หนังดีน่าดู STRONGER จากเหตุการณ์จริงสู่หนังบันดาลใจ
15 เมษายน 2013 เกิดเหตุการณ์ช็อคคนทั้งโลก เมื่อมีข่าวการวางระเบิดโจมตีงานบอสตันมาราธอนจากระเบิด 2 ลูกในนครบอสตัน รัฐแมสซาชูเส็ตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 รายและมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 264 คน คนร้ายคือสองพี่น้องเชื้อสายเชเชน แต่หนังเรื่องนี้ไม่ได้โฟกัสไปที่การไล่ตามจับผู้ก่อการร้าย หากแต่พาเราไปทำความรู้จักกับเจฟฟ์ เบาว์แมน ชายหนุ่มผู้โชคร้ายที่เป็นเหยื่อระเบิดและส่งผลทำให้เขาต้องถูกตัดขาทั้งสองข้างและหนังเรื่องนี้คือเรื่องราวของเขา
STRONGER เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร
เจฟฟ์ เบาว์แมน เป็นชายธรรมดาทั่วไปวัย 27 ปี ที่กำลังวาดอนาคตกับ อีริน แฟนสาวไว้อย่างสวยงาม แต่ทุกอย่างกลับพังทลาย เมื่อเจฟฟ์กลายเป็นหนึ่งในเหยื่อที่โดนลูกหลงจากการวางระเบิดที่งานบอสตันมาราธอน เจฟฟ์ตื่นมาในวันอังคารที่ 16 เมษายน 2013 ที่โรงพยาบาลหลังจากทีมแพทย์ผ่าตัดเพื่อรักษาชีวิตเขาแต่ก็ต้องแลกมาด้วยขาทั้งสองข้างที่ต้องถูกตัดออกไป ในขณะเดียวกันเจฟฟ์เป็นคนหนึ่งที่เห็นความผิดปกติก่อนเกิดเหตุการณ์ระเบิดเพราะเขามั่นใจว่าเขาเห็นคนร้าย และเขาคือคนสำคัญที่ให้เบาะแสแก่ตำรวจบอสตัน
เจฟฟ์ไม่รู้ตัวเลยว่าเขาถูกถ่ายภาพตอนขาขาดในสภาพห้อยต่องแต่ง จนเขากลายมาเป็นภาพตัวแทนของเหตุการณ์ความโหดร้ายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าเจฟฟ์จะต้องเสียขาทั้งสองข้างไป เขากลายเป็นฮีโร่ของคนอเมริกาเพียงชั่วข้ามคืน และนี่เป็นช่วงเวลาที่เจฟฟ์จะต้องต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองหนักที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต
จากเรื่องจริงสู่ภาพยนตร์
ท็อดด์ ลีเบอร์แมน แห่งบริษัท Mandeville Films ได้ยินเรื่องราวของเจฟฟ์จากเพื่อนร่วมงานที่เป็นคนเชียร์ให้ เจฟฟ์เขียนหนังสือจากเรื่องราวของเขา โปรดิวเซอร์มากประสบการณ์คนนี้กำลังหาบทหนังเรื่องใหม่ เขาต้องการเรื่องราวที่สามารถมอบแรงบันดาลใจให้กับผู้คนพอๆ กับมอบความสนุกให้คนดู “เรื่องราวที่จุดประกายความหวังในช่วงเวลาที่โหดร้าย” ลีเบอร์แมนกล่าว “ตอนผมได้ยินเรื่องของเจฟฟ์ผมรู้ทันทีว่านั่นคือสิ่งที่ผมตามหา”
แต่ในเวลานั้นเบาว์แมนอยู่ในช่วงแรกของการรักษาตัว และคงจะไม่ถูกกาลเทศะนักถ้าจะไปเยี่ยมในตอนนั้น ในขณะที่เขาพยายามสุดตัวเพื่อเอาชนะอุปสรรคเพื่อให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ท้ายที่สุดเบาว์แมนตัดสินใจเขียนหนังสือออกมาในชื่อ STRONGER และมอบลิขสิทธิ์ดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ให้บริษัทลีเบอร์แมน
