รีวิว Jumanji: Welcome To The Jungle ตัวเลือกที่แฮปปี้สุดสำหรับปลายปีนี้

รีวิว Jumanji: Welcome To The Jungle ตัวเลือกที่แฮปปี้สุดสำหรับปลายปีนี้

รีวิว Jumanji: Welcome To The Jungle ตัวเลือกที่แฮปปี้สุดสำหรับปลายปีนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ต้องกล่าวนำกันสักนิด สำหรับแฟนหนังบางคนที่ไม่รู้ว่า Jumanji : Welcome To The Jungle นี่คือหนังภาคต่อที่ทิ้งช่วงห่างจากภาคแรกถึง 22 ปี Jumanji เป็นหนังที่สร้างปรากฏการณ์เรื่องหนึ่งในปี 1995 ด้วยพล็อตเรื่องที่แหวกแนว เกมกระดานลึกลับที่พาเอาสัตว์ป่าทั้งขโยงมาป่วนเมือง

และจุดขายว่าด้วยภาพซีจีที่สร้างฝูงสัตว์ได้สมจริงชวนตื่นตาในวันนั้น และในภาคนี้ก็ใช้ชื่อว่า Jumanji : Welcome To The Jungle ไม่ได้มีคำว่าภาค 2 บวกกับเนื้อหาก็ไม่ได้ต่อเนื่องจากภาคแรก เพียงแต่คงเอกลักษ์ของเกมป่าดงไว้เท่านั้น

รอบนี้ จูแมนจี้ ก็เปลี่ยนภาพลักษณ์ตัวเองจากเกมกระดานมาเป็นวีดีโอเกมแทน ภาคแรกนั้นเป็นหนังฮิตของโรบิน วิลเลียมส์ ในบท อลัน พาริช เมื่อภาค 2 ถูกประกาศสร้างก็เลยมีเสียงต่อต้านจากแฟนคลับของโรบิน วิลเลียมส์ ว่าไม่ควรไปแตะต้อง แต่ทางผู้สร้างก็บอกว่าเขาสร้างภาคต่อนี้มาด้วยความเคารพและเป็นการสดุดีต่อบทบาทของโรบิน วิลเลียมส์ ซึ่งในหนังก็มีการกล่าวถึงอลัน พาริช ไว้ด้วยเป็นเพียงจุดเดียวของภาคนี้ที่พาดพิงไปถึงตัวละครในภาค 1

โปสเตอร์ภาคแรก Jumaji (1995)

หนังใช้เวลาแนะนำตัวละครหลักทั้ง 4 ไม่นาน ว่าแต่ละคนมีบุคลิกเช่นไรแล้วเพราะเหตุใดจึงต้องถูกทัณฑ์บนให้มาทำความสะอาดห้องใต้ดิน ทั้ง 4 เจอเครื่องเล่นนินเทนโดรุ่นเก่า และตลับเกมจูแมนจี้จึงนำมาต่อทีวีเล่น สุดท้ายก็โดนดูดเข้าไปเป็นตัวละครในเกม ต้องเอาชนะเกมนี้ให้ได้ ถึงจะออกจากเกมไปได้

เนื้อหาในเกมคือโลกป่าดงที่ชื่อว่าจูแมนจี้ มีภูผาหินแกะสลักเป็นรูปเสือ ที่หน้าผากของเสือประดับด้วยอัญมณีก้อนใหญ่สีเขียว แต่โดนแวน เพลต์ ตัวร้ายของเรื่องถอดเอาอัญมณีไปครอบครองไว้ ทำให้เขามีพลังในการบังคับสัตว์ในป่าได้ ไนเจลลูกน้องคนหนึ่งของแวนเพลต์เกิดสำนึกดี ชิงอัญมณีมาได้ แล้วเอามามอบให้กับผู้เล่นทั้ง 4 จากนี้ไปทุกคนต้องหาทางที่ต้องคอยหนีการตามล่าของแวนเพลต์และลูกสมุนและเอาอัญมณีไปใส่คืนที่ภูผาหินถึงจะเสร็จสิ้นภารกิจและออกจาเกมจูแมนจี้ไปได้

การที่รอบนี้กลับด้านเรื่องราวจากที่ป่าบุกเมืองเป็นคนบุกป่าในเกม ด้วยพล็อตแบบนี้ทำให้สอดแทรกสีสันต่างๆ มากมายลงไปในเรื่องได้มาก การทำให้คนกลายเป็นคาแรกเตอร์ต่างๆ ในเกม ก็เป็นไอเดียที่ทำให้เรื่องราวสนุกมากขึ้น

ตัวละครในเกมมีข้อเด่นข้อด้อยต่างกันไปบางตัวเก่งการต่อสู้ บางตัวรอบรู้เรื่องสัตว์ อีกตัวหนึ่งเก่งเรื่องภูมิประเทศ แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงอุปนิสัยที่เป็นตัวตนของผู้เล่นนอกจอไว้ บวกกับไอเดียที่เป็นพื้นฐานสามัญของวีดีโอเกมที่ให้แต่ละคนตายได้แค่ 3 ครั้งในแบบเกม

ถ้าตายครบแล้วก็คือต้องสูญหายไปในเกมตลอดกาล ก็เป็นไอเดียที่ช่วยเสริมเรื่องราวให้ตื่นเต้นมากขึ้น บวกกับการผจญภัยในรูปแบบเกมที่ผู้เล่นต้องใช้ข้อเด่นของแต่ละคนช่วยกันให้ผ่านแต่ละด่านจนไปให้ถึงจุดหมายสุดท้ายของเกมให้ได้

การที่หนังมาในแนวแฟนตาซี ทำให้ผู้เขียนมีอิสระที่จะใส่เรื่องราวเหนือจริงลงไปในบทได้ไม่จำกัด และไม่ต้องลำบากกับการหาเหตุผลมาอธิบายด้วย แต่จุดที่ทำให้ Jumanji : Welcome To The Jungle เดินหน้าไปได้อย่างลื่นไหลมาก คือการแสดงของดารานำทั้ง 4 แม้ภาพบนจอจะเป็นดเวย์น จอห์นสัน , เควิน ฮาร์ต , แคเร็น กิลแลน และ แจ๊ค แบล็ค แต่บุคลิกลักษณะถูกกำหนดตามผู้เล่นจริงนอกเกมที่เป็นเด็กไฮสกูลทั้ง 4 คน หนังเลยเล่นมุกได้มากมายกับแคแรคเตอร์ที่ถูกกำหนดมาแบบนี้ กลายเป็นหนังคอมมีดี้อย่างจริงจังที่มีฉากหลังเป็นหนังผจญภัยในป่า

การรับส่งมุกกันของทั้ง 4 ลื่นไหลอย่างมาก โดยเฉพาะเควิน ฮาร์ต และ ดเวย์น จอห์นสัน นี่เข้าขากันดีเพราะเคยเจอกันมาแล้วใน Central Inteligent เควิน ฮาร์ต ยังคงมาในมาดเดิมคือหนุ่มผิวสีตัวเล็กเสียงดัง แต่ก็ยังเรียกเสียงฮาได้เช่นเคย

แจ๊ค แบล็ค เจอโจทย์ยากสุดเพราะผู้เล่นนอกเกมคือเบธานี่ สาวป๊อปประจำโรงเรียนที่ติดโซเชี่ยลเป็นชีวิตจิตใจ แจ๊ค แบล็คเลยต้องปรากฏตัวในบุคลิกของสาวรุ่นทั้งเรื่อง ฉากฉี่ครั้งแรกเรียกเสียงฮาได้ยาวมากๆ, แคเรน กิลแลน เรื่องแรกที่ได้รับบทนำในหนังหน้าของตัวเองหลังจากเป็นเนบิวล่า สาวต่างดาวสีน้ำเงินหัวเหม่ง แคเร็น มาโชว์หน้าเป๊ะหุ่นเป๊ะให้เห็นกันชัดๆ ว่าสวยจริง แต่โดนเมคอัพกลบมาซะนาน บทรูบี้ ราวนด์เฮาส์ มาในชุดที่ตั้งใจล้อเลียนลารา ครอฟต์ แถมยังใส่ประโยคจิกกัดต้นแบบว่า “ทำไมฉันถึงต้องใส่ชุดแบบนี้มาเดินป่าด้วยนะ” แม้จะมาในภาพของสาวสวย แต่แคเรนก็เล่นเอาฮาจริงแบบไม่ห่วงสวย ชอบมากกับฉากหัดยั่วยวนที่เธอเล่นได้รั่วดีเป็นฉากที่เรียกเสียงฮาได้ยาวๆ ดีใจด้วยที่เธอแจ้งเกิดได้สำเร็จ ปีหน้าแคเรนจะมีหนังมาอีก 4 เรื่อง สองเรื่องในภาพลักษณ์ ”เนบิวล่า” และอีก 2 เรื่องที่เธอได้โชว์หน้าสวยของตัวเอง แถมท้ายด้วยดาราสมทบที่ใส่มาเอาใจสาว ๆ คือนิค โจนาส จากวง Jonas Brothers มาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ติดอยู่ในเกมจูแมนจี้ นิค ได้มาเสียบบทนี้เพราะเดิมทีมผู้สร้างวางตัวเจ้าหนู ทอม ฮอลแลนด์ ไว้แต่เคลียร์คิวไม่ได้

แคเรน กิลแลน แอ็คชั่นร่วมกับสตันท์ของเธอ

แม้ว่าหน้าหนังจะเป็นหนังผจญภัยในป่า แต่อย่างที่กล่าวด้วยความที่หนังเป็นคอมมีดี้จริงจัง ตลอด 2 ชั่วโมงจึงหนักไปทางการรับส่งมุกกันมากกว่าฉากผจญภัย และไม่ต้องเน้นซีจีแบบภาคแรก แต่ก็ยังมีฉากแอ็คชั่นเวอร์ๆ ให้ได้ดูกันในไคลแมกซ์ท้ายเรื่อง แล้วก็ลงเอยด้วยบทสรุปที่สวยงามตามสไตล์หนังครอบครัว เพื่อนแต่ละคนต่างมีเรื่องราวทั้งด้านลบด้านบวกที่เก็บงำกันไว้ในใจ ในช่วงที่ได้ผจญภัยด้วยกันก็มีโอกาสพิสูจน์จิตใจกัน ได้สานต่อมิตรภาพอันดี ทำให้ Jumanji : Welcome To The Jungle เป็นหนังฟีลกู๊ดที่จบลงพร้อมกับรอยยิ้มคนดู เป็นอีกตัวเลือกที่เหมาะมากกับการใช้ช่วงเวลาวันหยุดปลายปีดูหนังด้วยกัน หนังไม่มีคำหยาบนะครับ แต่มีมุกทะลึ่งนิดหน่อยไม่ถึงขั้นลามกครับ หนังเปิดรอบพิเศษ 21 – 27 ธันวาคม เข้าฉายจริง 28 ธันวาคม นี้ครับ

 

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ รีวิว Jumanji: Welcome To The Jungle ตัวเลือกที่แฮปปี้สุดสำหรับปลายปีนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook