รีวิว Terminal ที่สุดของนางพญาขาโหด ซาดิสต์และโรคจิตตัวแม่

รีวิว Terminal ที่สุดของนางพญาขาโหด ซาดิสต์และโรคจิตตัวแม่

รีวิว Terminal ที่สุดของนางพญาขาโหด ซาดิสต์และโรคจิตตัวแม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สารภาพว่าติดใจฝีมือการแสดงของ มาร์โกต์ ร็อบบี้ ทั้งจาก ฮาร์ลี ควินน์ ใน Suicide Squad และนักสเก็ตน้ำแข็งผู้อื้อฉาวใน I, Tonya มาก จนเมื่อเห็นหน้าหนังล่าสุดอย่าง Terminal ในชื่อไทยเหี้ยมๆ ว่า ‘เธอล่อ จ้องฆ่า’ แล้ว รู้สึกได้ว่าหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นงานที่ฮาร์ดคอร์ที่สุดตั้งแต่ดูเธอมาในบทบาทของ แอนนี่ สาวเสิร์ฟมาดเซ็กซี่อันตรายที่ซ่อนความลับมากมายไว้เบื้องหลัง ประกอบกับกลิ่นอายนีโอนัวร์ บรรยากาศวิชวลนีออนสีจัด ๆ ตัดกับความมืดมิด ชวนนึกถึง Only God Forgives หรือว่า Neon Demon มาก ๆ

Terminal ยังเป็นหนังเรื่องแรกของ วอห์น สไตน์ ผู้ช่วยผู้กำกับจาก Beauty and the Beast และ World War Z ที่เรื่องนี้เขามารับเขียนบทควบคู่ไปด้วย หลัก ๆ เลยก็คือเป็นเรื่องราวของนักฆ่าสองคน วินซ์ (เด็กซ์เตอร์ เฟลทเชอร์) และ อัลเฟรด (แม็กซ์ ไอรอนส์) ที่รับงานมาจากผู้ว่าจ้างปริศนา ซึ่งระหว่างภารกิจนั้นก็มีตัวละครอย่าง แอนนี่ สาวเสิร์ฟสวยเผ็ด, บิล (ไซมอน เพกก์) อาจารย์ที่กำลังป่วยหนักและมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน รวมทั้ง คลินตัน (ไมค์ ไมเยอร์ส) พนักงานทำความสะอาดบนสถานีรถไฟผู้ซึ่งไม่ค่อยจะเต็มบาทปรากฏตัวขึ้นมา ซึ่งปรากฏว่า ภารกิจที่ วินซ์ และ อัลเฟรด ได้รับมานั้นมีความเกี่ยวพันบางอย่างกับ แอนนี่ ด้วย

หนังเซ็ตฉากมาให้เห็นถึงความมืดมนและสิ้นหวังในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ ซึ่งหนังก็ค่อย ๆ เดินเรื่องไปอย่างช้า ๆ ค่อย ๆ ปูแบ็คกราวน์ ศึกษาตัวละครไปทีละตัว โดยมี แอนนี่ เป็นศูนย์กลาง หนังค่อย ๆ เปิดเผยความสัมพันธ์ทีละนิดในลักษณะหว่านแหไม่ลงลึก ใช้วิธีเล่าแบบตัดสลับเหตุการณ์ไปมาจนบางทีก็รู้สึกว่าเนือยไปหน่อย อาจทำเอาหลับกันไปได้เลยถ้าจิตไม่แข็งจริง (ฮา)

Terminal ไม่ได้มีตัวแสดงอะไรเยอะ การเซ็ตฉากขึ้นมาแบบเมืองสมมติ และมีตัวละครแค่ 4-5 ตัวเดินเรื่อง แต่ก็ถือว่ามีเส้นเรื่องที่ดี ปมซับซ้อนต่าง ๆ ของแต่ละตัวที่เชื่อมโยงกันนั้นน่าสนใจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพลอตเรื่องนั้นแทบจะเรียกได้ว่าสร้างมาเพื่อให้สาว มาร์โกต์ ร็อบบี้ ได้ปล่อยของแบบครบองค์ ไม่ว่าจะเป็น แววตาร้าย ๆ ที่แฝงไปด้วยความเคียดแค้นบนใบหน้าเปื้อนยิ้มดุจเพชรฆาต อินเนอร์ของเธอที่ทำให้รู้สึกถึงความน่ากลัวและสวยน่ารักในคนเดียวกัน นี่มันนางพญาในเวอร์ชันเพิ่มเติมความหลอนขึ้นมาอีกแปดสิบตีนถีบชัด ๆ

อย่างไรก็ตาม ความสนุกของหนังที่แท้จริงมันอยู่ในช่วง 20 นาทีสุดท้าย ที่ทุก ๆ อย่างค่อย ๆ คลี่คลายปมออกมา ซึ่งชอบในความหักมุมหลายชั้น และนี่คือจุดพีคที่เซอร์ไพรส์คนดูได้ยอดเยี่ยม เพียงแต่อาจมีจุดที่มาดร็อปเอาตอนท้ายที่หนังเฉลยความจริงในอดีต ตรงนี้รู้สึกว่ามันปูมาไม่ดี ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดของ แอนนี่ ที่มีต่อศัตรูที่แท้จริงของเธอในวัยเด็ก มันติดตรงนี้จริง ๆ แต่วิธีการที่เธอใช้แก้แค้นนั้น ต้องบอกว่าเธอเหมาะกับบทผู้หญิงซาดิสต์และโรคจิตมากที่สุดคนหนึ่งของวงการหนังโลกเวลานี้เลย

แน่นอนว่า Terminal อาจไม่ได้เดินเรื่องสนุกเท่ากับหนังก่อนหน้านี้ของ มาร์โกต์ ร็อบบี้ แต่นี่คืองานที่เธอได้ใช้ความสามารถทางการแสดงออกมามากที่สุดเรื่องหนึ่งในระดับมาสเตอร์พีช หนังในช่วงท้าย ๆ อาจผูกปมได้ดีไม่สุด แต่แค่มาดูวิชวลในงานโปรดักชันสวย ๆ และความร้ายกาจของเธอก็คุ้มแล้ว

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook