รีวิว Hurricane Heist สนุกแบบบีบี

รีวิว Hurricane Heist สนุกแบบบีบี

รีวิว Hurricane Heist สนุกแบบบีบี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนังแอ็คชั่นพล็อตเรื่องแปลกแหวกฉีก ว่าด้วยการจารกรรมเงิน 600 ล้านเหรียญจากกระทรวงการคลัง โดยอาศัยวิกฤตการณ์ช่วงชุลมุนที่อพยพประชากรออกจากเมืองหนีพายุเฮอร์ริเคนลูกใหญ่ ที่แรกเห็นแล้วชวนให้นึกถึงหนังตระกูล Sharknado อะไรแนวนั้น หนังใช้ดาราเบอร์รองๆ อย่างโทบี้ เคบเบล์ จาก Beh-Hur และ Kong:Skull Island และ แม็กกี้ เกรซ ลูกสาวคนสวยของคุณพ่อจอมดุ ไบรอัน มิลล์จาก Taken ไตรภาค ทั้งคู่ก็ยังไม่อยู่ในระดับที่ใช้ชื่อแปะบน โปสเตอร์มาเรียกคนดูได้ ชื่อเดียวที่พอจะเอามาเป็นจุดขายเรียกความสนใจได้ก็คือ ร็อบ โคเฮ็น ผู้กำกับวัย 69 ที่เป็นผู้กำกับประเดิม 2 แฟรนไชส์หนังสุดฮิตอย่าง The Fast And The Furious และ xXx

หน้าหนังดูมีความเป็นเกรดบีมาก ทั้งโปรดัคชั่น ทีมดาราและพลอตเรื่อง เป็นหนังที่สร้างจากการรวมพลังกันของสตูดิโอเล็กถึง 9 บริษัท มากสุดที่เคยเห็นแล้วมั้ง ชื่อแต่ละบริษัทไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ลงขันกันมาได้ 35 ล้านเหรียญ แล้วก็ไปขุดผู้กำกับรุ่นคุณปู่ให้มารื้อฟื้นวิชากำกับหนังแอ็คชั่นขึ้นมา หนังปูความตัวละครหลักได้ดีนะ เปิดเรื่องย้อนไปยุค 90s พี่น้องวิลล์ และ บรีซ ในวัยเด็กต้องสูญเสียพ่อไปกับพายุเฮอร์ริเคน เลยเป็นรอยแผลฝังใจเกี่ยวกับเรื่องพายุ ตัดมาในยุคปัจจุบัน วิลล์ โตมาเป็นดอกเตอร์ทางด้านพยากรณ์อากาศ ส่วนบรีซพี่ชายก็ปักหลักอยู่ในอลาบามาเมืองเกิด เปิดร้านซ่อมสารพัด ถึงวันโกลาหลอีกครั้งเมือวิลล์ตรวจเจอว่าเฮอร์ริเคนแทมมี่ พายุลูกใหญ่สุดในประวัติศาสตร์กำลังจะเข้าถล่มเมืองอลาบามาอีกครั้ง

ตำรวจทำการอพยพประชากรออกจากเมือง และบังเอิญที่ว่าเมืองเล็กๆ นี้ดันเป็นที่ตั้งของศูนย์ทำลายธนบัตรเก่าของกระทรวงการคลัง เคซี่ คอร์บิน เจ้าหน้าที่สาวขับรถบรรทุกเงิน 600 ล้านเหรียญ มาเข้าเครื่องทำลายวันนี้พอดี เลยเป็นโอกาสเหมาะที่แก๊งโจรโฉดวางแผนปล้นเงินในวันที่เมืองปลอดผู้คนแบบนี้ แล้วก็บังเอิ๊ญอีกที่เครื่องปั่นไฟฟ้าขัดข้องในวันนั้น เคซี่ คอร์บิน อาสาออกไปตาม”บรีซ”ช่างประจำเมืองให้มาซ่อมเครื่องสำรองไฟฟ้า บังเอิญอีกที ก่อนออกไปเธอนึกเฉลียวใจ เปลี่ยนรหัสเข้าห้องนิรภัยดีกว่า พอเคซี่ ออกไป แก๊งโจรก็บุกมาปล้นพอดี แต่แผนการผิดพลาดเข้าห้องนิรภัยไม่ได้ เพราะเคซี่เปลี่ยนรหัสไปแล้ว แก๊งโจรเลยต้องออกตามล่าเคซี่ เมื่อตามเจอก็สาดกระสุนใส่กัน ดร.วิลล์ ผ่านมาเจอพอดีเลยช่วยเหลือเคซี่ไว้ทัน วิลล์และเคซี่ เลยต้องผนึกกำลังกันต่อสู้กับแก๊งโจร ที่จับเพื่อนร่วมงานของเคซี่ทั้งหมดเป็นตัวประกันเพื่อแลกกับรหัสเข้าห้องนิรภัยจากเธอ

