มองต่างมุม THE FACE SS 4 [EP2] สัตว์ เอฟเฟค และเมนทอร์พิม ซอนย่า
หลังจากเมนทอร์แต่ละคนได้ลูกทีมครบแล้วเรียบร้อย สัปดาห์ที่ 2 ของ All Star จึงเดินหน้าสู่ความเข้มข้นกว่าเดิม ท่ามกลางความคาดหวังของผู้ชมที่คิดว่าใน EP2 บรรดาเหล่าเมนทอร์จะตีกันโฉ่งฉ่างแบบตอนซีซั่นที่ 3 อาจจะต้องผิดหวังไปตามๆกัน เกิดอะไรขึ้นใน EP นี้บ้าง
Master Class แห่งความชะล่าใจ
บรรดาผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านสมรภูมิ The Face กันมาแล้ว Masterclass อาจจะดูไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นนักสำหรับคนที่มีประสบการณ์การทำงานมาบ้างแล้ว “Sorry, I’m a Heart Breaker.” คือโจทย์ของมาสเตอร์คลาสในสัปดาห์นี้ ให้ถ่ายแบบคู่กับลิปสติกและมาสคาร่า ซึ่งเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ มาเป็นกรรมการพิเศษ ตามประสาแบรนด์ เมเบอลีนนิวหยวก กติกาพิเศษใน Masterclass คือผู้ชนะจะไม่ถูกส่งเข้าห้องดำ
ปัญหาของผู้เข้าแข่งขันคือ สติหลุดกันหมดเลยจ้า ลืมกันไปหมดเลยว่านี่คือการถ่ายแบบเพื่อขายสินค้า ทุกคนดูสนุกกันมากมากจนเกินไปว่านี่คือการแข่งขัน จนเจนี่ถึงกับการตั้งคำถามว่า หากคะแนนเต็ม 100 เธอให้คะแนนผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนไม่ถึง 10 คะแนน เช่นเดียวกับบรรดาเมนทอร์ที่เห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ตีโจทย์กันผิด ไม่สนใจกล้อง ดังนั้นวันนี้จึงไม่มีผู้ชนะใน Masterclass และไม่มี Safe Zone ด้วยเช่นกัน
เด็กฝึกงานและสาวจ๊อกกิ้ง
แคมเปญ “The Goddess of Nature and Fire” กับโจทย์วัดใจด้วยการเดินแบบกับงูและปีกติดไฟ โดยมีกรรมการพิเศษมาร่วมตัดสินคือ ป้าตือ สมบัษร ถิระสาโรช และซินดี้ สิรินยา บิชอพ ส่วนกรรมการจากเทรซาเม่ มาเป็นคนบรีฟโจทย์ เดินแบบยังไงให้ผมไม่ดีดไม่ชี้ไม่ฟู หลังจากเมนทอร์แต่ละคนเข้ารีบบรีฟกับกรรมการจบ ได้แยกย้ายไปบรีฟกับลูกทีมของตัวเองกันต่อไป
ทีมบี เปิดตัวเมนทอร์ริต้า ศรีริต้า แต่ผู้ชมสัมผัสได้ไหมว่าเหมือนเธอมานั่งฟังเมนทอร์บีทำงานมากกว่าจะมาช่วยกันเป็นเมนทอร์ ฮัลโหลแล้วแบบนี้เมนทอร์ริต้าจะมาทำไม 55555 ตลอดทั้ง EP นี้จึงเหมือนไม่มีเมนทอร์ริต้าอยู่ด้วยซ้ำไป
ส่วนทีมเมนทอร์ซอนย่า เมนทอร์พลอยก็โผล่เข้าเซทมาในสภาพหน้าสด ไม่แต่งหน้าไม่แต่งตัว มาในชุดวิ่งจ๊อกกิ้ง ขโมยซีนหมดทุกคนกระทั่งผู้เข้าแข่งขัน #ยอมแล้ว
แคมเปญกับการก้าวผ่านความกลัว
ลูกทีมเมนทอร์พิม พลอย อย่างทรายเป็นคนที่กลัวงูมาก แต่เมนทอร์พิมสอนเธอว่าให้ก้าวผ่านความกลัว “ถ้าผ่านความกลัวนี้ไปได้ เธอจะไม่กลัวอะไรอีก” ขณะที่อีกห้องอย่างเมนทอร์ลูกเกดเลือกจะสอนลูกทีมได้น่าสนใจเช่นกัน กับวิธีการรับมือกับงูและไฟ ให้ปล่อยงูเป็นพร๊อพปล่อยเค้าเลื้อยไปและต่อให้เขาหล่นก็ช่างมัน ส่วนฝั่งไฟ ผมจะสลิกไว้ไม่ดีด ไม่ชี้ ดังนั้นให้ลูกทีมแต่ละคนโฟกัสในคาแรกเตอร์ของตัวเอง
