รู้ไว้... (ก็เท่านั้น) ก่อนดู Deadpool 2

การกลับมาครั้งสำคัญ (หรือก็ไม่สำคัญ) ของฮีโร่ (และแอนตี้ฮีโร่ในตัวเอง) อย่างเดดพูล หนึ่งในตัวละครสุดจี๊ดที่โลกซูเปอร์ฮีโร่เคยมีมา นอกจากจะเกรียน กวนประสาท ปากหมา หน้าตาอัปลักษณ์ (เพราะโดนไฟคลอกจนผิวหนังเยินไปหมด) แต่การกลับมาคราวนี้เขามีเรื่องราวบางอย่างกลับมาให้เราเซอร์ไพรส์กันด้วย แต่มีบางเรื่องที่คุณก็ควรจะรู้ไว้บ้างก่อนไปดูหนังภาคนี้

 

 

ภาคแรกทำเงินมหาศาล

ด้วยสไตล์หนังที่เป็นเอกลักษณ์และโฉบเฉี่ยว อีกทั้งยังเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ตั้งใจทำเป็นหนังเรท R เต็มขั้น ตอนแรกสตูดิโอก็กลัวว่าการที่ทำหนังแนวนี้เป็นเรทอาร์อาจจะเป็นการตัดรายได้ แต่เปล่าเลยเมื่อสิ้นสุดการฉาย Deadpool กลายเป็นหนังที่กวาดรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ 783 ล้านเหรียญจากทั่วโลก! แต่จริงๆแค่ 3 วันหลังจากหนังภาคแรกเข้าฉาย สตูดิโออย่างฟ๊อกซ์ก็ไฟเขียวให้เริ่มโครงการภาคต่อทันที

 

 

เปลี่ยนตัวผู้กำกับนะจ๊ะ

ใน Deadpool ภาคแรกนั้นเป็นผลงานการกำกับของทิม มิลเลอร์ แต่สำหรับภาคนี้ผู้กำกับคือเดวิด เลตช์ จาก “John Wick” และ “Atomic Blonde” มาทำหน้าที่ควบคุมและถ่ายทอดการแสดงผาดโผน สไตล์และฉากแอคชั่นมากขึ้นกว่าเดิม

 

 

ควบหลายหน้าที่

พระเอกหนุ่มไรอัน เรย์โนลด์ส หลังจากที่เขาเคยสวมบทเดดพูลครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้วใน X-Men Origins: Wolverine (2009) แต่บทครั้งนั้นก็ไม่ได้เฉิดฉายนัก เขาเป็นตัวละครวายร้ายที่มีจุดจบที่น่าอเนจอนาถพอสมควร การที่เขาเจรจากับสตูดิโออยู่นานในการชุบชีวิตตัวละครเดดพูลให้กลายเป็นหนังเดี่ยวนั้น กลายเป็นความคิดที่ถูกต้องอย่างมาก หลังจากที่เขาร่วมทำหน้าที่เขียนบทและอำนวยการสร้างหนังภาคแรกแล้ว ภาคนี้เขาก็ยังควบหน้าที่เดิมทั้งหมด รวมถึงแสดงนำเองอีกเช่นเคย

 

 

ด้วยคาแรกเตอร์ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน

เดดพูลเหมือนกับตัวละครใน ‘คนค่อมแห่งน็อทร์-ดาม’ ภายนอกเขาต้องเสียโฉม อัปลักษณ์แต่เขาเป็นคนสนใจความรู้สึกคนอื่น เขามีอดีตที่น่าสนใจ เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยความหวัง มีพลังสมานแผลได้ ยากที่จะเอาชนะเขาได้ เขาเป็นคนไม่เชื่อในเรื่องอะไร เขาชอบพูดจาตลกปนหยาบแบบคายที่เราพูดไม่ได้แต่คนก็ชอบที่จะฟังอะไรแบบนั้น พูดในอีกแง่คือเดดพูลก็ไม่ค่อยชอบตัวเองนัก เขาทำตัวไร้เหตุผลเหมือนเด็ก ชอบใช้ความรุนแรง ชอบก่อกวน มีอะไรหลายอย่างที่ซูเปอร์ฮีโร่คนอื่นไม่มี และเขาเทียบไม่ได้กับซูเปอร์ฮีโร่ด้วยซ้ำ เขาเหมือนพวกแอนตี้ฮีโร่ที่สวมชุดซูเปอร์ฮีโร่

 

 

