5 เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับ Black Panther

เชื่อว่าหลายคนน่าจะได้มีโอกาสไปชมหนังเรื่องล่าสุดของมาร์เวลอย่าง Black Panther กันมาแล้ว ตอนนี้เรามีเกร็ดหนังที่น่ารู้ว่า “ส่วนหนึ่ง” กว่าจะมาเป็นหนังความยาว 2 ชั่วโมงเศษแบบที่เราได้ดูกันต้องผ่านฝีมือของ “คนเบื้องหลัง” อะไรกันมาบ้าง ตามไปอ่านกันได้เลย

 

 

การปรากฏตัวครั้งแรก

ตัวละครแบล็ค แพนเธอร์ ปรากฏตัวครั้งแรกใน “Fantastic Four Vol. 1” ฉบับ 52 ตีพิมพ์ในปี 1966 ผลงานของ แสตน ลีและแจ็ค เคอร์บี้ก็ได้กลายเป็นขวัญใจแฟนๆ ด้วยการข้ามเส้นแบ่งทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม เนื่องจากตัวละครนี้เป็นตัวละครชาวแอฟริกัน ที่ฉลาดกว่าซูเปอร์ฮีโร่คนอื่นๆ ของมาร์เวลหลายคนและแข็งแกร่งกว่าฮีโร่ส่วนใหญ่ด้วย

 

 

การขึ้นจอใหญ่โดยผู้กำกับผิวสี

Black Panther เขียนบทและกำกับโดย ไรอัน คูเกลอร์ โด่งดังจากสไตล์การสร้างภาพยนตร์ที่มีตัวละครเป็นตัวเดินเรื่อง 2013 ด้วยดรามารางวัลที่ตราตรึงใจเรื่อง อย่าง “Fruitvale Station” ที่นำแสดงโดยไมเคิล บี. จอร์แดน เช่นเดียวกับ “Creed” ผลงานหลังจากนั้นของคูเกลอร์ที่บอกเล่าเรื่องราวหลังจากที่ตัวละครในตำนานอย่างร็อคกี้ ผันตัวมาเป็นโค้ชให้กับนักมวยผิวสี ซึ่งเขาได้ร่วมงานกับซิลเวสเตอร์ สตอลโลน และ ไมเคิล บี. จอร์แดน อีกครั้งจนอาจจะกล่าวได้ว่าคนหลังเป็นนักแสดงคู่บุญของคูเกลอร์เลยก็ว่าได้

 

 

การปรากฏตัวของแบล็ค แพนเธอร์

ในจักรวาลของภาพยนตร์มาร์เวล การปรากฏตัวของแบล็ค แพนเธอร์ใน “Captain America: Civil War” เป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจ โลกของกัปตันอเมริกาและแบล็ค แพนเธอร์มีความเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด ความเชื่อมโยงจากไวเบรเนี่ยม และเรื่องของสุดยอดทหาร กัปตันอเมริกาเป็นตัวละครที่ให้คำจำกัดความได้ง่าย สำหรับกัปตัน ทุกอย่างเป็นสีดำหรือขาว มีสิ่งที่ผิดและถูก เขาเป็นทหาร ในขณะที่แบล็ค แพนเธอร์อยู่ในพื้นที่สีเทา นอกเหนือจากการเป็นทหารแล้ว เขายังมีหน้าที่ที่สำคัญกว่านั้น ซึ่งก็คือการเป็นนักการเมือง เขาเป็นกษัตริย์ ผู้ซึ่งมีโลกที่ซับซ้อน เขามักจะต้องตัดสินใจท่ามกลางหมอกคลุมเครือทางการเมืองและสงครามอยู่ตลอดเวลา

 

 

วาคานด้าดินแดนอัศจรรย์

การเนรมิตฉากหลังของอาณาจักรวาคานด้า มีความสำคัญมาก ดินแดนแห่งนี้มีอิทธิทางจิตวิญญาณและต้องมีวัฒนธรรมของชาวแอฟริกันอยู่ในหนังด้วย ความลี้ลับและเทคโนโลยีในวัฒนธรรมของประเทศนี้จะมีพื้นฐานจากโลกแห่งความเป็นจริงพร้อมด้วยตัวละครที่เข้าถึงได้ เพื่อให้ผู้ชมได้มีประสบการณ์ที่จับต้องได้

 