เมื่อถึงช่วงเวลาแห่งการแข่งขัน เราจะเห็นได้ทันทีว่า ทีมของเมนเทอร์บีริต้า ลูกทีมเต็มไปด้วยแววตากังวล ส่งผลให้ภาพรวมของโชว์ออกมาดูไม่ลื่นไหลและเนือยน่าเบื่อ ประกอบกับความผิดพลาดของมะปราง ส่งผลให้เมนทอร์และลูกทีมคนอื่นๆเต็มไปด้วยความวิตกหนักกว่าเดิม
ทีมลูกเกดคริส หงส์และน้ำหวานโดดเด่นมากในการเปิดโชว์ ส่วนจีน่ายังปังเช่นเคย เติร์ดอาจจะดูโดดเด่นแต่กับการเดินบนส้นสูงครั้งแรก ส่วนดารัณงูหล่น และนิกกี้จุดไฟบนปีกไม่ติด ในแง่ของภาพรวมทีมนี้ยังควบคุมโชว์ออกมาได้น่าสนใจ
ทีมพลอยซอนย่า ใช้วิธีการโคโรกราฟที่น่าสนใจ เล่าเรื่องน่าสนใจ เปิดฝั่งงูก่อนเปิดตัวฝั่งไฟ ทำให้ภาพรวมดูโดดเด่น แม้ว่าลูกทีมทรายจะกลัวงูมากก็ตาม ปริมและฟ้า โดดเด่น จนท้ายที่สุดแล้วทีมนี้ก็คว้าชัยชนะไป
หรือ All Star จะไม่เหมาะสำหรับผู้ชาย
ไม่ใช่แค่ที่นิกกี้พูดตามความรู้สึก All Star น่าจะเหมาะกับผู้หญิงมากกว่า คนดูก็รู้สึกไม่แตกต่างเลยเหมือนกัน (ผู้ชายไม่ค่อยได้แอร์ไทม์ในรายการ) และการส่งคนเข้าห้องดำในครั้งนี้ นี่คือการทดลองที่สำคัญของลูกเกดที่ตั้งคำถามกับเกมเช่นกันว่า หากนิกกี้ได้กลับมา เกมในซีซั่นนี้อาจจะเป็นคำตอบบางอย่างว่าผู้ชายก็อาจจะไม่ใช่แค่ตัวประกอบ เราก็คงแต่จะต้องติดตามกันต่อไปว่าทิศทางของผู้ชายในซีซั่นนี้จะเป็นอย่างไร
ในห้องดำ นิกกี้ไฟต์เพื่อตัวเองได้น่าสนใจ ส่วนมะปรางยอมรับว่าเธอ “กลัว” ในการผ่านแคมเปญเมื่อวาน เธออยากเรียนรู้เพิ่มเติม อยากจะเติบโตมาแล้วเก่งเหมือนเมนทอร์ซอนย่าในอนาคต แต่การตัดสินของเมนทอร์ซอนย่าเลือกจะพิจารณาจากความผิดพลาดในแคมเปญเมื่อวาน มะปรางจึงกลายเป็นคนแรกที่ต้องออกจากรายการ
เมนทอร์พิม กับสิ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนในรายการ
หลังจากที่เมนทอร์พิมพานิกกี้กลับออกมา กลายเป็นเซอร์ไพรส์ที่ทั้งทีมลูกเกดและทีมบี แกล้งเมนทอร์ซอนย่าให้ออกมาจากห้องดำแล้วไม่เจอใคร เมนทอร์พิมใช้วิธีที่น่าสนใจในการเดินไปที่ห้องเมนทอร์บี เพื่อพูดคุยว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องดำและเธอมาเพื่อขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น เช่นกันเธอเดินไปหาเมนทอร์ลูกเกดถึงห้องว่า “ถ้าลูกเธอโดนส่งเข้าห้องดำ ช่วยส่งลูกๆกลับมาคืนเธอด้วยนะ วันนี้เราเอาลูกเธอมาคืนแล้ว”
ไม่ว่าเมนทอร์พิมจะกำลังเล่นเกมอยู่หรือไม่ กลยุทธ์ที่เธอใช้อยู่ตรงนี้ คือการเอา “น้ำเย็น” เข้าลูบ เราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้อารมณ์ที่รุนแรงในการเผชิญหน้า แก้ปัญหาเสมอไป เมนทอร์พิมทำให้เราให้อีกมุมมองของการปกครองคนและควบคุมสถานการณ์ให้ฝ่ายสูญเสียไม่เจ็บปวดเคียดแค้น ขณะเดียวกันก็สร้างผลประโยชน์ให้กลับมาที่ตัวเองด้วยเช่นกัน
ตลอดทั้ง 4 ซีซั่นที่ผ่านมา (รวมถึง The Face Men) นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่การเจรจาแบบ “การทูต” เกิดขึ้นครั้งแรกในรายการ และคนๆนั้นที่ใช้วิธีการนี้คือเมนทอร์พิม ซอนย่า
ถึงตรงนี้แล้วปีนี้ผู้เขียนก็แทบจะเทใจเชียร์เมนทอร์พิมไปแล้ว ณ ตอนนี้