รีวิว BUSHWICK – อย่าปล่อยให้วิธีการเด่นกว่าบทภาพยนตร์
"หนังเรื่องนี้ถ่ายทำด้วยวิธีการแบบ LONG TAKE ทั้งเรื่อง” นี่คือจุดขายของหนังแอ็คชั่นเรื่องนี้ ทว่าเมื่อเราพิจารณาจากการชมภาพยนตร์แล้ว เราจะได้พบได้ว่าหนังยังแอบใช้วิธีการ “โกงคนดู” ด้วยการอาศัยการตัดต่อแบบแนบเนียน ไม่ว่าจะเป็นการซูมเข้าไปในชุดของตัวละครเพื่อหลบการเชื่อมต่อ การเหวี่ยงกล้องแบบรวดเร็วจนสายตาคนดูจับไม่ทัน หรือกระทั่งช่วงกลางเรื่องของหนังที่เปลี่ยนช่วงเวลาแบบดื้อๆ เราจึงไม่สามารถเรียกหนังเรื่องนี้ว่าเป็นหนังที่ถ่ายทำแบบยาวๆโดยไม่มีการ “คัต” ได้จริงๆ
สไตล์ของหนังแอ็คชั่นประเภท Long Take นั้นคือการอาศัยกล้องที่ติดตามตัวละครใดตัวละครหนึ่งไปตลอดทั้งเรื่อง ภาพส่วนมากที่ใช้ในหนังประเภทนี้มักจะมีหลายประเภทตั้งแต่ Close up – Long Shot – Full Shot แต่ทั้งนี้ความพิเศษของหนังในกลุ่มนี้คือการวางมุมกล้องที่ชัดเจน และจะเล่าเรื่องในมุมของตัวละครหลักเท่านั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่มันถูกเล่าจากสายตาของคนอื่น นั่นจะหมายถึงมีการ “คัต” ทันที
ก่อนอื่น BUSHWICK เป็นหนังที่ถูกเรียกตามชื่อ “ย่านที่อยู่อาศัย” ย่านหนึ่งในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งอยู่ในส่วนของบรูคลินส์ติดกับย่านควีนส์และเกลนเดล และหนังเล่าเรื่องราวไปที่ลูซี่ (บริททานีย์ สโนว์) นักศึกษาสาวที่กำลังเดินทางกลับที่พักไปพร้อมๆกับแฟนหนุ่ม แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อมีการจู่โจมจากกองกำลังทหารไม่ทราบฝ่าย ทำให้เธอต้องหนีหัวซุกหัวซุนเอาชีวิตรอด หลังจากแฟนหนุ่มของตัวเองโดนระเบิดตายไปต่อหน้าตา โชคดีเธอได้พบกับสตู้ป (เดฟ บาทิสต้า) อดีตนาวิกโยธินที่ช่วยเหลือเธอระหว่างการเอาชีวิตรอด
อย่างไรก็ตามหนังหยิบเอาประเด็นทางการเมืองอันแสนร้อนแรงของสหรัฐอเมริกา ที่ว่าด้วยการขึ้นครองอำนาจของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์อันนำไปสู่ความรุนแรง ที่ทำให้เกิดสงครามการเมืองขึ้น แต่ตลอดทั้งเรื่องหนังก็ไม่ได้ทำให้คนดูเข้าใจว่าตกลงแล้วจริงๆมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แถมตัวละครในการเดินเรื่องโดยเฉพาะลูซี่ก็จัดได้ว่ามีบุคลิกที่น่ารำคาญมากกว่าจะชวนเอาอกเอาใจช่วย ถึงแม้ว่ามันอาจจะพอสะท้อนความเป็นจริงในการเอาตัวรอดของผู้หญิงคนหนึ่งก็ตาม แต่ในภาพรวมแล้วมันก็ไม่ได้เราอยากตามติดตัวละครตัวนี้สักนิดเดียว จนฉากสุดท้ายมาถึง คนดู(อย่างเราก็ได้แต่อุทานว่า ทำไมไม่มีฉากนี้ตั้งแต่ชั่วโมงก่อนเราจะได้กลับบ้านตั้งนานแล้ว!)
ยิ่งไปกว่าแล้วการที่หนังอย่าง BUSHWICK ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในแง่ของ “เทคนิค” ที่หลอกคนดูไม่เนียน หรือกระทั่งบทภาพยนตร์ที่เหลวไหลไร้สาระจวบจนกระทั่งหาความบันเทิงไม่ได้ ยิ่งไปทำให้หนังเรื่องนี้อยู่ในประเภท “หนังท่าดีทีเหลวอย่างแท้จริง”
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