14 หนังรักในดวงใจของ 14 คนดัง ต้อนรับวาเลนไทน์

เข้าสู่ช่วงเทศกาลแห่งความรักกันแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงมีแพลนที่จะทำอะไรให้กับคนที่ตัวเองรักอย่างแน่นอน หรือคนโสดก็อาจมีกิจกรรมที่ทำให้ตัวเองแฮปปี้ในช่วงเวลาวาเลนไทน์แบบนี้เช่นกัน อย่างเช่นการดูหนังอยู่บ้าน (เชื่อว่าหลายคนก็คงไม่อยากเดินเข้าโรงหนังไปอยู่ท่ามกลางคู่รักใช่มั้ยล่ะ) เพื่อให้เข้าบรรยากาศแห่งรัก 14 กุมภาพันธ์ การเลือกดูหนังรักสักเรื่องมาดูก็เป็นไอเดียที่ไม่เลว ว่าแต่จะดูเรื่องอะไรดีนะ?

ใครที่คิดไม่ออกว่าจะเลือกดูหนังรักเรื่องอะไร Sanook! Movie มีไอเดียหนังจากคนดัง 14 คนในวงการบันเทิง มาให้ทุกคนได้เลือกกัน มาดูดีกว่าว่าหนังรักในดวงใจของคนดัง จะมีเรื่องอะไรบ้าง 

เจนนี่ ปาหนัน เรื่อง Seasons Change 

เป็นคนชอบดูหนังมาก กิจกรรมส่วนใหญ่ว่างก็ดูหนังค่ะ เจนนี่เป็นคนชอบดูหนังเอเชีย ญี่ปุ่น ไทย เกาหลี จีน ฮ่องกง แนวนี้เยอะมาก แล้วส่วนใหญ่ที่ดูก็จะเป็นดราม่าเกี่ยวกับความรัก จะชอบรักสามเส้ามาก ถ้าขอหนึ่งเรื่องก็คงเป็น Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ตอนที่เราได้ดูครั้งแรกเรารู้สึกว่ามันตรงกับเราช่วงนั้น แอบรักเพื่อนอยู่อะไรอย่างนี้ ความรักในวัยเรียนมันค่อนข้างเป็นประสบการณ์ชีวิตครั้งหนึ่ง ที่น่ารักกับคนในวัยนั้น แล้วเรื่องนี้ก็ทำออกมาดีด้วย ใช้ดนตรีเข้ามาช่วยในภาพยนตร์ เราก็เลยรู้สึกว่า Seasons Change เป็นหนังแอบรักที่ลงตัวสำหรับเจนนี่ ถ้าให้คะแนน 4.8 เต็ม 5 เราชอบตอนจบที่พระเอกเลือกอยู่กับคนรัก เราก็เป็นคนแอบรักก็อยากสมหวัง มันค่อนข้างคลี่คลายความฝันให้เรา แบบแอบรักก็อยากจะสมหวัง เลยให้คะแนนค่อนข้างเต็มเลย

 

สิงโต ปราชญา เรื่อง About Time

ผมชอบหนังเรื่อง About Time ครับ ผมมีความรู้สึกว่าตัวหนังไม่ได้เน้นไปที่ความรักผู้หญิงผู้ชายที่เป็นแฟนกันอย่างเดียว ยังแสดงให้เห็นถึงความรักระหว่าครอบครัว ระหว่างลูกกับคุณพ่ออีกด้วย ถ้าให้คะแนนผมให้เต็ม 10 เลย เพราะผมดูรอบแรกผมร้องไห้เลย มันมีคำพูดหนึ่งที่เหมือนหนังสอนเรา "ถึงแม้ว่าเราจะย้อนเวลากลับไป จะยุ่งเกี่ยวกับเวลามากขนาดไหน ถ้าคนมันไม่รักก็คือไม่รัก" 

 

คริส พีรวัส เรื่อง วาเลนไทน์ สวีทตี้

วาเลนไทน์ สวีทตี้ ครับ คือ ส.ค.ส. สวีทตี้ กับ วาเลนไทน์ สวีทตี้ เป็นสองเรื่องแรกที่ผมดูแล้วทำให้ชอบพี่แดน และติดตามมาจนวันนี้เลย มันน่ารักมากๆ ในเรื่องมีความรักอยู่หลายคู่ ตัวละครมีเยอะมากเลย ประมาณ 15 คนได้มั้งครับ โดยส่วนตัวคริสชอบพี่แดนเล่นละครอยู่แล้ว ชอบพี่แดนเล่นตลก เวลาเขาเล่นคอเมดี้ เขามีความตลกแบบแปลกๆ (หัวเราะ) ที่ไม่เคยเห็นจากใคร คริสชอบพี่เขาอยู่แล้ว ก็เลยติดตามทั้งสองเรื่องเลย