ตามตำนานวาคานด้า อาจจะดูเป็นเหมือนประเทศแอฟริกันที่ยากจน แต่ความเป็นจริงแล้วพวกเขามีขุมทรัพย์ของแร่ ไวเบรเนี่ยมที่ล้ำค่า ไวเบรเนี่ยม ซึ่งอาจเป็นที่รู้จักดีที่สุดในฐานะวัตถุดิบที่สร้างความแข็งแกร่งที่เกินกว่าจะจินตนาการได้ให้กับโล่ของกัปตันอเมริกาและเป็นสิ่งที่ผลักดันให้คลอร์หมกมุ่นกับการพิสูจน์การมีอยู่ของมันและการควบคุมพลังของมัน เป็นทรัพยากรเหลือเชื่อ ที่มีบทบาทสำคัญต่อวัฒนธรรมของชาววาคานด้ามาหลายชั่วอายุคน โลหะที่ไร้เทียมทานนี้สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการถูกร้อยผ่านชุดแบล็ค แพนเธอร์ การถูกหลอมอยู่ในโล่ของกัปตันหรือเป็นแหล่งพลังงานให้กับทั้งประเทศ ซึ่งครอบครองแหล่งทรัพยากรไร้ขีดจำกัด ที่จะถูกขุดออกมาใช้ตามต้องการ

 

 

สิ่งที่มาคู่กับไวเบรเนี่ยมคือเทคโนโลยี ความรู้ ความมั่งคั่งและอำนาจ มันก้าวไปไกลเกินกว่าทุกสิ่งที่โลกสมัยใหม่จะสามารถจินตนาการได้และส่งผลให้วาคานด้าเป็นยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี แม้ว่าพวกเขาจะเก็บตัวเงียบก็ตาม ภาพเบื้องหลังม่านหมอกที่ปกคลุมประเทศสมมติวาคานด้าเผยให้เห็นวัฒนธรรมโลกอนาคตที่มีรากเหง้าฝังลึกตามธรรมเนียมแอฟริกัน แต่ภายใต้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยในแบบที่โลกภายนอกก็ไม่เคยจินตนาการถึง

 

 

ฉากในหนังผ่านการดีไซน์สุดล้ำ แท้ที่จริงแล้ว…

ฉากหลังที่เกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้ล้วนแล้วแต่เป็นผลงานของ ฮันนาห์ บีชเลอร์ นักออกแบบมากพรสวรรค์ เธอต้องทำการบ้านอย่างหนักในการเดินทางไปยังประเทศในทวีปแอฟริกา และนำเทคโนโลยีเพิ่มเติมเข้าไปในหนัง อีกทั้งเธอยังต้องพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านการทำเหมืองแร่และโลหะวิทยาเพื่อทำความเข้าใจถึงศักยภาพของวัตถุทรงพลังที่แปลกประหลาดนี้ในแต่ละสภาพ ก่อนที่เธอจะเริ่มต้นใส่มันเข้าไปในสถานที่ต่างๆ ภายในวาคานด้า

 

ฉากวาคานด้าส่วนใหญ่ที่บีชเลอร์และทีมงานของเธอได้ออกแบบได้ถูกสร้างขึ้นบนซาวน์สเตจในแอตแลนตา ซึ่งรวมถึงสภาเผ่า, วาคานด้า ดีไซน์ กรุ๊ป, ห้องวิจัยและพัฒนาของชูริภายในประเทศที่เต็มไปด้วยไวเบรเนี่ยม, ท้องโถงแห่งบุรพกษัตริย์ที่อยู่ใต้ดิน และที่สำคัญที่สุดคือน้ำตกนักรบ ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญตามธรรมเนียมดั้งเดิมของวาคานด้า

 

 

หนึ่งในฉากที่สร้างความตกตะลึงได้มากที่สุดคือฉากภายนอกของน้ำตกนักรบ ที่ถูกสร้างขึ้นในโรงถ่ายทำทางตอนเหนือของแอตแลนตา ฉากนี้จะเป็นภาพแรกที่ผู้ชมได้เห็นเบื้องหลังม่านของวาคานด้า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมรดกเก่าแก่ที่ตกทอดกันมาหลายร้อยปี รวมถึงขบวนแห่ที่ห้อมล้อมพิธีกรรมของพวกเขาด้วย

 

การสร้างฉากน้ำตกนักรบ ที่ได้แรงบันดาลใจจากโอริบี จอร์จ ที่ยิ่งใหญ่ในแอฟริกาใต้ ฉากน้ำตกนักรบมีขนาด 120x75 ฟุต  มีความสูง 36 ฟุต โดยที่บ่อน้ำจะสูงเหนือระดับพื้นดินหกฟุต ซึ่งทำให้หน้าผาจริงมีความสูง 30 ฟุต ทำให้คูเกลอร์และผู้กำกับภาพราเชล มอร์ริสัน สามารถสร้างช็อตกวาดภาพจากทุกมุมเท่าที่พวกเขาจะคิดได้ ไม่ว่าจะเป็นมุมมองโคลสอัพฉากการต่อสู้แอ็กชันภายในสระประลองหรือมุมมองจากด้านบนที่สูงก็ตาม