บทหนังเป็นฝีมือของ เจฟฟ์ ดิกซัน และ สก๊อตต์ วินด์เฮาเซอร์ ซึ่งอ่านเครดิตผลงานก่อนหน้าก็หนังแผ่นล้วนๆ ถ้าผู้สร้างใจป้ำเพิ่มทุนอีกนิด จ้างมือเขียนบทที่มีภาษีดีกว่านี้ หนังจะลงตัวกว่านี้มาก ผลก็เลยออกมามีแต่ความบังเอิญเต็มไปหมด พระเอกอยู่ดีๆ ก็เก่งแบบไม่มีเหตุผล ผู้ร้ายก็ร้ายมาตั้งแต่เกิด การเลือกโทบี้ เคบเบลล์ มาเป็น ดร.วิลล์ ก็ยังดูพอไปวัดไปวาได้ แต่รัศมีของความเป็นดารานำก็ยังไม่เห็นนะ โทบี้ ไม่มีเสน่ห์พอที่จะรับบทนำได้ บท ดร.วิลล์ ก็เหมือนถอดแบบ บิลล์ ฮาร์ดิง บทของ บิลล์ แพ็กซ์ตัน จาก Twister (1996) มา ในเวอร์ชั่นที่ทันสมัยขึ้น

โดยเฉพาะรถไฮเทคของเขาที่ทำหน้าที่สีสันของเรื่องได้ดีมาก กับอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ นานาที่ติดตั้งมากับรถ แม็กกี้ เกรซ เป็นดาราที่สวยมากแต่ก็ไม่ดังสักทีนะ กับบทเคซี่ คอร์บีน ที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ ATF รับผิดชอบเงินจำนวนมหาศาล นี่ดูยังไงก็ไม่ใช่กับวุฒิภาวะของเธอที่มองเห็นนะ แล้วมาดแอ็คชั่นจับปืนยิงสู้กับผู้ร้าย วิ่งทำตัวค่อมๆ และอีกหลายฉากก็ดูแล้วเห็นได้ว่าเธอน่าจะไม่เคยผ่านเวิร์คช็อปมาเพียงพอก่อนแสดงจริง ส่วนตัวพระเอก ดร.วิลล์ นี่ก็อยู่ดีๆ แปลงร่างเป็นพระเอกหนังแอ็คชั่นไปแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เสี่ยงตายกระโดดข้ามรถ สาดกระสุนแบบชำนิชำนาญมาจากไหนก็ไม่รู้

แต่ข้อติข้างต้นก็ล้วนดำเนินอยู่บนสถานการณ์แอ็คชั่นที่ใส่มาต่อเนื่อง ไม่เว้นช่วงพักพูดคุยกันนานให้เบื่อ ซึ่งคอหนังแอ็คชั่นถ้าดูแบบไม่คาดหวังอะไรมาก ก็น่าจะได้รับความบันเทิงจากตัวหนังไปพอประมาณ มีฉากสาดกระสุนบ่อย ส่วนดีที่สุดคือหลายๆ ฉากที่ ดร.วิลล์ ใช้ทักษะและความรู้ที่เกี่ยวกับพายุมาเป็นข้อได้เปรียบในการจัดการกับเหล่าโจร และใช้รถล่าพายุของเขาเป็นเครื่องมือ การหาโลเคชั่นก็ทำได้ดูดี เป็นเมืองเล็กๆ ที่ไร้ผู้คนจริง

น่าพึงพอใจสุดคืองานซีจี สร้างภาพพายุเฮอร์ริเคนได้ดูน่ากลัว จริงๆ แค่พายุก็พอแล้วนะ ไม่รู้ไอเดียใครใส่หน้าปีศาจไปบนพายุถึง 2 รอบ เวอร์ไปนะ ฉากเปิดเรื่องที่ทำพายุยกบ้านได้ลอย เศษไม้ปลิวว่อนก็ดูสมจริงดี แต่ตอนเห็นพายุหมุนครั้งแรกใน Twister ก็ยังรู้สึกว่าน่ากลัวกว่านี้นะ  ฉากไคลแมกซ์ที่ต้องห้อรถบรรทุกหนีพายุที่ไล่หลังก็พอให้รู้สึกตื่นเต้นไปกับหนังได้นิดหน่อยนะ อึ้งสุดๆ คือฉากจบเนี่ยล่ะ จบแบบห้วนๆ ซะงั้น แบบว่าไม่รู้จะจบยังไง เอามันแบบนี้แล้วกัน

สรุปได้ว่าเป็นตัวเลือกที่พอให้ความบันเทิงได้ในสัปดาห์ที่มีแต่หนังฟอร์มเล็กเข้าโรงล้วนๆ หนังมีความสนุกอยู่ ไม่ได้แย่ถึงขั้นกับเสียดายเงิน ฝีมือร็อบ โคเฮ็น ในการคุมงานฉากแอ็คชั่นยังพอเก๋าอยู่ เสียที่ว่าแกไม่ได้บทที่ถึงกว่านี้เท่านั้นแหละ งานซีจีก็ดูตั้งใจดี ดูจอเล็กอรรถรสที่มีอยู่น้อยๆ ก็จะยิ่งลดน้อยถอยลงไปอีก หนังสั้นๆ แค่ ชั่วโมงครึ่งครับ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ รีวิว Hurricane Heist สนุกแบบบีบี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook