5 หนังเกี่ยวกับราชวงศ์อังกฤษอันเป็นที่รักของปวงชน

 

ประเทศไทยมีความผูกพันกับระบอบกษัตริย์มาเป็นเวลานานเช่นเดียวกันกับประเทศอังกฤษที่มีลักษณะสำคัญคล้ายคลึงกัน ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ  ทรงเป็นที่มาแห่งความยุติธรรม  และทรงเป็นที่มาแห่งเกียรติยศ รวมไปถึงการปฏิบัติพระราชกรณียกิจมากมาย เรื่องราวในรั้วในวังจึงเป็นเรื่องราวที่ผู้ชมมักจะให้ความสนใจและต่อไปนี้คือ 5 หนังที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์อังกฤษเรื่องดังที่คุณควรรับชมสักครั้ง

 

 

ELIZABETH (1998)

เรื่องราว                พระราชินีอลิซาเบธ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อนาม The Virgin Queen ซึ่งพระองค์ทรงประกาศตอนขึ้นครองราชย์ว่าจะไม่อภิเษกสมรสกับชายใดเลย โดยวรรคทองที่พระนางได้กล่าวและเป็นที่ได้รับการจดจำในประวัติศาสตร์โลกคือประโยคที่ว่า “เราได้แต่งงานกับประเทศอังกฤษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” สาเหตุที่พระองค์เลือกจะครองโสดเนื่องจากความรักของพระองค์นั้นไม่ค่อยราบรื่นนัก

ความโดดเด่น      พระราชินีอลิซาเบธในหนังเรื่องนี้นำแสดงโดย เคท บลันเชตต์ ซึ่งความโดดเด่นของเธอในการสวมบทบาทนี้เรียกได้ว่าทำได้อย่างน่าเชื่อถือและไม่มีที่ติ จนกระทั่งวันประกาศผลรางวัลออสการ์ ตำแหน่งนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมที่เธอเต็งจ๋าอันดับ 1 กลับโดนปาดหน้าเค้กไปโดยนักแสดงนำหญิงอย่างกวินเน็ธ พรัลโทรว์จากหนังเรื่อง Shakespeare in Love ในปีเดียวกันไปอย่างหน้าตาเฉย อย่างไรก็ตามหนังมีภาคต่อตามออกมาในชื่อ Elizabeth: The Golden Age ในปี 2007 ซึ่งคราวนี้ เคท บลันเชตต์ ได้เข้าชิงรางวัลอีกครั้งแต่ก็พ่ายแพ้ให้กับมาริยง โกติยาห์จาก La vie en rose ไป  

 

 

THE QUEEN (2006)

เรื่องราว               ภายหลังจากการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอาน่า ประชาชนได้พุ่งเป้าไปที่การแสดงความโศกเศร้าที่ดูขัดหูขัดตาของพระราชินีเอลิซาเบธที่สอง โดยสื่อประเทศอังกฤษประโคมข่าวต่อว่า ว่าพระองค์ไม่มีหัวใจ ไม่ให้เกียรติเจ้าหญิงผู้เป็นที่รักของคนทั้งโลก ในขณะที่นายกรัฐมนตรีอย่าง โทนี่ แบลร์ที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งเข้ามาทำหน้าที่หมาดๆ กลับเป็นผู้เดียวที่ได้สัมผัสความรู้สึกอันอ่อนไหว เปราะบางของพระราชินีเอลิซาเบธที่สองแบบที่ประชาชนไม่เคยล่วงรู้มาก่อนเลย

ความโดดเด่น      การที่นักแสดงอย่างเฮเลน มิเรนท์สวมบทบาทพระราชินีเอลิซาเบธที่สองได้อย่างลึกซึ้ง เข้าถึงอารมณ์ของคนหัวใจสลายแต่ยังต้องพยายามเข้มแข็งและต่อสู้กับกระแสสังคมที่ต้องการความอาลัยอาวรณ์อย่างมาก เธอแสดงออกมาได้ยอดเยี่ยมจนรางวัลออสการ์ในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมตกเป็นของเธอ นี่เป็นผลงานการกำกับของ สตีเฟน เฟียร์ส ที่เพิ่งมีผลงาน Victoria and Abdul ไปหมาดๆ

 

 

THE YOUNG VICTORIA (2009)

