รีวิว HEREDITARY ความสยองที่มาแบบไม่ทันตั้งตัว

รีวิว HEREDITARY ความสยองที่มาแบบไม่ทันตั้งตัว

รีวิว HEREDITARY ความสยองที่มาแบบไม่ทันตั้งตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

ระหว่างที่เฝ้าสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวของกระแสโซเชียลของคนที่ไปชมภาพยนตร์เรื่อง HEREDITARY มาจะพบว่า เสียงจะค่อนข้างแตกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจนว่า ถ้าหากไม่ชอบ ก็จะเกลียดไปเลย ส่วนหนึ่งค่อนข้างเข้าใจว่าคำว่า “น่ากลัว” สำหรับคนกลุ่มหนึ่งอาจจะหมายถึงหนังผีที่เน้นการ “ตุ้งแช่” (ซึ่งจินตนาการภาพตามได้ว่า หนังที่คนกลุ่มนี้คาดเอาไว้ว่า HEREDITARY น่าจะคล้ายๆกับบรรดาหนังในจักรวาล The Conjuring เป็นต้น) แต่เมื่อสิ่งที่หนังเรื่องนี้สร้างความน่ากลัวในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งตรงกันข้ามกับความคาดหวังของคนดูกลุ่มนี้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกเขาจะเกลียดมันเข้าไส้ และไม่เข้าใจว่าหนังเรื่องนี้ต้องการจะสื่อสารอะไรกับตัวของเขา  

ความพิลึกพิลั่นของหนังจะว่าไปแล้ว เริ่มต้นตั้งแต่ฉากแรก เมื่อหนังใช้วิธีโคลสอัพกล้องจากหน้าต่างทะลุเข้าไปสู่โมเดลบ้าน ก่อนจะตัดสลับภาพซ้อนทับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนั้นอีกที ไม่ว่าฉากนี้จะแทรกสอดนัยยะอะไรก็ตาม แต่มันก็ทำให้คนดูเห็นว่า การจัดวางองค์ประกอบภาพของหนังเรื่องนี้มีความสำคัญต่อการเล่าเรื่องของหนัง และทำให้เราต้องพยายาม “สังเกต” สิ่งที่อยู่ในเฟรมภาพมากยิ่งขึ้น

จากนั้นในช่วงแรกของเรื่องผู้กำกับแอรี แอสเตอร์ เลือกจะใช้วิธีการแนะนำตัวละครของครอบครัวแกรแฮมว่าพวกเขามีกิจวัตรประจำวันอย่างไร มีอุปนิสัยอย่างไร ชีวิตพวกเขาผ่านอะไรมา และเมื่อผู้ชมได้ทำความรู้จักกับตัวละครเหล่านี้แล้ว หนังก็เริ่มโยนสถานการณ์ประหลาดเข้ามาใส่คนดูทีละเล็กทีละน้อย เริ่มต้นจากลูกสาวคนเล็ก ชาร์ลี ที่เรียนในชั้นเรียนสำหรับเด็กพิเศษ โดยกิจกรรมยามว่างของเธอคือการประดิษฐ์เครื่องรางจากซากสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นซากนกตาย เธอก็เอากรรไกรไปตัดคอนกแล้วเอามาออกแบบเป็นของสะสม! ก่อนที่จะเริ่มเห็นอาการผิดปกติบางอย่างของคนในครอบครัว

แม้ว่าช่วงแรกๆคนดูอาจจะรู้สึกตั้งคำถามว่านี่เรากำลังดูหนังสยองขวัญในกลุ่มไหนอยู่ระหว่างเรื่องของครอบครัวที่มีลูกสาวมีอาการทางจิต และเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ประหลาด แต่หลังจากที่เหตุการณ์พลิกเรื่องได้เกิดขึ้น ฉากดังกล่าวก็ช็อคคนดูในเลเวลที่กลายเป็นภาพติดตา หนังก็เริ่มผันตัวเองเข้าสู่โหมดของหนังผีที่เริ่มใช้บรรยากาศความไม่น่าไว้วางใจ ไม่ว่าจะเป็นเงาตะคุ่มที่มุมห้อง เสียงรบกวนบางอย่าง หรือแม้กระทั่งดนตรีประกอบเรื่องที่สร้างความไม่น่าไว้วางใจให้กับคนดูตลอดเวลา

เมื่อหนังเริ่มสร้างความน่าหวาดระแวง ผู้ชมจึงเริ่มเกิดอาการกระอักกระอ่วน เพราะเราคาดเดาไม่ได้เลยว่าหนังจะโจมตีคนดูด้วยวิธีการไหน ประกอบกับหนังยังบิดสูตรสำเร็จของหนังสยองขวัญในการหยิบจับเรื่องความเชื่อ โลกหลังความตาย วิญญาณและเรื่องไสยศาสตร์มนต์ดำ เข้ามาผสมกัน จนหลายครั้งที่เราคาดเดาเรื่องราวไปต่างๆนานาๆ ผลสุดท้ายคือเราก็เดาไม่ถูก เพราะหนังสับขาหลอกใส่คนดูครั้งแล้วครั้งเล่า และอะไรก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ตราบเท่าเอนเครดิตของหนังเรื่องนี้ยังไม่ปรากฏขึ้นบนจอหนัง

สำหรับผู้เขียนตลอดเวลาที่รับชมหนังเรื่องนี้ สารภาพตามตรงว่าดูด้วยความเครียดและรู้สึกเหนื่อยมากๆหลังจากดูจบ ตามด้วยเหตุผลที่ระบุไปข้างต้น ดังนั้นแนะนำว่าสำหรับใครที่อยากลองชมหนังสยองขวัญไฮบริดเรื่องนี้แนะนำให้พกยาดมเข้าโรงหนังไปด้วย!

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook