รีวิว BABY DRIVER คบคนพาลพาลพาไปหาผิด
BABY DRIVER มีตัวละครเอกเป็นเบบี้ (แอนเซล เอลกอร์ท) เด็กชายวัยรุ่นที่หน้าตาไร้เดียงสา แต่ฝีมือในการขับรถของเขาจัดได้ว่าไม่ธรรมดา เผลอๆอาจจะเป็นญาติห่างๆของโดมินิค เทอเรตโต้ในแฟรนชายส์ FAST ก็เป็นได้เพราะการขับรถหนีตำรวจหรือว่าเข้าโค้งนั้นก็จัดได้ว่าเทคนิคแพรวพราว ยิ่งไปกว่านั้นการรับจ๊อบของเขาก็เรียกได้ว่าเป็นงานเสี่ยงตาย เพราะเบบี้ไม่ได้ขับแท็กซี่ไทย หากแต่ขับรถรับอาชญากรปล้นธนาคารจากจุดปล้นไปยังจุดปลอดภัย!
เบบี้ยังมีเทคนิคเฉพาะตัวในการหลบหนีด้วยการใช้ “จังหวะเพลง” ในไอพอดของเขาซึ่งทำให้เขาสามารถหลบหลีกรถตำรวจได้เป็นอย่างดี เขาทำงานให้กับด็อค (เควิน สเปซีย์) ราชายาเสพย์ติดผู้กำลังมีโชคจากการปล้นธนาคารกลางวันแสกๆ ซึ่งมีคนร่วมขบวนการอาทิบัดดี้ (จอน แฮมม์), คู่หูสาวฉาวโฉ่ของบัดดี้ ดาร์ลิง (ไอซา กอนซาเลซ) และแบทส์ (เจมี ฟ็อกซ์) เสือปืนไว
ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนแปลงไปเมื่อเบบี้ตัดสินใจจะถอนตัวจากการเป็น “คนขับรถ” เพื่อออกมาทำมาหากินในอาชีพสุจริต อีกทั้งโจเซฟ (ซีเจ โจนส์) ชายชราหูหนวกที่อยู่กับเบบี้อยากให้เขาเลิกทำอาชีพผิดกฎหมาย ประกอบกับเบบี้เริ่มตกหลุมรักกับสาวเสิร์ฟอย่างเด็บบอรา (ลิลลี เจมส์) แต่แน่นอนว่าโลกแห่งอาชญากรรมก็เรียกตัวเขากลับไปอีกครั้ง
ตำรวจละครเบบี้นั้นจัดได้ว่าเป็นตัวละครที่น่าสนใจมาก ถึงแม้ว่าเขาจะมีความสามารถในการขับรถที่เก่งกาจแค่ไหน แต่เมื่อเรามองให้ดีแล้วเราจะพบว่า เบบี้เป็นคนประเภทที่ “เว้นระยะห่าง” กับผู้ร่วมงานไว้เสมอ เขาอาจจะเป็นคนร่วมขบวนการก่ออาชญากรรมก็จริง แต่ลึกๆแล้วเขาไม่ได้อยากจะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มดังกล่าว หรือเราอาจจะเทียบเคียงกับบุคลิกของคนในสังคมการทำงานที่มีอยู่จริงก็คือ คนประเภทนี้เมื่ออยู่ในที่ทำงานจะมีบุคลิกและการแสดงออกแบบหนึ่งเพื่อปกป้องตัวเอง แต่เมื่อเขาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยนอกเวลางานเขาก็จะแสดงอีกบุคลิกหนึ่งออกมา
ในโลกของ BABY DRIVER เราอาจจะได้เห็นการก่ออาชญากรรมเป็นเรื่องง่ายดาย แต่ในขณะเดียวกันมันทำให้เราเห็นว่าการที่ตัวละครอย่างเบบี้ที่ถลำตัวเขาไปทำงานผิดกฎหมายแล้ว ต่อให้เขาจะกลับตัวกลับใจแค่ไหนก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่เขาทำไว้ก็ตามกลับมาให้เขาต้องชดใช้สิ่งที่ทำไปอยู่ดี การเอาตัวรอดหรือความพยายามจะหลีกหนีความเลวร้ายนั้น แทบเป็นไปไม่ได้เลย มิหนำซ้ำยิ่งเวลาในหนังดำเนินไปเราจะยิ่งได้เห็นความเลวร้ายที่ตัวละครอย่างเบบี้ต้อง “ทำ” ในที่สุด แม้ว่าเขาเคยจะต่อต้านความรุนแรงเช่นนั้นก็ตาม
BABY DRIVER จัดเป็นหนังที่สนุกทั้งเรื่องราว วิธีการเล่า และสไตล์ของหนัง น่าเสียดายที่หนังเข้าฉายในบ้านเราช้ามาก ช้าเสียจนรู้สึกว่าถ้าหนังได้เข้าฉายพร้อมๆกับอเมริกาเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กระแสของหนังเรื่องนี้คงจะ “เปรี้ยง” มากกว่า “กริบ” แบบนี้