เรื่องราว             สมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรียแห่งอังกฤษในวัย 17 ที่ต้องรับมือกับปัญหารอบด้าน เนื่องจากเธอกำลังจะต้องสืบทอดพระราชบัลลังก์จากพระราชาวิลเลียม ท่ามกลางการแย่งชิงราชบัลลังก์จากคนในรั้วในวัง เธอได้พบกับเจ้าชายอัลเบิร์ตแห่งแซ็กซ์-โคบูรก์ ที่เรียกได้ว่าเป็นรักเดียวของพระนาง และนำมาซึ่งยุคสมัยที่พระนางกลายเป็นพระราชินีที่สามารถครองราชย์นานที่สุดในโลก

ความโดดเด่น      เราอาจคุ้นเคยกับคำว่ายุควิคตอเรีย ซึ่งยุคสมัยดังกล่าวก็ตรงกับการครองราชย์ของสมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรียนั่นเอง โดยหนังในเวอร์ชั่นปี 2007 นี้นักแสดงที่มารับบทดังกล่าวคือ เอมิลี่ บลันท์ ซึ่งหนังเรื่องนี้ยังได้รับรางวัลออสการในสาขาเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยมมาด้วย

 

 

The King's Speech (2010)

เรื่องราว             กษัตริย์จอร์จที่ 6 ได้เคยแสดงพระราชดำรัสต่อประชาชนนับล้านในวันที่ 3 กันยายน ปี 1939 ผ่านวิทยุกระจายเสียงเพื่อปลุกใจคนในชาติและให้ผ่านพ้นวิกฤติสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปให้ได้นี่คือพระราชดำรัวที่ดีที่สุดเท่าที่พระองค์เคยตรัสมา ปัญหาเดียวก็คือก่อนหน้านี้พระองค์มีปัญหาในการ “พูดติดอ่าง” และพระองค์ก็ไม่เคยจะปรารถนาที่จะเป็นผู้นำของชาติ และเหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าหากปราศจากนักบำบัดการพูดชาวออสเตรเลียอย่างไลโอเนล ล็อจ

ความโดดเด่น      ด้วยความโดดเด่นในทุกมิติของ The King's Speech ทำให้หนังเรื่องนี้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 4 สาขาและสามารถคว้ารางวัลในสาขา ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (โคลิน เฟิร์ธ) ผู้กำกับยอดเยี่ยม (ทอม ฮูเปอร์) และบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม (เดวิด ซีดเลอร์) ซึ่งเรื่องราวในหนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา อารมณ์ขัน และอารมณ์หม่นเศร้า สะท้อนให้เราเห็นว่ากษัตริย์ก็มีความทุกข์ไม่ต่างจากสามัญชนเลยเช่นกัน

 

 

Diana (2013)

เรื่องราว             เจ้าหญิงไดอาน่าคือเจ้าหญิงที่คนทั้งโลกหลงรักในความงามและพระราชกรณียกิจของพระองค์ หนังเรื่องนี้ตามติดช่วงชีวิต 2 ปีสุดท้ายก่อนที่พระองค์จะประสบอุบัติเหตุรถคว่ำในอุโมงค์และสวรรคตในเวลาต่อมา ซึ่งหนังยังถ่ายทอดให้เราได้เห็นแง่มุมความรักในมุมลับๆของพระองค์กับแพทย์ผ่าตัดหัวใจอย่างแฮสเนท ข่านอีกด้วย

ความโดดเด่น       Diana ในเวอร์ชั่นนี้นำแสดงโดยนาโอมิ วัตส์ แต่กลายเป็นว่าหนังเรื่องนี้ที่บรรดาแฟนหนังเชื่อว่าหนังจะไปไกลถึงเวทีออสการ์ก็ดับวูบเมื่อหนังเข้าฉาย เนื่องจากหนังหลงประเด็นไปเล่าเรื่องความรักแบบลับๆของพระองค์จนไม่สามารถทำให้คนดู “เข้าถึง” ตัวละครได้จริงๆ มิหนำซ้ำคนดูกลับไม่ได้เกิดความซาบซึ้งกินใจในการจากไปของพระองค์ (ในหนัง) ได้เลยเนื่องจากขาดบทภาพยนตร์ที่ดี จนเราอาจจะกล่าวได้ว่าหนังในเวอร์ชั่นนี้คือความล้มเหลวในการหยิบเอาเรื่องราวอันเป็นที่รักของคนทั้งโลกมาสร้างใหม่ได้อย่างย่ำแย่ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว