“หมดเวลาแล้ว” สุนทรพจน์อันทรงพลังแด่เพศหญิงทุกคนจาก Oprah Winfrey บนเวทีลูกโลกทองคำ

บรรยากาศและควันหลงของงานประกาศรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 75 หรือ Golden Globe Awards 2018 ที่เกิดขึ้นไปเมื่อช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาประเทศไทยยังคงคุกรุ่น นักแสดงมากฝีมือมากมายเรียงรายขึ้นรับรางวัลบนเวที ทว่าที่กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์คงหนีไม่พ้นการที่บรรดานักแสดงพร้อมใจใส่ชุดสีดำเพื่อเป็นการสนับสนุนแคมเปญ “Time’s Up” ต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศ และที่ตราตรึงสุดๆ คงต้องยกให้สุนทรพจน์อันทรงพลังของ โอปราห์ วินฟรีย์ นักแสดงและพิธีกรชื่อดังผู้ทรงอิทธิพลในวงการบันเทิงมากที่สุดของโลกคนหนึ่งนั่นเอง

โอปราห์ วินฟรีย์ ขึ้นเวทีไปรับรางวัล “Cecil B. DeMille” ที่มอบให้เป็นเกียรติสำหรับผู้ทำคุณประโยชน์ดีเด่นให้แก่วงการบันเทิง ซึ่งเธอเป็นผู้หญิงผิวสีคนแรกที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ โดย โอปราห์ ใช้โอกาสนี้ในการตำหนิความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเรื่องเชื้อชาติ การทารุณกรรมทางเพศ รวมถึงอิสรภาพในการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนอีกด้วย

“ฉันอยากให้ผู้หญิงทุกคนที่กำลังรับชมอยู่ในตอนนี้รู้ว่า วันใหม่ปรากฏอยู่บนเส้นขอบฟ้าแล้ว และเมื่อช่วงเวลาแห่งวันใหม่เริ่มต้นขึ้น นั่นก็เป็นเพราะความงดงามของเพศหญิงทั้งสิ้น หลายคนที่อยู่ในห้องนี้ ในค่ำคืนนี้ ทั้งเพศหญิงและชายที่กำลังต่อสู้อย่างหนักเพื่อนำพาเราทุกคนไปสู่ช่วงเวลาที่จะไม่มีใครต้องพูดคำว่า ‘ฉันก็โดนกระทำเหมือนกัน (Me too)’ อีกต่อไป” ใจความหลักส่งท้ายจากโอปราห์

ทว่าก่อนหน้านั้นเธอก็ได้กล่าวยกย่อง ซิดนีย์ ปอยเตียร์ นักแสดงชายผิวสีคนแรกที่ชนะรางวัลออสการ์เมื่อปี ค.ศ. 1964 และ 18 ปีหลังจากนั้น เขาก็ได้รับรางวัล Cecil B. DeMille เช่นเดียวกับเธอบนเวทีลูกโลกทองคำ ไล่เรียงไปจนถึงเหตุการณ์สุดอื้อฉาวที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมบันเทิง ซึ่งเธอรู้สึกว่ามีความรุนแรงกว่าสิ่งอื่นใด

โอปราห์กล่าวขอบคุณผู้หญิงทุกคนที่ยืนหยัดต่อสู้กับการกดขี่ข่มเหง การทารุณกรรมทางเพศ ดังเช่นผู้เป็นแม่ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ผู้เป็นลูกได้เดินตามความฝัน ผู้หญิงที่เป็นลูกจ้าง คนงานในฟาร์ม ในโรงงาน ร้านอาหาร รวมถึงหลากหลายสาขาอาชีพที่พวกเราไม่รู้จักชื่อของเธอ

นอกจากนั้นเธอยังกล่าวย้อนกลับไปสู่ความรุนแรงที่สาวผิวสีอย่าง เรซี เทย์เลอร์ ถูกรุมโทรมโดยผู้ชาย 6 คนในปี ค.ศ. 1944 แต่ก็ไม่สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดได้ “เธอ (เรซี) ก็ใช้ชีวิตเหมือนที่พวกเราใช้ชีวิต เราใช้ชีวิตในวัฒนธรรมอันแตกสลาย ท่ามกลางการรังแกจากเพศชายผู้มีอำนาจมานานหลายปีเกินไป นานจนพวกเราแทบไม่ได้ยินเสียงในใจหรือมีความเชื่อว่า มันจะดีขึ้นได้หากเรากล้าต่อกรกับพลังของเพศชายด้วยความเป็นจริง แต่ตอนนี้เวลาเหล่านั้นหมดลงแล้วล่ะค่ะ” โอปราห์กล่าว

ทั้งนี้กลุ่ม Time’s Up เริ่มเปิดตัวด้วยภาพโฆษณาแบบเต็มหน้าในหนังสือพิมพ์หัวใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยมีสมาชิกอย่าง รีส วิธเทอร์สปูน, กัล กาด็อต และ เอ็มม่า สโตน หลังจากที่เกิดกระแสแฮชแท็ก #Metoo ไปทั่วโลกเมื่อเกิดคดีอื้อฉาวในการล่วงละเมิดทางเพศจากเพศชายที่มีอำนาจในโลกแห่งฮอลลีวู้ดนั่นเอง