข้าไปในห้องดำเป็นครั้งที่ 3 ถึงภาพของเขาจะเป็นภาพที่ดีที่สุดของทีม แต่นั่นทีมพีชก็ยังมองว่ามันเป็นแค่ Magic Moment หรือช่วงเวลาที่เกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีราวกับโชคช่วย ในภาพรวมพีชยังมองว่าเขาเป็นคนสมาธิสั้นและยังเป็นจุดบอดของเขาเช่นเคย อย่างไรเขาก็ยังเป็นคนที่มีพัฒนาการที่ดีที่สุดในทีม เมนเทอร์ลูกเกดตัดสินใจเลือก แจ็ค เพราะว่าเขามีผลงานที่อ่อนที่สุดในการทำแคมเปญวันนี้

สิ่งที่เกิดขึ้นในห้องดำ กันย์ถูกยิงคำถามที่ว่ารูปดีที่สุดของเขาเมื่อวานคือความบังเอิญหรือไม่ กันย์กล่าวว่า “เขาไม่อยากจะใช้ข้ออ้างที่ว่าฟองแชมพูมันเข้าตาทำให้ แชมพูไหลเข้าคอนแทคเลนส์ ส่งผลให้เขาไม่สามารถเปิดตาได้ แต่พอหลังจากที่เขาได้พักและได้กลับไปถ่ายใหม่ทำให้เขาเรียกสติกลับมาได้และได้ภาพที่ดีออกมา”

แจ็ค มองว่าการที่เขาได้เข้ามาในรายการนี้เป็นเพราะจริงๆแล้วเป็นโชคที่เขาได้เข้ามาในรายการ อย่างไรก็ตามการที่เขาได้อยู่ในรายการนี้เหมือนเขาได้ต่อสู้เพื่อประเทศ(จีน) ของเขาเอง เมื่อใดก็ตามที่แจ็คได้อยู่ในเมืองไทย เขาก็เป็นตัวแทนของคนจีนแผ่นดินใหญ่ และในขณะเดียวกันเมื่อเขาอยู่ที่เมืองจีน เขาก็จะเป็นตัวแทนของคนไทยเช่นกัน ถือว่าเป็นคำตอบที่ค่อนข้างฉลาด

แต่ท้ายที่สุดแล้ว ผลงานของแจ็คน่าประทับใจในทุกครั้ง แต่ในวงการบันเทิงนั้นไม่ว่าจะทำผลงานดีมาก่อนขนาดไหนก็ตาม ก็ไม่สามารถชดเชยผลงานแย่ๆครั้งล่าสุดแค่เพียงครั้งเดียว ทำให้แจ็คเป็นคนล่าสุดที่ต้องเดินออกจากรายการในวันนี้ ไปพร้อมๆกับเพื่ออีกสามคน

สิ่งที่เกิดขึ้นใน EP 7 สอนให้รู้ว่า

ทำดีกี่ครั้ง ไม่เท่าการทำผิดพลาดแค่เพียงครั้งเดียว
การรู้จักหน้าที่และตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต
การทำงานต้องฟังและเข้าใจในสิ่งที่งานนั้นต้องการ ว่าเรามาในฐานะ “ตัวเอก” หรือ “ตัวรอง” อย่าพยายามทำในสิ่งที่งานนั้นๆไม่ต้องการ
บางครั้งเราก็ต้องเผชิญหน้ากับความหลากหลายและเหนือการควบคุม เช่น Master Class ที่เกิดขึ้นในรายการวันนี้

อัลบั้มภาพ THE FACE MEN EP.7 ดีเป็นร้อย ไม่เท่าพลาดเพียงครั้งเดียว ภาพที่ 3 / 13

THE FACE MEN EP.7 ดีเป็นร้อย ไม่เท่าพลาดเพียงครั้งเดียว

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

"ธิดาซาตาน" แค่อยากเล่นใหญ่ ผิดยุคสมัยแต่ทำไม "โคตรบันเทิง"

ตัวแม่ไม่พูดเยอะ! “ซอนย่า” พา “ลูอิส” คว้าแชมป์ The Face Men Thailand Season 2

ย้อนรอยภาพของ "มิกกี้" สามี "เจนี่" ในรายการ The Face Men Thailand ซีซั่นที่แล้ว

THE FACE MEN EP10 – FINAL WALK ที่ชวนเหวอ