ทำลายกฎแห่งความคาดหวังของคนดู

มือเขียนบทอย่างไรอัน เรย์โนลด์ส แรทท์ รีส และพอล เวอร์นิค ยอมรับว่าการสานต่อความสำเร็จจากภาคแรกเป็นความกดดัน ทุกรายละเอียดในหนังคือเรื่องจำเป็น แต่พวกเขาก็มองว่าถ้าตราบใด ที่บททำให้เราหัวเราะได้และมีน้ำตาไหลออกมา นั่นเป็นน้ำตาแห่งความสุข และนั่นคือพวกเขากำลังมาถูกทาง บทหนังที่ออกมาจึงเดินหน้าตามแนวทางเดิมแบบภาคแรก เพิ่มเติมคือการเสียดสีและการกวนประสาทของภาพยนตร์คอมเมดี้เรท R และ Deadpool 2 เป็นยิ่งกว่าหนังแอ็คชั่น เพราะหนังภาคนี้จะเล่นกับความคาดหวังของคนดูในหลายๆมุม และทำลายกฏแห่งความคาดหวังของคนดูทิ้งซะ

 

 

เคเบิ้ลตัวละครวายร้ายในหนังภาคนี้

จอช โบรลิน นักแสดงผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ และมีผลงานแสดงภาพยนตร์มากมาย ตั้งแต่ “No Country For Old Men” และ “Sicario” จนย้อนไปถึงหนังคลาสสิคอย่าง “Goonies” รวมไปถึงการรับทธานอส ในจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวลกับ Avengers: Infinity War สำหรับ “Deadpool 2” โบรลินรับบทตัวละครที่ได้รับความคาดหวังอย่างสูงว่าจะปรากฏบนหน้าจออย่าง เคเบิล ที่เดินทางข้ามเวลาได้ เขาเป็นนักรบที่ติดเชื้อไวรัสเทคโน-ออแกนิคที่ทำให้เขาเหมือนหุ่นยนต์ แต่สิ่งที่จะทำให้คนดูตะลึงที่สุดคือฉากที่ตัวละครนี้ถอดเสื้อโชว์กล้ามเป็นมัดๆของเขา ซึ่งตัวจอช โบรลินต้องต้องใช้เวลาออกกำลังกายนานหลายเดือนและปรับนิสัยการกินอย่างเคร่งครัด เขารู้สึกภูมิใจมากที่เขามาถึงจุดที่เรียกว่า “หุ่นดีที่สุดในชีวิต” (จะแซ่บแค่ไหนต้องไปดูบนจอใหญ่)

 

 

โดมิโน ตัวละครฮีโร่หญิงที่มาพร้อมกับดวง

มนุษย์กลายพันธุ์คนใหม่ลำดับที่ 98 เธอมีความร้ายกาจและมีพลังพิเศษ ซึ่งเป็นพลังลึกลับที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เหมือนพลังแห่งความโชคดี เธอคาดเดาไม่ได้เลยเพราะตรงนั้นนั่นเอง ซาซี่ บีตซ์ คือนักแสดงที่คว้าบทนี้ไปครอบครอง เธอสามารถรับมือกับความกวนประสาทของเดดพูลได้เพราะตัวเธอเองเป็นคนชอบพูดเสียดสีและกวนประสาท ร่วมหัวจมท้ายกับเดดพูลและไม่สนใจความงี่เง่าของเขา โดมิโนมีโลกของเธอ เธอไม่เหมือนเพื่อนร่วมทีมซะทีเดียว เธอมีแนวทางของเธอเอง เธอถูกจ้างมาจึงต้องทำหน้าที่ของตัวเองและค่อยถอนตัว เธอรู้ว่าตัวเองอยู่จุดไหน

 

 

ไฟร์เออร์ฟิสต์ เด็กเจ้าปัญหากับชนวนแห่งความวุ่นวาย

ไฟร์เออร์ฟิสต์ หรือ รัสเซล(จูเลียน เดนนิสัน) เด็กอ้วนที่เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของผู้ชายที่ทำตัววิปริตหลุดโลก รัสเซลอยู่ในช่วงที่ย่ำแย่ เขาทั้งโกรธและเศร้า เขาอยากระบายมันออกมาและทำลายทุกสิ่ง ไม่ต่างกับไฟร์เออร์ฟิสต์เขาสามารถปล่อยลูกไฟออกมาจากมือได้  พลังของเขาคือส่วนเติมเต็ม มันแสดงออกมาเมื่อเขาโกรธเต็มที่ แต่มากไปกว่านี้คือให้จับตาตัวละครนี้ให้ดี เพราะเขาคือตัวละครที่พลิกกระดานของหนังภาคนี้ไปมาอยู่ตลอดเวลา