มองต่างมุม THE FACE THAILAND 4 [EP.7] ความยากของการทำงานกับลูกค้า
หลังจากมรสุมดราม่าที่ถาโถมเข้ามาตั้งแต่ EP6 หลังจากที่คิวของเมนทอร์พลอยซอนย่า ไม่ว่างมาทำแคมเปญจนรายการต้องให้ผู้ชนะรายการอย่างซาบีน่าและเกรซมารับหน้าที่ดูแลทีมให้ชั่วคราว ยังไม่วายผลการแข่งขันชัยชนะดันไปตกอยู่ในทีมของเมนทอร์ริต้า ในห้องดำเธอตัดสินใจส่งฮาน่าลูกทีมของเมนทอร์พลอยซอนย่ากลับบ้านไปเป็นคนล่าสุด
ตีโจทย์ให้แตก
มาสเตอร์คลาสในสัปดาห์นี้ดูสนุกมากยิ่งขึ้น เพราะได้เมนทอร์ริต้ามาสอนเรื่องการทำการแสดงโดยใช้จินตนาการเป็นวิธีตีโจทย์ วิธีการทำแบบฝึกหัดของเมนเทอร์ริต้าก็เรียกได้ว่า สั้นกระชับแต่ผู้เข้าแข่งขันในรายการเข้าใจสิ่งที่เมนทอร์สอนอย่างตรงกันและทำออกมาได้ดี สื่อสารได้ชัดเจนว่าพวกเขากำลังส่งต่อ “เข็มด้ามคมๆ” กันอยู่นั่นเอง
เมื่อถึงเวลาของแต่ละคนในการทำมาสเตอร์คลาสได้โดดเด่นไม่ว่าจะเป็นสกาย ที่ทำความเข้าใจในการแสดง รันเรื่องราวต่อไปได้ทั้งที่อาจจะรู้สึกสะดุดเพราะเจอกับอุปสรรคไม่ว่าจะเป็นการทิ้งตัวลงบนฟูกที่แข็งมาก ถึงแม้ว่าเจ็บแต่สีหน้าก็ต้องทำเหมือนว่าพวกเธอสบายตัว ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่เราต้องไม่ลืมเลยก็คือการขายผลิตภัณฑ์ ซึ่ง 3 คนที่ทำออกมาได้โดดเด่นประกอบไปด้วย สกาย ดารัณและหงส์ แต่ผลสุดท้าย สกายก็ชนะไปและยังทำให้นิกกี้ คู่การทำแสดงของเธอได้ Safe Zone ไม่ต้องเข้าห้องดำในสัปดาห์นี้ไปด้วย
ทำความเข้าใจบรีฟผิดชีวิตก็พัง
ลูกค้าของแคมเปญในวันนี้มีการบรีฟสั้นๆให้กับผู้เข้าแข่งขันก่อนจะไปฟังบรีฟจากลูกค้าว่าต้องการให้มีการเดินแบบออกมาในแง่ของ “น้อยแต่มาก” แต่กติกาที่เปลี่ยนไปในวันนี้คือไม่ใช่การเดินแบบเป็นทีม ทว่าให้ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนเดินแบบของใครของมัน คนที่ทำผลงานได้ดีที่สุดจะทำให้ทีมชนะ และลำดับในการเดินจะเป็นไปตามที่นิกกี้และสกายเลือก
ถึงแม้ว่าช่วงก่อนแคมเปญจะเริ่มรายการจะไม่ได้ตัดให้คนดูเห็นว่าเมนทอร์แต่ละคนเข้าไปรับบรีฟกับลูกค้ามาว่าอย่างไรบ้าง แต่เอามาให้เราดูเฉพาะช่วงที่เมนทอร์แต่ละคนมาบรีฟลูกทีมเลย
เมนทอร์คริสตีความว่า อยากให้ลูกทีมของเธอเดินแบบออกมาให้เหมือนมีความรู้สึกว่า “แน่ รวย เงินเยอะ”
