ปรากฏการณ์ “บุพเพสันนิวาส” กระแสสนั่นพระนคร ลามทั่วถึงเพจทำเนียบรัฐบาล
ย้อนไปสักหนึ่งเดือนก่อน หากใครเรียกเพื่อนว่า “ออเจ้า” หรือชวนเพื่อนไป “เว็จ” ชาวบ้านคงงงกันทั้งบาง แต่เดี๋ยวนี้ สองคำนี้กลับกลายเป็นไวรัลสุดฮิต ที่ใครไม่รู้จักก็คงจะถูกมองเหยียดพร้อมเบ้ปากเลยทีเดียว เพราะในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ละครพีเรียด “บุพเพสันนิวาส” ได้ปลุกกระแสความโบราณครั้งใหญ่ กลายเป็นความเก๋ไก๋ทั่วพระนครไปแล้ว
นอกจากแอ็กติ้งเล่นใหญ่ไม่ห่วงสวยของนางเอกสาว “เบลลา ราณี” ที่กลายเป็นภาพมีมและ GIF สุดฮา รวมถึงแฮชแท็ก #บุพเพสันนิวาส และ #ทีมการะเกด แล้ว ความแรงของละครเรื่องนี้ยังทะลุ “ทวิตภพ” ไปแบบฉุดไม่อยู่ เข้าสู่วงการอื่นๆ ได้อย่างเหนือความคาดหมาย ก็ใครจะไปคิดล่ะว่าวันหนึ่ง วิชาน่าเบื่ออย่างประวัติศาสตร์จะกลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจไปซะได้ อันนี้ก็ต้องขอบคุณ คุณรอมแพง เจ้าของบทประพันธ์ และทีมงานละครทุกคน ที่จุดประกายให้คนไทยหันมาสนใจประวัติศาสตร์ ถึงขนาดเปิดโอกาสให้ห้องสมุดและร้านหนังสือได้เลือกเฟ้นหนังสือประวัติศาสตร์เกี่ยวกับยุคสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ออกมาให้สาธารณชนได้หยิบยืมซื้อหาไปประดับบารมี ให้ได้ชื่อว่าเป็น “ติ่ง” แม่นายการะเกดอย่างมีคุณภาพนั่นเอง
หน่วยงานแรกๆ ที่คว้ากระแสบุพเพสันนิวาสได้ทัน ก็คือหอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ของมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ ที่แนะนำหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และเรื่องราวของมารี กีมาร์ เดอ ปีนา หรือท้าวทองกีบม้า หนึ่งในตัวละครสำคัญของเรื่อง รวมแล้วกว่า 30 รายการ พร้อมลิ้งก์ให้นักศึกษาเข้าไปหยิบยืมได้สะดวก ไม่ต้องนั่งเสิร์ชให้เสียเวลา
ด้านร้านหนังสือสุดชิคแห่งย่านคลองสาน อย่างร้านหนังสือก็องดิด ก็ไม่น้อยหน้า นำเสนอหนังสือประวัติศาสตร์ถึง 3 เล่ม ได้แก่ พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับหมอบรัดเลย์, จดหมายเหตุโกศาปานไปฝรั่งเศส และจดหมายเหตุ ลา ลู แบร์ ราชอาณาจักรสยาม ซึ่งล้วนแต่เป็นหนังสือประวัติศาสตร์ชื่อดัง ควรค่าแก่การซื้อหามาศึกษาช่วงเบรกโฆษณาขณะชมละคร
และอย่างที่บอกว่าคีย์เวิร์ด “บุพเพสันนิวาส” เขาแรงจริงอะไรจริง บรรดาสำนักข่าวน้อยใหญ่ต่างๆ จึงหยิบเอาคำนี้มาใส่ในพาดหัวข่าวดังอย่างข่าวการเสียชีวิตของหนุ่มสาว นักศึกษาเอแบค ที่เกิดวัน เดือน ปี เดียวกัน เวลาไล่เลี่ยกัน ครอบครัวทั้งคู่ไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน บ้านเลขที่ลงท้ายด้วยเลข 3 เหมือนกัน ทะเบียนรถลงท้ายด้วยเลข 39 เหมือนกัน เรียนรุ่นเดียวกัน ในมหาวิทยาลัยและคณะเดียวกัน และเสียชีวิตในวัน เดือน ปีเดียวกัน เวลาไล่เลี่ยกัน ในรถคันเดียวกัน โดยเรียกคู่นี้ว่า “คู่รักบุพเพสันนิวาส”
แต่ตำแหน่งสุดยอดของการเกาะกระแสละครในช่วงนี้ ก็ต้องยกให้กับเพจ “ไทยคู่ฟ้า” ที่ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาลไทย ซึ่งดูอย่างไรก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับละคร แต่ก็อุตส่าห์โยงให้มาเกี่ยวจนได้ โดยทางเพจระบุว่าต้องการ “ส่งเสริมละครน้ำดี บันเทิงแบบมีสาระ ยกระดับจิตใจคนดู เหมือนกับที่ท่านนายกฯ ประยุทธ์ เคยเอ่ยปากชมละครหลายเรื่อง เช่น พิษสวาท รากนครา เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน ฯลฯ ถึงกับบอกว่า ‘ประเทศไทยเป็นมหาอำนาจด้านละคร’ อยากให้ผู้จัดผลิตละครแบบนี้ออกมาเยอะๆ ยิ่งถ้าส่งออกไปขายเป็นสินค้าวัฒนธรรม แบบประเทศเกาหลีใต้ก็น่าสนใจไม่น้อย” แหม...มันน่าภูมิใจจริงๆ
ละครปัง กระแสดี แถมยังไวรัลเช้าเย็นขนาดนี้ น่าจับตาดูต่อไปว่าเทรนด์ใหม่นี้จะลุกลามสู่วงการไหนอีก นอกจากเรียกเพื่อนว่าออเจ้า เรียกแฟนว่าพี่หมื่น บางทีเราอาจได้เห็นสาวๆ นุ่งโจงกระเบน ห่มสไบไปทำงานในย่านสาธร หรือชายหนุ่มหันมาร้องเพลงเรือแก้เครียด ขณะโดยสารเรือด่วนคลองแสนแสบกลับบ้านก็เป็นได้!
ข่าวเพิ่มเติม
แม่นายไม่ได้มาเล่นๆ "บุพเพสันนิวาส" เรตติ้งก้าวกระโดด
บุพเพสันนิวาส ย้อนหลัง และ เรื่องย่อ ละครช่อง3
เลื่องลือทั้งพระนคร ผมทรงใหม่แม่หญิงการะเกด "บุพเพสันนิวาส"