เผยปี 2017 ยอดคนเข้าโรงหนังในอเมริกาต่ำสุดในรอบ 25 ปี
เผยยอดคนเข้าโรงภาพยนตร์ในอเมริกาเหนือเมื่อปีที่แล้วตกต่ำสุดในรอบ 25 ปี หวั่นเนื้อหาซ้ำซาก เหตุหนังใหญ่ทำเงินสูงสุด 10 อันดับแรกล้วนเป็นหนังภาคต่อหรือรีบู๊ต
บ็อกซ์ออฟฟิศโมโจรายงานว่า ยอดขายตั๋วภาพยนตร์ในอเมริกาเหนือประจำปี 2017 นั้นอยู่ที่ 1.2 พันล้านใบ ซึ่งลดลงจากเมื่อปีก่อนหน้าถึงเกือบร้อยละ 6 และยังถือเป็นจำนวนที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1992 อีกด้วย แม้จะมีหนังฮิตทำเงินถล่มทลายมากมายไม่ว่าจะเป็น "Wonder Woman", "Guardians of the Galaxy Vol. 2", "Thor: Ragnarok", "Beauty and the Beast" และส่งท้ายปีกันอย่างยิ่งใหญ่ด้วย "Star Wars: The Last Jedi"
ส่วนรายได้ของภาพยนตร์ในอเมริกาเหนือช่วงปีที่ผ่านมาก็อยู่ที่ราว 1.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งลดลงจากยอด 1.14 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อปี 2016 อยู่เล็กน้อย ในขณะที่แนวโน้มเมื่อ 5 ปีก่อนนั้นเพิ่มสูงขึ้นอยู่ตลอด ทั้งนี้ ปีที่มียอดขายตั๋วหนังมากที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกมาได้แก่ปี 2002 ซึ่งมากกว่าเมื่อปีที่แล้วอยู่ราว 337 ล้านใบ
นักวิเคราะห์ชี้ว่า สาเหตุหนึ่งของการชะลอตัวนั้นอาจมาจากการที่สตูดิโอใหญ่ๆ ต่างหวังทำรายได้ด้วยการเข็นหนังภาคต่อหรือหนังรีบู๊ตออกมาอยู่เรื่อยๆ ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมรู้สึกเบื่อหน่ายได้ โดยหนังที่ทำเงินสูงสุดในอเมริกา 10 อันดับแรกของปีที่ผ่านมานั้นไม่มีเรื่องดั้งเดิมแม้แต่เรื่องเดียว นอกจากนี้ ยังมีผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นที่เลือกจะนอนอยู่บ้านและรับชมภาพยนตร์จากบริการสตรีมมิงทั้ง Netflix, Amazon และ Hulu ที่มีให้เลือกชมกันได้อย่างจุใจอีกด้วย