เมนทอร์ซอนย่า ตีความว่า อยากให้ลูกทีมไม่ต้องทำอะไรเยอะๆ และวิธีการทำโชว์คือทำให้แต่ละคนมีรูปแบบต่างกันเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง (ซึ่งวิธีการทำโชว์ของเมนทอร์ซอนย่ามักจะมาในรูปแบบนี้โดยตลอด ประมาณว่าลูกค้าน่าจะชอบสักคนแหล่ะ)
เมนทอร์ริต้า ตีความว่าอยากให้สกายเป็นคนเปิดโชว์แบบอลังการ เล่นใหญ่ๆขโมยซีนและฆ่าคนที่จะเดินต่อเธอให้ดรอปไปเลย
เวทีปราบเซียน
นานๆทีที่เราจะเห็นรายการปล่อยให้ผู้เข้าแข่งขันได้มีโอกาสซ้อมกับเวทีจริง ซึ่งเวทีในวันนี้ก็คงต้องบอกว่าเป็นรันเวย์ประเภทเสี่ยงตายมาก เนื่องจากขั้นบันไดมีความแคบ ความชันของเวทีมีการทำให้ไม่เสมอกัน รวมไปถึงพื้นผิวของเวทีที่มีทั้งพื้นยางและพื้น LED เราได้เห็นถึงความอันตรายของเวทีหลังจากที่จีน่าเดินแล้วหน้าทิ่มลงมาจากเวทีในช่วงตอนจะจบ หรือความประหม่าของผู้เข้าแข่งขันหลายคน ที่ไม่สามารถเดินได้อย่างกระฉับกระเฉง
โชคยังดีที่รายการยังให้ผู้เข้าแข่งขันมีโอกาสลองผิดลองถูก ทำความเข้าใจกับหน้างาน เพราะไม่เช่นนั้นแล้วคิดว่าน่าจะมีหลายคนที่เกิด “อุบัติเหตุ” อาจจะมากกว่าการที่ เจนนี่หน้าทิ่มตกจากเวทีไปแบบน่ากลัวจนหน้าเกือบจะฟาดพื้น แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมันเป็น “รายการเพื่อความบันเทิง”
เผยให้เห็นความจริงก่อนมาบรีฟโจทย์ลูกทีม
รายการในวันนี้ใช้วิธีการ “หักมุม” คนดูว่าเหตุผลที่เมนทอร์ริต้าเข้าใจโจทย์ผิดนั้นเป็นเพราะ เธอทำความเข้าใจลูกค้าผิด หากลองย้อนดูซ้ำๆเราจะพบว่า ลูกค้าพยายามบอกโจทย์ที่ว่า Always get more with me นำเสนอตัวตนว่านี่คือฉัน แต่ถ้าดูให้ดีๆ วิธีการพูดของเมนทอร์ริต้านั้นเหมือนการ “เล่าว่าเธออยากทำโชว์ยังไง” มากกว่าจะ “ฟังว่าลูกค้าต้องการอะไร หรืออยากได้โชว์แบบไหน” ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นจุดบอดของเมนทอร์ริต้าที่เราได้เห็นในสัปดาห์นี้ คือการที่เธออยากจะให้รูปแบบของโชว์ เป็นไปในทิศทางที่เธอต้องการมากกว่าจะยอมรับความผิดพลาดในตัวเอง ไม่ว่าการที่เธอโทษลูกค้าว่า “ทำไมลูกค้าไม่พูดว่า Less is more ถ้าเกิดจะเอาเรียบโก้จริงๆทำไมไม่ให้ใส่ชุดราตรีล่ะ แล้วเวทีต้องไม่ใช่แบบนี้ดิพี่”