 

ออฟ จุมพล เรื่อง Love & Other Drugs

ผมชอบ Love & Other Drugs ครับ แอนน์ แฮททาเวย์ เล่นผมชอบนางเอกครับ เล่นได้ดีมากกกก นางเอกเป็นโรคพาร์กินสัน ส่วนพระเอกเป็นหมอปลอมตัวมา ก็ลองไปหาดูกันได้ว่าเรื่องราวมันจะเกิดอะไรยังไง น่ารักมากครับเรื่องนี้ ผมให้เกือบเต็ม 10 สัก 9 เลยครับ

 

กัน อรรถพันธ์ เรื่อง Me Before You 

เรื่อง Me Before You ครับ ก็เหมือนพระเอกเดินไม่ได้ แล้วนางเอกก็ต้องไปอยู่บ้านพระเอก เป็นพี่เลี้ยง ตอนแรกก็ไม่ได้ชอบกันแต่สุดท้ายก็ตกหลุมรักกัน ให้คะแนนผมให้ 8 คะแนนละกันครับ

 

คอปเตอร์ ภานุวัฒน์ เรื่อง คิดถึงวิทยา

คิดถึงวิทยา ครับ มันเป็นหนังรักที่เราไม่ได้รู้ตอนจบว่าสุดท้ายแล้วพระเอกกับนางเอกได้รักกันจริงๆ หรือว่าเป็นแค่จุดเริ่มต้น ตัวหนังก็เล่าผ่านความรักจริงๆ พอคนเรารักกันและรักจริง แล้วมันไปด้วยกัน มันไปควบคู่กัน ถ่ายทอดผ่านตัวการที่เป็นหนังสือเล่มหนึ่งเนี่ย…มันทำให้เรารู้สึกถึงไออุ่นของความรักตลอดทั้งเรื่องทั้งๆ ที่นางเอกกับพระเอกไม่ได้เจอกันเลย ซึ่งเราคิดว่าถ้าชีวิตจริงมันเป็นแบบนั้นก็ดีเหมือนกันนะ เราไม่ต้องแสดงออกแบบหวือหวาแต่ว่าใจเรามันก็รู้แหละ เพราะมันมีบางอย่างที่เชื่อมติดกัน มันก็โอเค

 

คิมม่อน วโรดม เรื่อง My Sassy Girl 

หนังรักในดวงใจผม My Sassy Girl ยัยตัวร้ายกับนานเจี๋ยมเจี้ยม หนังเกาหลีครับ เป็นเรื่องแรกที่ดูแล้วร้องไห้ แล้วก็คงเป็นเรื่องเดียวด้วยที่ร้องไห้ นางเอกน่ารักมากครับ แล้วพระเอกก็ไม่ได้หล่อเวอร์ขนาดนั้น ตอนผมดูก็รู้สึกว่าผมไม่หล่อ แต่นางเอกสวย เขายังเป็นแฟนกันได้ เราเลยรู้สึกว่าคนบ้าๆ บ้องๆ กากๆ แบบนี้ ก็มีแฟนสวยได้ สุดท้ายมันดันไม่สมหวังเท่าไร ผมก็เลยร้องไห้ และผมชอบมากๆ มันทำให้ผมจำมาตลอดชีวิตเลย มันทำให้ผมรู้สึกดี

 

 

ก็อต อิทธิพัทธ์ เรื่อง ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น

เรื่อง ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น ครับ เรื่องนี้เราได้ดูตอนมัธยมต้น ช่วงนั้นกำลังมีปั๊ปปี้เลิฟ แล้วมันตรงกับชีวิตเราดี มันเป็นฟีลลิ่งแบบมัธยมครับ เหมือนกำลังแอบชอบใครสักคนนึง ก็มีความรัก ผิดหวังบ้าง ตามจีบกัน มันตรงกับใจเรามาก ก็เลยชอบเรื่องนี้ครับ

 

บาส สุรเดช เรื่อง  สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก 

ชอบ สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก ครับ ชอบมาก เรื่องราวมันค่อนข้างดีครับ เป็นเรื่องที่คนๆหนึ่งที่พยายามทำหลายๆอย่างเพื่อผู้ชายคนหนึ่ง ให้อะไรหลายอย่างในเรื่องความรักครับ ผมว่าการที่เรารักใครชอบใครมันทำให้เรามีความพยายามแล้วทำให้อาจจะสมหวังบ้าง

 