จอห์น โพลโลโน คือมือเขียนบทที่รับหน้าที่ในการดัดแปลงหนังสือให้กลายเป็นหนังยาว ตัวเขาชอบที่มันเป็นเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ทำงานในแผนกเดลิเวอรี่อาหารของห้างคอสต์โกซึ่งจู่ๆ ต้องหัดเดินด้วยขา (เทียม) ของตัวเองอีกครั้งทำให้เขาเริ่มตั้งคำถามว่าจะต้องทำอย่างไรหากต้องตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเขา
การค้นหานักแสดงเพื่อรับบทเจฟฟ์ เบาว์แมน
ผู้ที่มารับบทนี้คือนักแสดงหนุ่มเจค จิลเลนฮาล การค้นหาความเป็นตัวละครนี้มันยากกว่าที่เขาคิดไว้ในตอนแรก นักแสดงหนุ่ม พยายามถ่ายทอด เจฟฟ์ เบาว์แมนออกมาโดยไม่สูญเสียความเป็นมนุษย์และความเปราะบางของตัวละคร แต่ด้วยตัวจริงของเจฟฟ์นั้นเป็นคนที่เก็บความรู้สึกของตัวเองไว้ภายใน
เจค จิลเลนฮาลยังนัดพบกับเจฟฟ์ เบาว์แมนในหลายครั้งก่อนเปิดกล้อง เขาพบว่าตัวเจฟฟ์เองนั้นมีความเป็นเด็กอยู่ในตัวเอง ตัวเจฟฟ์ยังไม่ได้แค่มีเสน่ห์ในการพูดเท่านั้นเขายังขี้เล่นมากอีกด้วยแต่ยังไงก็ตามเจคสามารถรู้สึกถึงความเศร้าและความสูญเสียของเขาที่อยู่ลึกลงไปได้ไม่ยาก
การใช้เวลาทำความรู้จักกับผู้คนรอบตัวเบาว์แมนเป็นสิ่งที่ช่วยเจคในการแสดงได้เยอะเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นตัวเจคเองยังเป็นนักแสดงที่เรียกได้ว่ารับบทบาทได้หลากหลายที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้ ไม่ว่าจะเล่นเป็นคนน่ารัก คนเปราะบาง ในหนังเรื่องนี้เขาต้องแสดงบุคลิกคนร่าเริง เคยสุขและเศร้ารวมไปถึงแสดงจุดยืนว่าการสูญเสียขาทั้งสองข้างทำให้เขารู้สึกอย่างไร
“ผู้หญิง” ในชีวิตจริงของเจฟฟ์
อีกหนึ่งตัวละครสำคัญที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้เจฟฟ์ทำอะไรต่างๆ เป็น อีริน เฮอร์ลีย์ อดีตแฟนสาวของเจฟฟ์ที่เขารออยู่ที่เส้นชัยเพื่อขอเธอแต่งงาน แต่ก่อนที่เธอจะวิ่งมาถึงดันเกิดเหตุระเบิดเสียก่อน ซึ่งนักแสดงที่คว้าบทนี้ไปก็คือ ทาเทียน่า มาสลานี จากซีรีส์ไซไฟเขย่าขวัญ “Orphan Black” บทของเธอเป็นตัวละครที่ต้องผ่านโศกนาฏกรรมและมันส่งผลต่อคนรอบข้างเขาอย่างไร เธอโชคดีที่มีโอกาสได้ซึมซับประสบการณ์กับอีรินตัวจริง และเธอยังได้ค้นพบว่าตัวเธอเองกับอีรินนั้นมีสัญชาติญาณที่คล้ายคลึงกันด้วย
ผู้หญิงอีกคนในชีวิตของเจฟฟ์ ก็คือแพตตี้ แม่ที่แข็งแกร่ง มุ่งมั่น รักลูกชายของตัวเองและหัวรั้น ซึ่งได้นักแสดงชาวอังกฤษอย่างมิแรนด้า ริชาร์ดสันมารับบทบาทนี้ ริชาร์ดสันสลัดภาพผู้ดีอังกฤษไฮโซมารับบทแม่บ้านในเมืองเชลม์ฟอร์ด นอกเหนือจากที่ต้องทำให้เธอลดความสง่าแล้วเธอยังต้องหัดพูดสำเนียงบอสตันด้วย อย่างก็ตามตัวริชาร์ดสันไม่เคยเจอตัวจริงจนกระทั่งหนังเปิดกล้อง แต่ตัวละครนี้เป็นการตีความใหม่ต่างจากชีวิตจริงมากทีเดียว แพตตี้ภูมิใจในตัวลูกชายของเธอมาก เธอเห็นว่าความรักและความห่วงใยของเขาที่มันแสดงออกมาจากเหตุโศกนาฏกรรมช่วงมอบพลังด้านบวกให้กับโลกใบนี้