ยอมแพ้ไม่ได้แปลว่าไม่ชนะ! เบลล่า สุดทน ขอถอยไปตั้งหลัก "เพลิงบุญ"

กว่าจะลุกขึ้นมาสู้ได้ทำเอาคนช่วยลุ้นทั้งประเทศ สำหรับเมียหลวงโลกสวย “พิมาลา” รับบทโดย “เบลล่า-ราณี” ร้องไห้ทีทำเอาคะแนนสงสารพุ่งพรวดๆ หลังจากสัปดาห์ที่แล้วที่เธอเดินออกจากทุ่งลาเวนเดอร์พร้อมเดินเข้าไปในสนามรบ ปะทะกับอดีตเพื่อนรักอย่าง “ใจเริง”

มาสัปดาห์นี้คอนเฟิร์ม 100 % กันอีกทีว่าพิมาลาคนเดิมที่โง่ได้ตายไปแล้วจริงๆ ที่มีอยู่ตอนนี้คือ พิมาลาที่เข้มแข็งและสตรองมาก! ยกตัวอย่างฉากที่จะพาไปชมเบื้องหลังกันวันนี้ เป็นการปะทะกัน 3 คนผัวเมียที่แท้จริง “พิมาลา-ฤกษ์-ใจเริง” ฉากนี้เป็นฉากหลังจากที่ใจเริงโทรเข้ามารายการที่พิมาลาเป็นดีเจอยู่แล้วกระซิบบอกเพื่อนรักเบาๆ สองคำว่า “ ฉันท้อง!” พิมาลาแทบล้มทั้งยืนเมื่อได้ฟัง และยิ่งอยากล้มอีกเมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วพบว่า ใจเริงย้ายข้าวของของตัวเองเข้ามาอยู่ในบ้าน ทั้งยังเอาเสื้อผ้าของเธอออกมากองนอกตู้ พอดีกับที่ฤกษ์กลับมาเจอพอดี หลังจากทุ่มเถียงกันอย่างออกรสชาติ ฤกษ์ลืมตัวผลักใจเริงล้มลงบนเตียง ใจเริงค่อยๆ เอามือกุมท้อง

เห็นอย่างนั้นต่อมคนดีของพิมาลาก็เริ่มทำงาน เธอรับไม่ได้ที่ใจเริงลากเอาเด็กในท้องที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในวังวนอันอุบาทว์นี้ พิมาลาออกปากว่า “ยอมแพ้!” ขอยกทุกอย่างให้ใจเริง อยากได้อะไรเอาไปเลย พร้อมกับโบกมือลาไปแบบสวยๆ งานนี้คุณผู้ชมอาจจะร้องเห้ย! เดี๋ยวก่อนค่ะ ไปฟังผู้กำกับฯ พูดก่อน

เติม-ชนินทร เอ่ยปากว่า “ฉากนี้เป็นอีกหนึ่งฉากที่ชอบมากที่สุดในเรื่อง เป็นฉากที่แสดงให้เห็นว่าตัวละครตัวนี้ (พิมาลา) กำลังจะเดินออกจากจุดที่มืดมนที่สุด เพื่อมาหาแสงสว่าง มันคือการหลุดพ้นจากความทุกข์ที่แท้จริง คนดูจะเห็นว่าแม้พิมาลาจะลุกขึ้นสู้หรือกลับไปคืนดีกับฤกษ์เพื่อเย้ยใจเริง แต่ตลอดเวลาเธอไม่มีความสุขเลย การที่จะทำให้ตัวเองบรรลุมากที่สุดคือเดินออกมาจากวังวนอันน่าสมเพชนั้น หลังจากหลุยส์ที่หลุดพ้นแล้ว คนต่อมาก็คือ พิมาลานี่แหละ”

เป็นที่มาของคำว่า “ยอมแพ้ไม่ได้แปลว่าไม่ชนะ” อย่างแท้จริง งานนี้ถือเป็นซีนยากอีกฉากที่ผู้กำกับฯ คนเก่งอย่างพี่เติมถึงกับต้องกุมขมับ แม้ว่าบทจะเขียนมาดีเหลือเกิน แต่พี่เติมก็แอบกังวล กลัวนักแสดงจะสื่อสารออกมาได้ไม่มากพอ งานบรีฟยาวๆ จึงต้องมา งานนี้มีซักซ้อมกันหลายที เบลล่าเองน้ำตาคลอตั้งแต่ตอนซ้อม จนเอาจริง พอสั่งเดินกล้องนักแสดงทุกคนก็เล่นกันแบบเต็มที่มากๆ แต่ช่วงแรกยังไม่ถูกใจผู้กำกับฯ มากนัก “ต้องการความเป็นคนขึ้นอีกหน่อย” พี่เติมกล่าว นั่นคือสิ่งที่อยากได้จากการสื่อสารของนักแสดง

งานนี้ทั้งเบลล่า เจนี่ และป้อง รวบรวมสติเริ่มสตาร์ทใหม่ตั้งแต่เจนี่เดินเข้าห้องหอมา แล้วเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อผ้าของอดีตเพื่อนรักมาโยนทิ้ง เพื่อจะเอาเสื้อผ้าตัวเองกลับเข้าไป แอมแปร์ (แอ๊ด) คนใช้จอมแย่งซีนขึ้นมาโวยวายพร้อมกันกับที่ฤกษ์และพิมาลาเองมาถึงบ้าน งานประจันหน้ากัน 3 คนเริ่มขึ้นอีกครั้ง ป้องด่าเจนี่อย่างรุนแรง เจนี่เองก็ไม่ถอย แสดงแววตาเกรี้ยวกราดใส่ป้องทั้งๆ ที่น้ำเสียงยังออเซาะ ป้องหงุดหงิดจัดผลักเจนี่กระเด็นติดเตียง

ฉากนี้เจนี่แอบกระซิบทีหลังว่าเจ็บจริง เพราะป้องแรงเยอะมาก! พอเครื่องเริ่มติด นักแสดงทุกคนก็เริ่มพรั่งพรู เบลล่าเห็นเจนี่เอามือกุมท้องก็นึกขึ้นได้ว่าเพื่อนท้อง (กับสามีตัวเองน่ะแหละ) น้ำตาของพิมาลาไหลลงไม่ขาดสาย เธอออกปากว่ายอมแพ้แต่ในใจรู้สึกมั่นคงมากๆ พอกันทีสำหรับวังวนอันน่าสมเพชนี้ หลังจากจบซีน พี่เติมสั่งคัทพร้อมพูดว่า “มันต้องอย่างนี้สิ!” เป็นอันจบซีนยากไปอีก 1 ซีน

ฝากถึงทีมพิมาลา ว่าอย่าเพิ่งงอแงที่เห็นพิมาลายอมแพ้ งานนี้เธอคือผู้ชนะอย่างแท้จริง ที่หลุดออกจากบ่วงกรรมได้อย่างรวดเร็ว แต่…บ่วงกรรมยังไม่จบแค่นั้นค่ะคุณผู้ชม กรรมที่ทำร่วมกันมานั้นมีมากเหลือเกิน ไอ้ที่บอกว่ายอมแพ้แต่ดูชนะสุดนั้นจะเป็นยังไง ติดตามชมกันได้ในวันพุธที่ 13 กันยายนนี้ กับ “เพลิงบุญ”