รายการตัดกลับมาที่เมนทอร์คริสว่า ตอนเธอถามลูกค้าว่าสิ่งที่เขาอยากเห็นนั้นคือ ต้องการเห็นคนน้อยๆเรียบแต่โก้ แล้วมั่นใจในตัวเอง มีความนิ่ง แต่วิธีการถามของคริสคือยิงคำถามแล้วนั่งฟังลูกค้าพูดในสิ่งที่เขาต้องการออกมา มากกว่าการที่จะพรีเซนต์ว่าฉันอยากจะทำอะไรให้คุณดู
บางทีนี่อาจจะเป็นจุดบอดที่เมนทอร์ริต้าอาจจะยังไม่เข้าใจตัวเองดีพอ
ห้องดำกับระเบิดปรมาณูที่ทรายทิ้งไว้
เมนทอร์ซอนย่าเลือกให้ทรายเข้าห้องดำ เพราะเธอเชื่อว่าทรายน่าจะเป็นคนที่แข็งแกร่งพอที่จะใช้เหตุผลคุยกับคริส ในขณะที่ทีมริต้าส่งเจนนี่ที่ตกเวทีเมื่อวาน สิ่งที่เมนทอร์คริสเล่นเกมในห้องดำคือการเล่นสงครามจิตวิทยาในการ ยิงคำถามกลับไปที่สองคนนี้ว่า “พี่ไม่อยากเชื่อเลยว่าทั้งสองคนถึงเข้ามาอยู่ในห้องนี้”
วิธีการตอบของทราย อาจจะใช้ความรู้สึกของตัวเองมากจนเกินไปในการตอบ เธออาจจะเผยด้านที่เปราะบางหรือความน้อยใจแสดงออกมาให้เมนทอร์คริสเห็นความเก่งในตัวเธอ แต่นั่นถ้าหากเรามองในอีกมุมหนึ่ง เราอาจจะพบว่าสิ่งที่ทรายทำอยู่นั้นคือการชักศึกเข้าบ้าน หรือเผยสถานะให้เห็นถึงความไม่ปลอดภัยของทีมตัวเอง จริงอยู่ที่เธออาจจะเก่ง มีความสามารถจริง และสิ่งที่เธอจะน้อยใจก็ไม่ใช่เรื่องผิดอีกเช่นกัน แต่สิ่งที่ทรายทำในห้องนั้นคือการ ยกเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นว่าเธอกำลังเป็นคนที่ “เก่งกว่า”
ในขณะที่เจนนี่ถูกยิงคำถามลองใจที่ว่า “หนูคิดว่าหนูเก่งกว่าเทียไหม” เจนนี่บอกว่าหนูเป็นคนที่ด้อยประสบการณ์ที่สุดแต่หนูไม่คิดว่าตัวเองจะพัฒนาให้เท่ากับคนอื่นไม่ได้ คริสยังถามต่ออีกว่า “ใครเป็นลูกรักของทีมริต้าคะ” เจนนี่อาจจะกัดฟันพูดหรือไม่ก็ตาม แต่เธอก็เชื่อว่าเธอมาทำหน้าที่ในห้องดำเพราะเป็นตัวแทนของทีม เธอจึงตอบอย่างจริงใจว่า “พี่เขารักทุกคนเท่าๆกันค่ะ พี่เขาสอนทุกอย่างตั้งใจ”
แต่ท้ายที่สุดกลายเป็นเจนนี่กลายเป็นคนที่ต้องออกไปจากการแข่งขันในสัปดาห์นี้ และหลังจากห้องดำคริสออกมาเพื่อเล่นสงครามประสาทต่อนอกห้องดำในการปั่นประสาทลูกทีมฝั่งตรงข้าม จนท้ายรายการอติล่าถึงกับพูดว่า “ทีมเราตอนนี้เหมือนกันเหลืออยู่ 3 คน และมีมะเร็งอยู่อีกหนึ่ง”
มาดูกันต่อไปว่ารายการจะขยี้ปมดังกล่าวไปอีกแค่ไหน และ EP ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นอีกกับเมนทอร์บี
อัลบั้มภาพ 14 ภาพ