อิน สาริน เรื่อง About time

ผมชอบ About time ครับ ชอบพล็อตเรื่อง อันดับแรกเลยเราชอบซาวด์แทรกของเขาอยู่แล้ว ชอบเพลงก่อน พอดูว่าประกอบหนังเรื่องนี้ก็เลยไปดู เนื้อเรื่องมันก็เป็นแบบ About time มีการย้อนเวลากลับมาทำอะไรบางอย่าง บางทีเราก็ย้อนกลับมาในชีวิตจริงเหมือนกันนะว่า ในชีวิตจริงของเรา เราจะอยากย้อนกลับไปแก้ไขอะไรแบบนี้หรือเปล่า เป็นหนังที่ชอบเรื่องหนึ่งเหมือนกันครับ

 

กันสมาย ชนกันต์ เรื่อง Your Name 

ชอบ Your Name ครับ เป็นอนิเมะญี่ปุ่น ชอบเพราะว่าถึงมันเป็นการ์ตูนแต่มันสื่อความหมายออกมาได้ดีมาก เป็นรักที่ไร้พรมแดน ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหน ถ้าเราสองคนรักกัน ถึงแม้ไม่เคยเจอหน้ากัน มันก็รักกันได้ชอบอะไรแบบนี้ครับ

  

คารีสา สปริงเก็ตต์ เรื่อง Begin Again 

ชอบ Begin Again ค่ะ เป็นเรื่องที่เราดูแล้วร้องไห้ทั้งเรื่องเลย เป็นหนังรักที่ประทับใจมาก มันเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในชีิวิตเราครั้งหนึ่ง เรื่องของความรักที่มันรักกันมากๆ พอห่างกันเพื่อโฟกัสเรื่องงานแล้วพอกลับมามันก็มีความเหมือนเดิม แต่มีความลับในใจ

 

มุก วรนิษฐ์ เรื่อง Notting Hill 

เรื่อง Notting Hill มันก็ไม่ได้เป็นรักอลังการหวานซึ้งอะไรขนาดนั้น มันเป็นความรักของดารากับคนธรรมดา ก็ได้ผ่านปัญหานั่นนี่มาด้วยกัน จนถึงตอนจบมันก็เป็นอะไรที่สวยงามนะ กับการที่เราได้เปิดตัวกับคนที่เรารักจริงๆ อาจจะอินเพราะอาชีพเราด้วย แต่มันก็ทัชกับใครหลายคน อย่างตัวนางเอกก็ต้องแบบห้ามมีข่าว พอถึงเวลาจริงเขาก็ยอมที่จะมีข่าวเพื่อแลกกับคนๆ นี้ และมันคุ้มมากๆ ค่ะ

 

ปลื้ม ปุริม เรื่อง ตับอ่อนเธอนั้น ขอฉันเถอะนะ

ผมชอบ ตับอ่อนเธอนั้น ขอฉันเถอะนะ ชอบการแสดงของทุกตัวละครเลยครับ เขาสื่อออกมาได้ดีมาก นางเอกน่ารักมาก มันได้ข้อคิดหลายอย่างนะ ที่ตัวหนังมันจะบอกเราจริงๆคือ ชีวิตคนเรามันไม่ได้แน่นอน อย่างในเรื่องนางเอกมีโรคที่ก็รู้ตัวเองว่าจะถึงเวลาของเขา แต่ก็รักษานะ และขาก็ได้เจอพระเอก พอรักษาจนหายและกำลังจะไปเที่ยวกับพระเอก เกิดอุบัติเหตุทำให้ไม่ได้ไปด้วยกัน ผมเลยรู้สึกว่า ชีวิตเราถึงจะป่วยและหาย แต่เราก็ไม่รู้อนาคตจริงๆหรอก มันสอนให้เรารู้ว่า เราต้องรีบทำในสิ่งที่อยากจะทำ อย่างตัวนางเอกเขาเป็นโรคก็จริงแต่เขาก็ไม่ได้จมอยู่กับโรคนั้น หรือเศร้ากับโรคที่เป็น เขาก็ใช้ชีวิตให้มีความสุขอยู่กับปัจจุบัน มีกำลังใจดีมากๆ พระเอกก็เป็นกำลังใจดีให้กัน มันก็ไม่ได้เป็นหนังรักกุ๊กกิ๊ก รักมากอะไรแบบนั้น แต่มันเป็นหนังรักที่สื่อให้รู้ว่าเวลาเราอยู่ด้วยกัน เราควรปฏิบัติต่อกันให้ดีที่สุด ผมว่ามันเป็นหนังรักที่โรแมนติกในตัวของมันเอง โดยไม่ต้องมีช่อดอกไม้ให้กันก็ได้