รีวิว Safe Neighborhood เด็กนรกคบไม่ได้
รีวิวนี้มีการเปิดเผยเรื่องราวของภาพยนตร์
สำหรับ Safe Neighborhood หรืออีกชื่ออย่าง Better Watch Out เล่าถึงช่วงเวลาอย่าง คริสต์มาสอีฟ คือค่ำคืนที่น่าจะเป็นวันแห่งการเฉลิมฉลอง ครอบครัวต่างมาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา แต่นี่คงไม่ใช่สำหรับครอบครัวของลุค (เลวี่ มิลเลอร์) ที่พ่อแม่ของเขาเดินทางออกไปเฉลิมฉลองเทศกาลดังกล่าวนอกเมือง ส่งผลให้แอชลี่ (โอลิเวีย เดอจอนจ์) มารับหน้าที่ในการเป็นพี่เลี้ยงเด็กให้กับลุคชั่วคราว แต่ไม่นานนักความวุ่นวายโกลาหลก็บังเกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ ก็มีผู้บุกรุกเข้ามาในบ้านของลุค ทั้งสองจึงต้องพยายามปกป้องบ้านของตัวเอง และเอาชีวิตให้รอดให้ได้จากค่ำคืนนี้ เหตุการณ์ประหลาดเริ่มทวีความวุ่นวายมากขึ้น เมื่อเพื่อนสนิทอย่างแกร์เรต (เอ็ด ออกเซนบาวน์) แวะมาหาลุคที่บ้าน เสียงเคาะประตูปริศนาและก้อนอิฐที่ถูกโยนเข้ามาในบ้านอย่างไร้ที่มาที่ไป เริ่มสร้างความหวั่นวิตกให้กับทั้งสาม
แต่เรื่องราวที่เราได้พูดไปในย่อหน้าแรกคือช่วงเวลาเพียงแค่ 30 นาทีแรกของเรื่องราวเท่านั้น เพราะเหตุการณ์หลังจากนั้นคือช่วงเวลาที่ลุคได้เผยธาตุแท้ของตัวเองออกมา ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงเวลาเริ่มแรกของเรื่องเรายังได้เห็นความพยายามของลุค เด็กชายวัย 10 ต้นๆ ที่กำลังจะเติบใหญ่เข้าสู่วัยรุ่น ทำให้ฮอร์โมนของเขาน่าจะพลุ่งพล่านและอยากจะจีบแอชลี่เสียเต็มประดา แม้เขาจะรู้ดีอยู่แล้วว่าแอชลี่มีแฟนเห่ยๆ ก็ตาม เหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นแผนที่ลุคและแกร์เรตรวมหัวกันเพื่อแกล้งแอชลี่ และเพื่อทำให้เขากลายเป็นฮีโร่ในสายตาของผู้หญิงที่เขาชอบ
เมื่อแอชลี่ค้นพบความจริงว่านี่เป็นแผนการที่ถูกวางเอาไว้ เธอต่อว่าลุคอย่างหนัก ว่าวิธีการดังกล่าวที่ลุคทำนั้นไม่ต่างอะไรจากการเป็นเด็ก แน่นอนว่าคำพูดดังกล่าวทำให้ลุคโกรธมากและจัดการแอชลี่ด้วยการผลักเธอให้ตกจากบันได!
เหตุการณ์หลังจากนั้นคือการที่หนุ่มน้อยหน้าหล่อ เริ่มผันตัวเองเป็นตัวละครโรคจิต เจ้าแผนการและพยายามเล่นเกมสงครามประสาทกับแอชลี่ ก่อนที่ความวุ่นวายระลอกใหม่จะตามมาและหนนี้คือการนองเลือดของจริง จนกลายเป็นการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดของแอชลี่
แม้ว่า Safe Neighborhood จะเป็นหนังระทึกขวัญก็ตาม แต่สิ่งที่ปรากฏขึ้นในหนัง เราจะได้เห็นว่าบริบทของการเลี้ยงดูลูก ส่งผลให้เด็กคนหนึ่งเติบโตมาเป็นคนที่ใช้ความรุนแรงในแบบที่พ่อแม่ไม่เคยรู้ ปัจจัยประการสำคัญก็คือ “ความรัก” ของคนเป็นพ่อแม่ที่บดบังความจริง หรือบางครั้งก็เชื่อมั่นว่าลูกของตนนั้นเป็นผ้าขาวบริสุทธิ์ คงไม่มีพฤติกรรมเลวร้าย แต่ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ สิ่งเหล่านั้นยิ่งกลายเป็นตัวบ่มเพาะพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์มากเท่านั้น และต่อให้พ่อแม่รู้ มันก็อาจจะสายเกินไปแล้วก็ได้