ผู้ผลิตซีรีส์ "The Crown" ยอมรับ เนื้อหาซีซั่น 3 เสี่ยงที่จะโดนฟ้องหมิ่นประมาท
ดำเนินมาถึงซีซั่นที่ 3 แล้ว กับซีรีส์ทาง Netflix เรื่อง The Crown เรื่องราวชีวประวัติของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร โดยก่อนหน้านี้ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามมาตลอดทั้ง 2 ซีซั่น แต่เบื้องหลังความสำเร็จก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่าย โดยประเด็นนี้โปรดิวเซอร์ออกมายอมรับเองเลยว่า การถ่ายทำในซีซั่นที่ 3 เต็มไปด้วยอุปสรรค
แอนดี้ แฮร์รีส์ (Andy Harries) ซีอีโอจาก Left Bank Pictures บริษัทผู้ผลิตซีรีส์เรื่อง The Crown กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า เนื้อหาในซีซั่นนี้ถือว่ามีความเสี่ยงที่อาจจะโดนฟ้องหมิ่นประมาท “เนื่องจากตามลำดับเวลาแล้ว ภาคนี้เราได้เล่ามาถึงช่วงที่ใกล้เคียงกับปัจจุบันมาก การเล่าเรื่องจึงมีความท้าทายตรงที่ว่า ตัวละครส่วนใหญ่ล้วนยังมีชีวิตอยู่” แฮร์รีส์กล่าว
นอกจากนี้แล้วในซีซั่นที่ 3 ยังต้องมีการคัดเลือกนักแสดงเกือบทั้งหมดอีกครั้ง เนื่องจากช่วงวัยที่เปลี่ยนไป ซึ่งมีซีรีส์เพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้นที่ต้องทำแบบนี้ อย่างเช่นบทของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะเปลี่ยนจาก แคลร์ ฟอย (Claire Foy) มาเป็น โอลิเวีย โคลแมน (Olivia Colman) และบทองค์หญิงมาร์กาเร็ต จะมี เฮเลน่า บอนแฮม-คาร์เตอร์ (Helena Bonham-Carter) มารับบทแทน “ผมคิดว่าเราเป็นซีรีส์ทางโทรทัศน์เรื่องแรกเลยนะ ที่มีการเปลี่ยนนักแสดงระหว่างดำเนินเรื่อง และจะเปลี่ยนอีกถึงสองครั้ง มันดูเสี่ยงนะ แต่ก็น่าตื่นเต้นด้วย ผมหวังว่าวิธีนี้จะช่วยทำให้ซีรีส์สดใหม่และน่าสนใจเสมอสำหรับคนดู” แฮร์รี่ส์กล่าวต่อ
นอกจากการทำสิ่งที่ไม่มีใครทำแล้ว ซีรีส์ดังเรื่องนี้ยังลบสถิติซีรีส์เรื่องอื่นในด้านทุนสร้างด้วย เพราะ The Crown เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ใช้ทุนสร้างมากที่สุด และยังต้องเผชิญปัญหากับเรื่องค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กำลังเจรจาเรื่องข้อตกลงใหม่กับนักแสดงด้วย ซึ่ง แอนดี้ แฮร์รี่ส์ ก็ยอมรับว่า “เราเป็นเหยื่อ... จากความสำเร็จของตัวเอง”
ค่าใช้จ่ายในแต่ละตอนของ The Crown ในสองซีซั่นแรก อยู่ที่ประมาณ 5 ล้านปอนด์ (หรือ 219,258,015 บาท) ต่อตอน ถ่ายทำกัน 22 วัน และ แคลร์ ฟอย ซึ่งรับบทเป็นสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ต้องเปลี่ยนชุดถึง 120 ชุด
ส่วนซีซั่นที่ 3 ที่เริ่มถ่ายทำกันไปในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว จะมีการเปิดตัวบทเจ้าหญิงไดอานาด้วย ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเป็นตอนที่พิเศษมากอย่างแน่นอน
ทางผู้ผลิตยังตั้งเป้าหมายว่า อยากให้ซีรีส์เรื่องนี้เล่าเรื่องได้จนถึงยุคปัจจุบัน ที่คนดูจะได้เห็นภาพประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มาเยือนพระราชวังบักกิงแฮม และเห็น เมแกน มาร์เคิล (Meghan Markle) พระคู่หมั้นของเจ้าชายแฮร์รีด้วย
แม้ในตอนแรกจะมีกระแสจากทางสถานีหรือช่องโทรทัศน์บางแห่งที่มองว่าซีรีส์เรื่องนี้ดูมีความเป็นชนชาติอังกฤษมากเกินไป แต่ในตอนนี้โปรดิวเซอร์ก็กล่าวอย่างมั่นใจแล้วว่า “เราจะไม่เปลี่ยนแนวไปจากนี้อย่างแน่นอน”